รู้จักเมนู ต้มกะทิ สายบัว ปลาทู อาหารไทยโบราณที่ควรอนุรักษ์ พร้อมแจกสูตรการทำง่าย ๆ 

ต้มกะทิ สายบัว

สายบัวเป็นวัตถุดิบชนิดหนึ่งที่คนไทยในอดีตนิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะเมนูแกงต่าง ๆ จะนิยมใช้สายบัวเป็นวัตถุดิบหลัก เช่นเดียวกับเมนู ต้มกะทิ สายบัว ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยโบราณที่ยังคงหาทานได้ในปัจจุบัน แต่การจะหาร้านที่ปรุงได้ถูกปากถูกใจอาจเป็นเรื่องยาก เพราะสูตรการทำในปัจจุบันจะแตกต่างจากในอดีตอยู่พอสมควร ฉะนั้นการทำทานเองจึงเป็นสิ่งที่น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี 

ต้มกะทิ สายบัว เมนูแกงไทยโบราณที่น่าลอง อร่อยและมีดีกว่าที่คิด

ต้มกะทิ สายบัว

แกงสายบัว ใส่กะทิ เป็นอาหารประเภทแกงของไทยที่ได้รับความนิยมมากในอดีต สำหรับรสชาติของอาหารชนิดนี้จะมีรสเค็มจากปลาทู และรสหวานมันจากกะทิ เรียกได้ว่าเป็น อาหาร ไทย ที่ใช้เครื่องปรุงค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังมีสูตรเครื่องแกงแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากคุณอยากจะทำเมนู ต้มกะทิสายบัว ทานเอง แม้ว่าจะเคยเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ก็ตาม แต่ในปัจจุบันสูตรการปรุงอาจเปลี่ยนไปจากเดิม 

เผยสูตร ต้มกะทิ สายบัว ปลาทู ตามแบบฉบับคนโบราณ ทำทานในยุคปัจจุบันได้ง่าย ๆ

ต้มกะทิ สายบัว

เมื่อเทียบกับเมนูแกงอื่น ๆ ต้องบอกว่า แกง สายบัว ใส่ ปลา ทู เป็นหนึ่งในเมนูที่ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงน้อยมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะธรรมดาเสมอไป จัดเป็นอาหารไทยโบราณที่มีกลิ่นหอมของกะทิ มีรสหวานมันและเค็ม กลมกล่อม อาจไม่ใช่เมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นหอมของกะทิก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย มาดูกันว่าสูตรการทำต้มกะทิ สายบัว ใส่ปลาทู จะมีวิธีทำง่ายเพียงใด 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. สายบัว (หั่นท่อนยาว 2 นิ้วครึ่ง) 500 กรัม
  2. มะดัน/ตะลิงปลิง 2 ลูก
  3. ปลาทูนึ่ง 2-3 ตัว
  4. กะทิกล่อง 1,000 มิลลิลิตร
  5. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนชา
  6. เกลือ 2 ช้อนชา
ต้มกะทิ สายบัว

ส่วนผสมเครื่องแกง

  1. หอมแดง 1/2 ถ้วย
  2. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีการต้มกะทิสายบัวปลาทู

ต้มกะทิ สายบัว
  1. ขั้นตอนแรกในการทำเมนูต้มกะทิสายบัวปลาทูเริ่มทำเครื่องแกง นำหอมแดงมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปตำรวมกันกับกะปิและพริกไทยป่น ไม่ต้องตำให้ละเอียดมาก เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย พักไว้
  2. ขั้นตอนต่อมาให้ต้มกะทิด้วยไฟแรงจนเดือด จากนั้นให้ใส่เครื่องแกงลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตามด้วยการปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลปี๊บ
  3. เมื่อกะทิเริ่มเดือด จากนั้นให้ใส่สายบัวลงไปและกดให้จมน้ำกะทิ ต่อมาใส่มะดันหรือตะลิงปลิงลงไป ต้มให้สุกพร้อมกับสายบัว
  4. เตรียมปลาทูนึ่งสำหรับขั้นตอนต่อไป โดยเริ่มจากการตัดหางปลาทูออกเล็กน้อย และใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนสุกและปิดแก๊ส ถือเป็นอันเสร็จสิ้นเมนูอาหารไทยโบราณ

การเลือกกะทิให้เหมาะสม ช่วยให้เมนู ต้มกะทิ สายบัว หอมอร่อยและกลมกล่อมแบบสูตรดั้งเดิม

ต้มกะทิ สายบัว

วิธี แกง สายบัว ใส่ ปลา ทู ให้อร่อยตามแบบสูตรดั้งเดิม จำเป็นต้องเลือกใช้วัตถุดิบให้เหมาะสม โดยเฉพาะการเลือกกะทิ ในอดีตเมนูนี้ถือเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ซึ่งจะใช้กะทิสดในการปรุง แต่ทว่าในปัจจุบันการใช้กะทิสำเร็จรูปนั้นช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการทำอาหารได้มากขึ้น แต่เราควรเลือกกะทิสำเร็จรูปที่ทำจากกะทิแท้ 100% เพราะดีต่อสุขภาพและให้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติอีกด้วย เมื่อนำมาทำเมนู ต้มกะทิสายบัว แล้วจะได้รสชาติใกล้เคียงกับสูตรดั้งเดิมมากขึ้น 

ต้มกะทิสายบัว ปลาทู เมนูแกงที่มีรสเปรี้ยวแฝงอยู่เล็กน้อย ตัดกับรสเค็มหวานมันได้ดี

ต้มกะทิ สายบัว

ทุกวันนี้เรายังสามารถพบเห็นเมนู แกง สายบัว ตามร้านอาหารทั่วไปได้บ้าง แต่มีน้อยนักที่จะปรุงรสชาติออกมาได้ใกล้เคียงกับสูตรโบราณ เนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างนั้นหายาก เดิม ต้ม สายบัว กะทิสูตรโบราณจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งได้ความเปรี้ยวจากมะดัน แต่ในปัจจุบันจะหาได้ยากขึ้น ผู้ที่ทำเมนูนี้ขายจึงไม่ได้ใช้วัตถุดิบดังกล่าว ส่งผลให้ เมนู อาหาร ไทย ชนิดนี้มีรสชาติต่างจากอดีต ทั้งนี้เราสามารถใช้ตะลิงปลิงแทนมะดันได้ หรือถ้าหากไม่มีก็ไม่ต้องใส่ เพราะต้มกะทิ สายบัวก็มีความอร่อยในตัวอยู่แล้ว

อ่านบทความอื่นๆ: