Categories
สูตรอาหาร อาหารเวียดนาม

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม อาหารควบคุมน้ำหนักสำหรับสาวๆ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม อาหารควบคุมน้ำหนักสำหรับสาวๆ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเวียดนาม ที่มีความโด่งดังมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยที่ภูมิอากาศและภูมิประเทศที่คล้ายคลึงทำให้วัฒนธรรมด้านอาหารการกินมีความคล้ายคลึงกันมาก  ปอเปี๊ยะสดเวียดนามเป็นอาหารที่ต้องมีเส้นแป้ง ทานคู่กับผักสดๆเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดๆ จัดได้เป็นอาหารคลีนของคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี งานนี้เอาใจสาวๆที่ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่เดิมปอเปี๊ยสดเวียดนามจะทานกับผักและเนื้อหมู ไก่ หรือหมูยอ แต่ว่าการทานเนื้อสัตว์เหล่านั้น มันจะทำให้เกิดการย่อยยาก ทำให้เกิดปัญหากับระบบย่อยอาหารได้ นั้นอาจจะเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพ วันนี้เราเลยขอแนะนำอาหารคลีน ในฉบับของคนรักสุขภาพ เราได้จัดสรรสูตรอาหารที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดมาให้คุณได้อ่านกัน ถ้าคุณไม่อยากเสียสุขภาพที่คุณรัก เรามาเลือกอาหารที่ดีให้กับตัวเราดีกว่าคะ

ปอเปี๊ยสดเวียดนาม อาหารประจำชาติเวียดนามสู่อาหารสากล

ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม เพราะด้วยปอเปี๊ยะสดเวียดนามเป็นอาหารเวียดนามที่มีชื่อเสียงโด่งดังในภูมิภาคเอเชียและยังเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งของประเทศเวียดนาม แต่เดิมประเทศเวียดนามได้ตกเป็นอาณานิคมของประเทศจีน ทำให้เวียดนามได้รับอารยธรรมการกินจากจีนค่อนข้างมาก เพราะคนเวียดนามส่วนใหญ่นำข้าวจ้าวมาผ่านขั้นตอนต่างๆให้เป็นแป้งเพื่อใช้ในการกินแทนข้าวสวยเหมือนบ้าน และด้วยบ้านเมืองของเวียดนามอุดมไปด้วยพืชผักนานาชนิดทำให้คนเวียดนามจะนำแป้งมาห่อทานคู่กับผักเคียง เพื่อทานเสร็จ พวกเขาก็จะออกไปทำไร่ทำนาเพื่ออกกำลังกาย จึงทำให้คนเวียดนามมีสุขภาพที่ดี 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง สำหรับทาน 2 ที่

– แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม 5-7 แผ่น

– เส้นหมี่ลวก 1/2 ถ้วยตวง

– กุ้งลวก 12 ตัว

– หมูสามชั้นสไลด์ต้มสุก 12 แผ่น

– กระเทียมบดละเอียด 1 ช้อนชา

– พริกชี้ฟ้าตำละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

– ผักกาดหอม 12 ชิ้น

– ดอกกุยช่าย 6 ชิ้น

– น้ำส้มชายชู 2 ช้อนชา

– ฮอยซินซอส 2 ช้อนโต๊ะ

– น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

– เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

– ถั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ

– ผักต่างๆ เช่น โหระพา ผักชี ต้นหอมและสะระแหน่ เป็นต้น

วิธีทำ-น้ำจิ้ม

1.เริ่มจากการทำน้ำจิ้มกันก่อนนะคะ โดยนำกระทะเล็กๆ มาตั้งไฟแล้วนำกระเทียมผัดกับน้ำมันเล็กน้อยให้พอมีกลิ่นหอม จากนั้นเติมฮอยซินซอส น้ำตาลทราย เนยถั่วและน้ำเปล่าลงไปให้ละลายเข้ากัน ชิมรสและปรุงรสเพื่อเพิ่มความอร่อยมากขึ้นได้ตามชอบ เสร็จแล้วพักเอาไว้ในถ้วยน้ำจิ้มค่ะ

2.นำพริกชี้ฟ้ามาตำหรือปั่นให้ละเอียดผสมกันกับน้ำส้มสายชู เสร็จแล้วนำไปหยอดลงบนหน้าซอสที่เราพักเอาไว้เมื่อครู่นี้ แล้วโรยหน้าด้วยถั่วบด

ขั้นตอนการห่อปอเปี๊ยะ

1.เอาแผ่นแป้งมาชุบน้ำให้ทั่วแบบเร็วๆ แล้วสะบัดน้ำออกเพื่อไม่ให้เปียกมากเกินไปจากนั้นวางแผ่กางเอาไว้เพื่อเตรียมวางไส้ค่ะ ในระหว่างนี้แผ่นแป้งจะค่อยๆ นิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ได้เอง

2.นำผักกาดหอมมาวางลงไปบนแผ่นแป้ง ตามด้วยส่วนผสมอื่นๆ ได้แก่ หมูสามชั้นตั้มและเส้นหมี่

3.ม้วนแผ่น 1 รอบแล้วนำกุ้งลวกและดอกกุยช่ายมาวางต่อ

4.ม้วนแผ่นอีกครั้งพร้อมกับเก็บหัวท้ายให้เรียบร้อย ลักษณะจะเหมือนกับการห่อปอเปี๊ยะทอดนั่นเองหรือหากคุณจะตัดหัวท้ายออกให้สวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้นแบบการทำซูชิก็ได้เช่นกัน

5.เมื่อห่อเสร็จหมดแล้วก็นำมาวางเรียงใส่จาน จัดตกแต่งให้สวยงามด้วยผักเคียงต่างๆ เพิ่มเติม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มได้เลยค่ะ

ประโยชน์ของการทานปอเปี๊ยะสดเวียดนามที่แสนมากมาย

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเมนู ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม อาหารเวียดนามที่มีชื่อเสียงที่โด่งดัง แต่ใครจะไปรู้ว่าอาหารเมนูนี้ นั้นแสนดูธรรมดาแต่ประโยชน์ของเมนูนี้แสนมากมายจริงๆ เพราะผักต่างๆนั้นมีสรรพคุณทางยาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าผักใบเขียวต่างๆที่มีไฟเบอร์และกากใยอาหารที่ๆไปทำหน้าที่ช่วยดูแลระบบย่อยและขับถ่ายของเสียของเราให้ทำงานได้ปกติ และเมนูนี้เป็นขวัญใจของสาวๆสายคลีน ที่กำลังควบคุมน้ำหนักได้ดีเลิศเลยค่ะ อย่าลืมไปลองทำทานกันดูนะคะ

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร

ราดหน้าเจ เมนูอาหารเจ ทำง่ายอร่อยด้วย

ราดหน้าเจ เมนูอาหารเจ ทำง่ายอร่อยด้วย 

     สาวกคน กินเจ มาฟังทางนี้ วันนี้เรามีเมนูเจมาแนะนำให้ได้ลองไปทำตามกัน เมนู ราดหน้าเจ ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายและไม่แพงอย่างที่คิด หลายคนอาจจะคิดว่า อาหารเจ นั้นจืดชืดและไม่อร่อยเอาเสียเลย ทำให้หลายคนที่กินเจไม่มีความสุขและไม่อภิรมย์ในการที่จะต้องกินเจอยู่ทุกปี แต่สำหรับเมนูราดหน้าเจที่เราจะพามาทำกันในวันนี้ เรารับรองได้เลยว่าอร่อยถูกปากแน่นอน คนไม่กินเจก็สามารถทำทานได้เช่นเดียวกัน 

วัตถุดิบและส่วนผสมของเมนูราดหน้าเจ 

     1.หมี่ฮ่องกง 50 กรัม

     2.เห็ดหอม 2 ดอก

     3.แครอท 20 กรัม

     4.ดอกคะน้า 100 กรัม

     5.ข้าวโพดอ่อน 2 ฝัก

     6.โปรตีนเกษตร 50 กรัม

     7.เห็ดฟาง 50 กรัม

     8.แป้งมัน 4 ช้อนโต๊ะ

     9.น้ำมันงา 1 ช้อนชา

     10.เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

     11.น้ำสต๊อกผัก 1 ถ้วยตวง

     12.พริกไทยป่นครึ่งช้อนชา

     13.ซอสปรุงรสสูตรเจ 1 ช้อนโต๊ะ

     14.ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา

     15.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

     16.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีการทำเมนูราดหน้าเจ

     1.เปิดไฟและตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไป จากนั้นให้นำ เส้นหมี่ฮ่องกง ลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำและผัดจนเข้ากันดี

