Categories
สูตรอาหาร

ก๋วยจั๊บน้ำข้น พะโล้ เมนูยอดฮิตของคนไทย รสชาติอร่อยกลมกล่อม สารอาหารครบ 5 หมู่

ก๋วยจั๊บน้ำข้น

ก๋วยจั๊บ เป็นอาหารจีนแต้จิ๋ว โดยชื่อดังกล่าวมาจากคำว่า “ก๋วย” หมายถึง อาหารที่ทำจากข้าว ซึ่งอยู่ในตระกูลเดียวกับก๋วยเตี๋ยวและไชก้วย และคำว่า “จั๊บ” หมายถึง คละหรือผสม เมื่อนำมารวมกันจึงหมายความว่า “ซุปเส้นข้าวผสมเครื่องต่าง ๆ” โดยนิยมเป็นเครื่องใน หมูกรอบ เต้าหู้และไข่ นับเป็นอีกหนึ่งอาหารจีนที่ได้รับความนิยมในไทย ซึ่งจะมีทั้ง ก๋วยจั๊บน้ำข้น และน้ำใส 

ทำความรู้จัก ก๋วยจั๊บน้ำข้น หนึ่งในเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน

ก๋วยจั๊บน้ำข้น

ก๋วยจั๊บ ของไทยจะมีอยู่ด้วยกัน 3 แบบ คือ ก๋วย จั๊บน้ำข้น พะโล้ ก๋วยจั๊บน้ำใสซุปกระดูกหมู และก๋วยจั๊บญวน ซึ่งแต่ละแบบจะมีสูตรการทำแตกต่างกันอยู่เล็กน้อย อาจเรียกได้ว่าเป็น อาหารไทยโบราณ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากต่างประเทศ ซึ่งในปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย สำหรับเมนู ก๋วยจั๊บน้ำข้น โดยทั่วไปจะประกอบด้วยเส้นก๋วยจั๊บ เครื่องใน หมูสามชั้นหรือหมูกรอบ เลือดหมู เต้าหู้ ไข่ และน้ำพะโล้แบบเข้มข้น 

แบ่งสูตร ก๋วยจั๊บน้ำข้น พะโล้โบราณ รสชาติอร่อยกลมกล่อม ทำทานเองได้ง่าย ๆ

ก๋วยจั๊บน้ำข้น

เชื่อว่าหลายคนเคยทานก๋วยจั๊บน้ำใส ก๋วยจั๊บญวน และ ก๋วยจั๊บ น้ำข้น มาแล้ว โดยความแตกต่างของก๋วยจั๊บแต่ละแบบจะอยู่ที่น้ำซุปและเส้นเป็นหลัก อย่างไรก็ตามยังคงมีบางคนที่สับสนอยู่ ต้องบอกว่าก๋วยจั๊บเป็นเมนูที่หาทานได้ค่อนข้างง่าย เราจะเห็นได้ตามร้านอาหารทั่วไป ทั้งนี้ถ้าหากใครอยากลองทำก๋วยจั๊บน้ำข้นทานเอง เรามี สูตรก๋วยจั๊บโบราณ มานำเสนอด้วย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. เส้นก๋วยจั๊บสำเร็จรูป 500 กรัม
  2. ไส้หมู 300 กรัม
  3. หมูสามชั้น 200 กรัม
  4. ตับหมู 200 กรัม
  5. เลือดหมู 2 ขีด
  6. เต้าหู้ทอด 2 ขีด
  7. ไข่ต้ม 2 ฟอง
  8. น้ำสต๊อก 2 ลิตร
  9. พริกไทยเม็ด 2 ช้อนโต๊ะ
  10. กระเทียมบุบ 4 กลีบ
  11. รากผักชี 2 ราก
  12. โป๊ยกั๊ก 2 ดอก
  13. อบเชย 1 ท่อน
  14. เครื่องพะโล้ 1 ชุด
  15. ผงพะโล้ 1 ช้อนชา
  16. เกลือ 1 ช้อนชา
  17. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  18. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  19. ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา
  20. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  21. ต้นหอม/ผักชี (สำหรับจัดเสิร์ฟ)
ก๋วยจั๊บน้ำข้น

ส่วนผสมเส้นก๋วยจั๊บ

  1. แป้งข้าวเจ้า 4 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำเปล่า 1/2 ถ้วย 

วิธีทำการทำก๋วยจั๊บน้ำข้น

ก๋วยจั๊บน้ำข้น
  1. ขั้นตอนแรกนำไส้หมูมาล้างทำความสะอาดด้วยเกลือและน้ำส้มสายชู โดยใช้มือขยำส่วนผสมให้เข้ากับไส้หมู เสร็จแล้วนำไปล้างด้วยน้ำสะอาด นำหมูสามชั้น ตับหมูและเลือดหมู มาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เตรียมไว้
  2. ต้มน้ำด้วยไฟอ่อน เมื่อน้ำเดือดแล้วให้นำไส้หมูลงไปลวกจนสุก เสร็จแล้วปิดไฟและตักไส้หมูออกจากหม้อ พักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  3. ตั้งหม้อ ใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ตามด้วยกระเทียมบุบ พริกไทยเม็ด รากผักชี โป๊ยกั๊กและอบเชย ผัดให้มีกลิ่นหอมแล้วเทน้ำสต๊อกลงไป 
  4. จากนั้นใส่เครื่องพะโล้ ผงพะโล้ ซีอิ๊วขาว ซอสหอยนางรม น้ำตาลทรายและซีอิ๊วดำ คนให้ส่วนผสมละลายเข้ากัน ใส่ไข่ต้มลงไป ตามด้วยหมูสามชั้น ต้มจนหมูสามชั้นสุกแล้วใส่ตับหมูและไส้หมูลวกลงไป คนเล็กน้อยและรอจนสุก
  5. ใส่เลือดหมูและเต้าหู้ทอดลงไป คนเล็กน้อย จากนั้นต้มต่อไปเรื่อย ๆ จนเลือดหมูสุก ในระหว่างต้มหมั่นตักฟองออกด้วย เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่แล้วพักไว้
  6. นำแป้งข้าวเจ้ามาผสมกับน้ำเปล่าให้ละลายเข้ากันดี จากนั้นตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด นำเส้นก๋วยจั๊บลงไปลวก คนเล็กน้อยเพื่อป้องกันเส้นติดกัน เมื่อเส้นก๋วยจั๊บเริ่มสุกแล้ว ค่อย ๆ เติมแป้งที่ผสมกับน้ำเปล่าไว้ลงไป 
  7. ในระหว่างที่เติมให้คนไปพร้อม ๆ กัน เมื่อเส้นก๋วยจั๊บสุกได้ที่แล้วให้ปิดไฟและตักเส้นใส่ถ้วย ตามด้วยเครื่องพะโล้ที่เตรียมไว้ โรยหน้าด้วยต้นหอมผักชี ถือเป็นอันเสร็จพร้อมทาน 

เทคนิคการปรุงรส ก๋วยจั๊บน้ำข้น ให้อร่อยกลมกล่อมกำลังดี รสชาติไม่โดดจนเกินไป

ก๋วยจั๊บน้ำข้น

ก๋วยจั๊บเป็นเมนู อาหารไทยง่ายๆ ที่ได้รับอิทธิพลมาจากอาหารจีน แต่ทว่าคนไทยจำนวนมากจะนิยมใส่พริกผง น้ำตาล น้ำปลาและน้ำส้มสายชู ก่อนรับประทาน ดังนั้น สูตรอาหารไทย จึงแตกต่างจากอาหารจีน เพราะต้องปรุงรสให้กลมกล่อม สามารถทานได้ทั้งแบบปรุงเพิ่มและไม่ต้องปรุงเพิ่ม เทคนิคการปรุงก๋วยจั๊บน้ำข้น ก็คือการกำหนดปริมาณเครื่องปรุงต่าง ๆ ให้เหมาะสม หากไม่มั่นใจควรชิมรสก่อนแล้วค่อยปรุงทีละนิด เพราะ สูตร ก๋วยจั๊บน้ำข้น ที่เราแนะนำจะเป็นน้ำซุปพะโล้ หากปรุงผิดอาจทำให้มีรสชาติหวานหรือเค็มโดดได้ 

ก๋วยจั๊บน้ำข้นสูตรดั้งเดิม เพิ่มเติมความอร่อย ทานแล้วได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่

ก๋วยจั๊บน้ำข้น

ปัจจุบันกวยจั๊บถือเป็นหนึ่งใน เมนูอาหารไทย ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก หลายคนนิยมทานเป็นมื้อเที่ยงแทนข้าว เพราะทานแล้วช่วยให้อิ่มท้องได้ ก๋วยจั๊บ น้ำข้น ไม่ได้มีดีแค่ความอร่อยเท่านั้น แต่เครื่องต่าง ๆ ล้วนมีสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกายได้เป็นอย่างดี สำหรับ ก๋วยจั๊บน้ำข้น สูตรโบราณ สูตรนี้จะประกอบด้วยเส้นกวยจั๊บที่มีคาร์โบไฮเดรต เนื้อหมูสามชั้นมีโปรตีน ไขมันและแร่ธาตุ เครื่องในอุดมไปด้วยธาตุเหล็ก เต้าหู้มีโปรตีนสูง และไข่ไก่มีโปรตีน ธาตุเหล็ก วิตามินบีและวิตามินดี

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
สูตรอาหาร

แกงส้ม แป๊ะซะปลาช่อน เมนูอาหารโบราณหาทานยาก รสชาติเข้มข้น อร่อยถึงใจ 

แป๊ะซะปลาช่อน

ปัจจุบันอาหารไทยโบราณหลาย ๆ เมนูเริ่มหาทานได้ยากขึ้น เนื่องจากเมนูเหล่านั้นใช้วัตถุดิบค่อนข้างเยอะ อีกทั้งยังมีขั้นตอนการทำที่ซับซ้อน บางเมนูต้องใช้ความประณีตพอสมควร เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นอาหารไทย ไม่เพียงแค่รสชาติเท่านั้นที่มีความสำคัญ แต่ในเรื่องของหน้าตาก็ต้องดูน่ารับประทานด้วย อย่างไรก็ตามยังมีบางเมนูที่มีขั้นตอนการทำไม่ซับซ้อน คนรุ่นใหม่ก็สามารถทำได้ อย่างเช่นเมนู แป๊ะซะปลาช่อน เรียกว่าเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยที่ทำได้ง่าย แต่หาทานยากในปัจจุบัน 

ทำความรู้จักเมนู แป๊ะซะปลาช่อน อาหารไทยโบราณ หน้าตาน่าทาน ทำเองได้ง่าย

แป๊ะซะปลาช่อน

แป๊ะซะ เป็นคำที่คนไทยเรียกเป็นชื่อหรือตำรับอาหารจากปลา ซึ่งได้มาจากคำว่า “แปะซะ” ที่ชาวแต้จิ๋วใช้กัน หมายถึงการต้มอาหารในน้ำเปล่าโดยไม่ปรุงรส หรือปรุงเพียงแค่เกลือสมุทรเท่านั้น สำหรับเมนู อาหารไทยโบราณ อย่าง แป๊ะซะ ปลาช่อน เดิมจะใช้วิธีต้มหรือนึ่งเปล่า ๆ แล้วจิ้มน้ำส้ม ทานคู่กับผักสด ส่วนใหญ่นิยมใช้ปลาช่อน ต่อมาชื่อดังกล่าวก็ถูกใช้กับเมนูปลานึ่งใส่บ๊วย พริก ขิงซอยและอื่น ๆ รวมทั้งเมนู แกงส้ม แป๊ะซะ ที่มีทั้งปลาช่อนสดและปลาช่อนทอดก็ถูกเรียกในชื่อดังกล่าวด้วยเช่นกัน 

แจกสูตร แกงส้ม แป๊ะซะปลาช่อน ทอด พร้อมเทคนิคทอดปลาให้กรอบฟู ไม่ติดกระทะ

แป๊ะซะปลาช่อน

เมนูอาหารไทย สมัยโบราณหลาย ๆ เมนูมักจะถูกดัดแปลงให้แตกต่างจากในอดีต จึงไม่แปลกที่เราจะหาทานอาหารไทยสูตรดั้งเดิมได้ยากขึ้น ทั้งนี้อาหารหลายชนิดล้วนถูกพัฒนาและปรับเปลี่ยนสูตรไปตามกาลเวลา เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายต่อการปรุงมากขึ้น ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นวิวัฒนาการของอาหาร เช่นเดียวกับเมนูแป๊ะซะปลาช่อน หากนำสูตรการทำในสมัยก่อนและสูตรปัจจุบันมาเปรียบเทียบกันก็จะเห็นถึงความแตกต่าง มาดูกันว่าสูตร แกงส้ม แป๊ะซะ ปลา ช่อน มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง 