     2.ตั้งอีกกระทะหนึ่ง และเทน้ำมันพืชลงไป ตามด้วย ผัก ต่าง ๆ ได้แก่ ดอกคะน้า เห็ดฟาง เห็ดหอม ข้าวโพดอ่อนและแครอท เสร็จแล้วก็ให้เทน้ำสต็อกผักลงไป

     3.รอให้น้ำเดือด จึงค่อยใส่ เต้าเจี้ยว ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย ซอสปรุงรสและน้ำมันงา เสร็จแล้วให้คนทุกอย่างให้เข้ากัน 

     4.จากนั้นก็ใส่โปรตีนเกษตรลงไป ตามด้วยแป้งมันที่นำไปละลายน้ำแล้ว ให้คนตลอดเวลาเพราะแป้งมันจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน 

     5.นำ เส้นหมี่ฮ่องกง ที่ผัดเอาไว้มาจัดใส่จานและจากนั้นก็นำน้ำ ราดหน้า มาเทราดใส่เส้นได้เลย เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ ราดหน้าเจ แล้ว 

ราดหน้าเจ ความอร่อยคู่คุณประโยชน์

     เมื่อถึงเทศกาลการ กินเจ แล้ว หลายคนคงกำลังหาเมนูที่ถูกปากถูกใจไว้รับประทานกัน เราขอให้เมนู ราดหน้าเจ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยากจะลองทานอาหารเจ ราดหน้าเจเมนูนี้เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ที่สำคัญคุณจะได้ใยอาหารมากมายจากผักที่อยู่ในเมนูนี้ รวมไปถึงคลอโรฟิลด์อีกด้วย เมนูนี้เหมาะมากที่จะทานเป็น อาหารเย็น เพราะทานแล้วอยู่ท้อง และไม่หนักท้องเกินไปด้วยเมนูราดหน้ามีความอมน้ำมันอยู่เล็กน้อยทำให้เราได้รับไขมันเข้าไปในร่างกายด้วย แต่ก็ถือว่าอยู่ในปริมาณที่พอดี 

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร

เมนูเพื่อสุขภาพพร้อมรสชาติที่อร่อย กระเพาะปลาน้ำแดง

เมนูเพื่อสุขภาพพร้อมรสชาติที่อร่อย กระเพาะปลาน้ำแดง 

      ในช่วงที่อากาศหนาว ๆ และไม่สบายตัวเราอาจจะต้องการอาหารที่สามารถ ซดน้ำ ร้อน ๆ ได้ เพื่อที่ร่างกายจะได้รู้สึกอบอุ่นขึ้น วันนี้ก็มี เมนู มานำเสนอ เป็นเมนูที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ นั่นก็คือ กระเพาะปลาน้ำแดง นั่นเอง แต่ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าแท้ที่จริงแล้วเมนูนี้ไม่ได้เรียกว่า กระเพาะปลา แต่ทำมีอีกชื่อหนึ่งคือถุงลมของปลา ให้รสสัมผัสที่เหนียวนุ่ม พร้อมทั้งได้ ซดน้ำ ซุปรสชาติเข้ม ๆ เมนู อาหารภาคกลาง ที่น่าอร่อยและน่าทำทาน

วัตถุดิบและส่วนผสมของกระเพาะปลาน้ำแดง 

     1.กระเพาะปลา 2 ขีด 

     2.เครื่องต้มยาจีน 1 ซอง

     3.กระดูกหมู 

     4.เห็ดหอม 

     5.เนื้อปู

     6.ผักชี

     7.แป้งมัน

     8.ผงปรุงรส ½ ช้อนโต๊ะ

     9.เกลือ

     10.น้ำมันหอย

     11.ซีอิ๊วขาว

วิธีการทำเมนูกระเพาะปลาน้ำแดง 

    1.ขั้นตอนแรกเป็นการเตรียม กระเพาะปลา หรือถุงลมของปลา ด้วยการนำไปแช่ในน้ำเปล่าทิ้งไว้ เพื่อเป็นการลดอุณหภูมิ

     2.กระเพาะปลาที่นำมาใช้นั้นเขาจะทอดก่อนนำมาขาย เพราะฉะนั้นมันเลยอมน้ำมันมาก เราจึงต้องเอาน้ำมันออกไปให้หมด เพื่อไม่ให้ กระเพราะปลา มีความมันเกินไป และต้องล้างด้วยน้ำให้สะอาดเพื่อไล่ความคาวออกไป

     3.นำ เห็ดหอม ที่เตรียมไว้มาล้างและแช่น้ำสะอาดเอาไว้

     4.เอาหม้อไปตั้งไฟและใส่น้ำสะอาดลงไป พอน้ำเริ่มเดือดแล้วให้ใส่เครื่องต้มยาจีนลงไป 1 ซองให้เทลงไปให้หมด 

     5.เมื่อน้ำเริ่มเดือดอีกครั้ง ก็ให้นำกระดูกหมูลงไปต้มได้เลย ซึ่งกระดูกหมูก็จะทำให้น้ำซุปมีความหอมและหวานมากยิ่งขึ้น 

     6.จากนั้นก็ให้ใส่ เห็ดหอม ที่แช่ไว้ลงไป แล้วก็เทน้ำที่แช่เห็ดหอมลงไปด้วย ในส่วนนี้จะทำให้น้ำซุปมีความหอมของเห็ดหอม และมีสีที่น่ารับประทาน

     7.ต้มไปเรื่อย ๆ ให้น้ำซุปเดือดไปเรื่อย ๆ แล้วถ้ามันมีฟองขึ้นมา ก็ให้ตักทิ้งเรื่อย ๆ 

     8.เมื่อต้มจนได้ที่แล้ว ก็สามารถปรุงรสชาติได้ตามใจชอบด้วยเกลือ ผงปรุงรส ซีอิ๊วขาวและน้ำมันหอย ชิมรสชาติที่ชอบ 

     9.ใส่กระเพาะปลาลงไป ต้มให้เปื่อย

     10.นำแป้งมันมาเทลงในน้ำสะอาดที่เตรียมไว้ 

     11.นำแป้งมันที่ละลายในน้ำดีแล้ว เทลงไปในหม้อ และคนเรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้แป้งจับตัวเป็นก้อน

     12.เมื่อคนไปเรื่อย ๆ น้ำซุบจะเริ่มหนืด ๆ และข้น นั่นแปลว่าได้ที่แล้ว 

     13.ปิดไฟและใส่ผักชีลงไปโรยหน้าเป็นการตกแต่ง จากนั้นตัก กระเพาะปลาน้ำแดง ใส่ถ้วย และนำไปเสิร์ฟได้เลย

กระเพาะปลาน้ำแดงกับสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจ

     กระเพาะปลา นั้นเป็นยาชูกำลังให้กับร่างกาย เพราะจะช่วยไปเสริมธาตุหยิน ช่วย บำรุงร่างกาย บำรุงเซลล์และเนื้อเยื่อ สำหรับผู้ที่ร่างกายเป็นธาตุเย็น ที่จะมีปัญหากับระบบเลือด ควรรับประทานอย่างยิ่ง เพราะกระเพาะปลาทำให้ร่างกายอบอุ่น บำรุงระบบไหลเวียนโลหิตได้เป็นอย่างดี 