วัตถุดิบและส่วนผสม

แป๊ะซะปลาช่อน
  1. ปลาช่อน 2 ตัว
  2. พริกแกงส้ม 150 กรัม
  3. ผักกาดขาว 1 ถ้วย
  4. ยอดผักกระเฉด 1-2 ถ้วย
  5. ดอกแค 1 ถ้วย
  6. ถั่วฝักยาว 1-2 ถ้วย
  7. ไหลบัว 1-2 ถ้วย
  8. เกลือ 2/3 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำมะขามเปียก 12 ช้อนโต๊ะ
  13. น้ำเปล่า 1,500 กรัม
  14. น้ำมันสำหรับทอด 

วิธีทำ แป๊ะซะ ปลาช่อน

แป๊ะซะปลาช่อน
  1. ขั้นตอนแรกขอดเกล็ดปลาช่อน พร้อมนำไส้ข้างในออก จากนั้นล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย ตัดครีบบริเวณท้องและกลางหลังของปลาออก เสร็จแล้วใช้กระดาษทิชชู่ซับให้หมาดและทำการบั้ง พักไว้
  2. นำผักที่เตรียมไว้มาล้างน้ำให้สะอาด เสร็จแล้วนำผักกาดขาว ถั่วฝักยาวและไหลบัว มาหั่นเป็นชิ้นหรือเป็นท่อนให้เรียบร้อย จากนั้นเด็ดเกสรดอกแคออก พักไว้
  3. ต้มน้ำให้เดือดจัด ใส่น้ำตาลทรายลงไปเล็กน้อย นำผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ไหลบัวและดอกแค ลงไปลวกในน้ำร้อนให้พอสุก เสร็จแล้วน็อคในน้ำเย็นและตักใส่ภาชนะ พักไว้
  4. ต้มน้ำให้เดือดจัด จากนั้นนำปลาช่อนลงไปต้มให้สุก ใช้เวลาต้มประมาณ 8-10 นาที ในระหว่างต้มไม่ต้องคน เพราะจะทำให้มีกลิ่นคาว 
  5. หลังจากต้มปลาช่อนจนสุกแล้วให้ปิดไฟ นำออกจากหม้อและพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ส่วนน้ำต้มปลาช่อนให้เก็บไว้ทำน้ำแกงส้ม แกะเนื้อปลาช่อนใส่ในครกพร้อมพริกแกงส้ม จากนั้นโขลกให้เข้ากันจนเนื้อเนียน พักไว้
  6. ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป เปิดไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อนจัดแล้วให้นำปลาช่อนลงไปทอด ในระหว่างนี้ไม่ต้องคนหรือขยับตัวปลา ให้ทอดไปเรื่อย ๆ จนหนังปลาด้านบนสุกดี ใช้เวลาทอดประมาณ 7-8 นาที 
  7. เมื่อปลาสุกเหลืองแล้วให้พลิกกลับด้านและทอดต่ออีกประมาณ 4-5 นาที จากนั้นปิดไฟแล้วนำปลาทอดขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน เทคนิคนี้จะช่วยให้ปลากรอบฟู ไม่ติดกระทะและไม่อมน้ำมัน
  8. นำน้ำต้มปลาช่อนมาตั้งหม้อ ต้มด้วยไฟกลางให้เดือดอีกครั้ง จากนั้นใส่พริกแกงที่โขลกรวมกับเนื้อปลาช่อนลงไป คนให้พริกแกงกระจายตัว หากมีฟองขึ้นมาให้ตักออก 
  9. เมื่อต้มจนเดือดแล้วผ่อนไฟให้เบาลง ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทราย เกลือ น้ำปลาและน้ำมะขามเปียก ชิมรสชาติและปรุงตามความชอบ ต้มจนน้ำแกงเดือดและปิดไฟ
  10. ขั้นตอนสุดท้าย นำผักต่าง ๆ ที่ลวกไว้ รวมถึงยอดผักกระเฉดมาจัดใส่จาน ตามด้วยปลาช่อนทอด จากนั้นตักน้ำแกงส้มราดลงไป ถือเป็นอันเสร็จ

เทคนิคทำปลาช่อนให้สะอาด ปราศจากกลิ่นคาว ใช้ทำเมนู แกงส้มแป๊ะซะปลาช่อน ได้อร่อยลงตัว