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร

แจกสูตร แกงส้มชะอมกุ้ง ทำเองง่าย ๆ น้ำแกงเข้มข้น เปี่ยมล้นด้วยไข่เจียวนุ่มอร่อย

แกงส้มชะอมกุ้ง

อย่างที่ทุกคนทราบว่าอาหารหลักของคนไทยนั้นคือข้าว นั่นจึงทำให้เมนูอาหารคาวส่วนใหญ่เป็นอาหารประเภทแกง ต้องบอกว่าเมนูแกงไทยขึ้นชื่อนั้นมีอยู่หลายเมนูมาก ๆ ไม่เพียงแค่แกงรสจัดจ้านเท่านั้น แต่ยังมีแกงจืดและแกงที่มีรสชาติหวานอย่างไข่พะโล้ด้วย จะเห็นได้ว่าเมนูแกงไทยมีหลากหลายจริง ๆ แต่หากพูดถึงเมนูแกงขึ้นชื่อที่คนไทยส่วนใหญ่นิยมทานกันคงหนีไม่พ้น แกงส้มชะอมกุ้ง เรียกได้ว่าเป็นเมนูยอดฮิตในปัจจุบันเลยก็ว่าได้ น้ำแกงเข้มข้น มีทั้งกุ้งและไข่เจียวชะอม ทานคู่กับข้าวสวยแล้วอร่อยจนต้องยกนิ้วให้เลย 

ทำความรู้จัก แกงส้มชะอมกุ้ง ต้นตำรับเดิมจากชาวสยาม ทานแล้วติดใจ ใคร ๆ ก็ชอบ

แกงส้มชะอมกุ้ง

แกงส้ม เป็นอาหารดั้งเดิมของชาวสยามที่มีมานานตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา แต่ทว่าในสมัยนั้นแกงส้มที่ว่าจะเป็นแกงเหงาหงอด มีรสชาติเปรี้ยวส้ม ไม่ใส่กะทิ และใส่ผักเพียงแค่ชนิดเดียว นั่นคือโหระพา ในขณะที่ปัจจุบันเมนูนี้จะใส่ผักหลายชนิด และดัดแปลงให้เป็นเมนู แกงส้ม ชะอม ไข่ จนได้รับความนิยมอยู่ทุกวันนี้ เรียกว่าเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่ทานทั้งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคอีสาน และภาคใต้ ซึ่งแต่ละพื้นที่จะปรุงรสแกงส้มชะอมกุ้ง แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับรสชาติที่นิยมทานกัน 

เผยสูตร แกงส้มชะอมกุ้ง ไข่เจียวนุ่ม ๆ กุ้งเน้น ๆ ทานกับข้าวสวยยิ่งอร่อยลงตัว

แกงส้มชะอมกุ้ง

แม้ว่า แกงส้ม ชะอม กุ้ง จะไม่ใช่เมนูโปรดหรือ อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสำหรับคนไทยแล้วเมนูนี้ได้รับความนิยมเป็นอันดับต้น ๆ ด้วยรสชาติของน้ำแกงที่เข้มข้น บวกกับเนื้อกุ้งและไข่เจียวชะอมสุดนุ่มนวล เมื่อทานคู่กับข้าวสวยแล้วยิ่งอร่อยลงตัว อย่างไรก็ตามแต่ละพื้นที่จะปรุงรสน้ำแกงแตกต่างกันออกไป แม้ว่าจะเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอดนิยม แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะชื่นชอบรสชาติเดียวกัน หากคุณเป็นหนึ่งคนที่ชอบ แกงส้มชะอมกุ้งรสชาติเข้มข้น มาดูสูตรนี้กันเลย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

แกงส้มชะอมกุ้ง
  1. กุ้งสด 700 กรัม
  2. ไข่ไก่ 6 ฟอง
  3. ชะอม 200 กรัม
  4. พริกแกงส้ม 100 กรัม
  5. น้ำมะขามเปียก 6 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมะนาว 5 ช้อนโต๊ะ
  8. เกลือเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
  9. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำปลา 1 ช้อนชา
  11. น้ำเปล่า 1 ลิตร
  12. น้ำมันสำหรับทอด 

วิธีทำการทำแกงส้มชะอมกุ้ง

แกงส้มชะอมกุ้ง
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมทอดไข่เจียวชะอม เริ่มจากนำชะอมมาล้างน้ำให้สะอาด เด็ดเอาแค่ส่วนใบและส่วนยอดใส่ลงในถ้วย จากนั้นตอกไข่ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลานิดหน่อย ตีไข่ให้เข้ากันกับชะอม
  2. ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟอ่อน เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่แล้วให้นำไข่ลงไปทอดจนสุกทั้งสองด้าน เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน
  3. ขั้นตอนการทำแกงส้ม เริ่มจากตั้งหม้อแล้วใส่น้ำเปล่าลงไป เปิดไฟกลาง เมื่อต้มน้ำจนร้อนได้ที่แล้วใส่พริกแกงส้มและกะปิลงไป คนส่วนผสมให้เข้ากัน
  4. ปรุงรสด้วยเกลือเม็ด น้ำตาลปี๊บ และน้ำมะขามเปียก คนให้ส่วนผสมเข้ากัน หลังจากนั้นเพิ่มรสเปรี้ยวด้วยน้ำมะนาว เสร็จแล้วชิมรสชาติน้ำแกงส้มและปรุงเพิ่มได้ตามต้องการ
  5. ใส่กุ้งสดลงไปและคนเล็กน้อย เมื่อกุ้งสุกแล้วให้ปิดแก๊ส จากนั้นนำไข่เจียวชะอมมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ใส่ลงไป ถือเป็นอันเสร็จ 

แชร์เคล็ดลับการทำ แกงส้มชะอมกุ้ง ให้อร่อย น้ำแกงเข้มข้น ทานคู่กับข้าวสวยแล้วเข้ากันดี

แกงส้มชะอมกุ้ง

อย่างที่ทราบว่า แกงส้ม ชะอม แต่ละพื้นที่จะใส่วัตถุดิบและปรุงรสแตกต่างกัน เนื่องจากเป็น อาหาร ไทย ที่นิยมทานกันทั่วทุกภาค จึงไม่แปลกที่หน้าตาและรสชาติของอาหารชนิดนี้จะไม่เหมือนกันในบางครั้ง สำหรับใครที่อยากทำแกงส้มชะอมกุ้งให้ได้น้ำแกงเข้มข้น ๆ เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ นั่นก็คือการตำพริกแกงเอง และนำเนื้อปลามาโขลกให้ละเอียดแล้วผสมให้เข้ากันกับพริกแกง จากนั้นนำไปแกงตามขั้นตอนปกติ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้น้ำแกงส้มมีความเข้มข้นขึ้นแล้ว

อาหารไทยยอดนิยม แกงส้มชะอมกุ้งรสชาติเข้มข้น ทานมื้อไหนก็อร่อย

แกงส้มชะอมกุ้ง

จะเห็นได้ว่า แกงส้ม ชะอม ทอด เป็นอาหารไทยที่ทำได้ไม่ยากเลย แม้ว่าจะมีวัตถุดิบและส่วนผสมค่อนข้างเยอะ แต่ในส่วนของขั้นตอนการทำนั้นจะไม่ซับซ้อน ทุกคนสามารถหัดทำทานเองได้ง่าย ๆ ตามสูตรดังกล่าว เชื่อว่า เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม อย่างแกงส้มนั้นไม่ยากเกินความสามารถของทุกคนอย่างแน่นอน เรียกว่าเป็นเมนูยอดฮิตที่นิยมทานกับข้าวสวยร้อน ๆ หรือใครอยากจะทานกับข้าวเหนียวก็ได้เช่นกัน ขอการันตีเลยว่าแกงส้มชะอมกุ้งเป็นเมนูที่ทานได้ทุกมื้อ ทานมื้อไหนก็อร่อยได้เช่นกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ข้าวคลุกกะปิ เมนูอาหารอร่อยสนุกทาน

ข้าวคลุกกะปิ เมนูอาหารอร่อยสนุกทาน

      สำหรับใครที่กำลังเบื่อ อาหาร เบื่อเมนูตามสั่งที่มีกับข้าวแค่ชนิดเดียว วันนี้เรามี เมนูข้าว ที่มีกับและเครื่องเยอะ ทำให้สนุกรับประทานและที่สำคัญยังอร่อยอีกด้วย นั่นก็คือเมนู ข้าวคลุกกะปิ นั่นเอง โดยหลัก ๆ แล้วส่วนประกอบหลัก ๆ ของเมนูนี้ก็คือข้าวที่มีส่วนประกอบของ กะปิ ทำให้ข้าวมีความหอม มัน เค็ม อร่อยลงตัว และหมูหวาน ที่นำมาทานตัดกับความเค็มของข้าวกะปิ นอกจากนั้นยังมีเครื่องอื่น ๆ ที่เมื่อทานรวมกันแล้ว จะให้รสชาติที่อร่อยลงตัว เห็นว่ามีเครื่องเยอะมากขนาดนี้ ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบและวิธีการทำนั้นไม่ยุ่งยากเลย ใครที่พร้อมแล้ว เตรียมจด สูตรอาหาร จากทางได้เลย

วัตถุดิบและส่วนผสมของเมนูข้าวคลุกกะปิ 

     1.ข้าวที่หุงสุกแล้ว 1 ถ้วย 

     2.กะปิ 2 โต๊ะ 

     3.เนื้อหมู

     4.กุนเชียง

     5.ไข่

     6.กุ้งแห้ง 

     7.ถั่วฝักยาว

     8.หอมแดง

     9.มะม่วงเปรี้ยว

     10.พริกสด 

     11.น้ำมัน

     12.ซีอิ๊วดำ 

     13.ซีอิ๊วขาว

     14.น้ำตาลปิ๊บ

     15.น้ำพริกเผา

วิธีการทำเมนูข้าวคลุกกะปิ

     1.เริ่มต้นด้วยการทำส่วนประกอบหลักของเมนูนี้ นั่นก็คือ หมูหวาน นั่นเอง เริ่มด้วยการหั่นหมูให้เป็นชิ้นพอดีคำ 

     2.เทน้ำมันลงไปในกระทะ แล้วนำหอมแดงลงไปเจียวให้พอหอม แล้วค่อยนำหมูที่หั่นไว้ลงไปผัด

     3.ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำและน้ำตาลปี๊บ เพื่อให้มีสีสันที่น่ารับประทานและมีรสหวาน 

     4.ผัด หมูหวาน จนมันเริ่มแห้งได้ที่ จากนั้นก็ตักขึ้นมาพักไว้

     5.นำ ไข่ ลงไปทอด สามารถเลือกปริมาณตามใจชอบได้เลย เสร็จแล้วให้นำมาหั่นให้เป็นฝอย ๆ และพักไว้ 

     6.นำ กุนเชียง ลงไปทอดในน้ำเปล่า เพื่อไม่ให้กุนเชียงมันจนเกินไป

     7.หั่นพริกสดเอาไว้ในขนาดที่พอดี ๆ

     8. มะม่วงเปรี้ยว ให้นำมาปอกเปลือกและสับ ๆ ไว้เป็นชิ้นเล็ก ๆ 

     9.ขั้นตอนการทำข้าวกะปิ เริ่มจากการตั้งกระทะและนำพริกและหอมแดงลงไปเจียวให้หอม

     10.ใส่ กะปิ ลงไปผัดให้เข้ากันดีกับหอมแดง จนเริ่มมีกลิ่นหอม 

     11.ใส่น้ำพริกเผาลงไปผัดอีกรอบ จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำตาลให้มีรสชาติที่กลมกล่อมยิ่งขึ้น 

     12.นำข้าวสวยที่หุงสุกแล้วลงไปผัดให้เข้ากับเครื่องทั้งหมด

     13.จัดใส่จาน และวางเครื่องเคียงที่เตรียมไว้ทั้งหมดลงไป ได้แก่ หมูหวาน ไข่เจียว กุนเชียงทอด มะม่วง ถั่วฝักยาว พริกสด หอมแดงซอย

ข้าวคลุกกะปิ เมนูแสนอร่อยเครื่องเคียงหลากหลาย 

    เมนูอาหาร นี้เป็นเมนูที่มีเครื่องเคียงเยอะมาก แต่วิธีการทำก็ง่ายแสนง่าย วิธีการเตรียมก็ง่าย และวัตถุดิบก็ยังหาได้ง่าย ๆ อีกด้วย ข้าวคลุกกะปิ สามารถทานได้ทุกวันไม่เบื่อ นอกจากอร่อยแล้วยังได้ประโยชน์จากหลายเครื่องเคียงในจานนี้อีกด้วย 

 

 

 

 

เว็บบอล