แป๊ะซะปลาช่อน

ไม่ว่าจะทำเมนู แป๊ะซะปลาช่อนนึ่ง หรือ แป๊ะซะปลาช่อนทอด เมื่อได้ปลามาแล้วควรทำการขอดเกล็ดแล้วล้างน้ำให้สะอาด จากนั้นควักไส้ออก ด้วยความที่ปลาช่อนมีเมือกค่อนข้างเยอะ การจะนำมาทำเมนู ปลาช่อน แป๊ะซะ จึงต้องใช้เกลือสมุทรและแป้งมัน แป้งสาลี หรือแป้งข้าวโพด ในการทำความสะอาดโดยการโรยเกลือและแป้งให้ทั่วตัวปลา จากนั้นขัดจนเมือกมัน ๆ ออกหมด และล้างออกด้วยน้ำสะอาด เมื่อนำไปทำเมนู แป๊ะซะปลา ก็จะทำให้ไม่มีกลิ่นคาว 

แกงส้ม แป๊ะซะปลาช่อน เมนูอาหารทานกับข้าว ปลาทอดกรอบฟู น้ำแกงส้มสุดเข้มข้น

แป๊ะซะปลาช่อน

เมนูดังกล่าวถือเป็นเมนู อาหารไทยง่ายๆ แต่หาทานได้ยากในปัจจุบัน สำหรับเด็กรุ่นใหม่อาจยังไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ เพราะตามร้านอาหารต่าง ๆ มีให้เห็นน้อยมาก หรืออาจไม่มีเลยก็ได้ อย่างไรก็ตามเมนูนี้มีวิธีการทำที่ไม่ยากมากนัก หากใครสนใจก็สามารถใช้ สูตรอาหารไทย ที่เราแนะนำไปลองทำตามได้เลย เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารโบราณที่มีวิธีทำไม่ซับซ้อน หากคุณอยากทานแป๊ะซะปลาช่อน ก็สามารถทำได้ด้วยตัวเองเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
อาหารสุขภาพ

แบ่งปันสูตร ลูกชิ้นอกไก่ ไร้แป้ง เมนูสุดง่ายให้โปรตีนสูง เหมาะสำหรับสายคลีน 

ลูกชิ้นอกไก่

ลูกชิ้น เป็นอาหารที่สามารถปรุงโดยการทอด อบ นึ่ง หรือตุ๋นในซอส เรียกว่าเป็นอาหารทานเล่นที่สามารถนำไปประกอบอาหารทำเป็นเมนูต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย เราจะเห็นได้ว่าลูกชิ้นมักจะอยู่ในก๋วยเตี๋ยวและอาหารประเภทเส้น ซึ่งวัตถุดิบหลัก ๆ ที่ใช้ทำลูกชิ้นมักจะเป็นเนื้อหมู หมูวัว เนื้อไก่ และอื่น ๆ สำหรับบทความนี้เราอยากแนะนำสูตร ลูกชิ้นอกไก่ คลีน เมนูที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ หรือใครกำลังลดน้ำหนักอยู่ก็สามารถทำทานได้เช่นกัน 

ลูกชิ้นอกไก่ คลีน ทำเองได้ง่าย ไม่ใช้แป้ง ทานแล้วอร่อยและได้โปรตีนไปแบบเต็ม ๆ

ลูกชิ้นอกไก่

อย่างที่ทราบกันว่าอกไก่เป็นส่วนที่มีสารอาหารอย่างโปรตีนสูงมาก นั่นจึงทำให้หลายคนนิยมนำมาทำเป็นเมนู อาหารคลีนแบบประหยัด เพื่อทานในแต่ละมื้อ สำหรับการทำ ลูกชิ้นอกไก่คลีน เราสามารถใช้เพียงแค่อกไก่และไข่ขาวเป็นวัตถุดิบหลักก็ได้ ซึ่งไม่ต้องกังวลว่าจะมีต้นทุนสูง หากใครอยากเพิ่มโปรตีนด้วยเมนู มื้อเช้าทำเอง อย่าง ลูกชิ้น อกไก่ คลีน ทำตามสูตรได้เลย นอกจากนี้ลูกชิ้นที่ทำจากอกไก่สามารถนำไปทำเป็นเมนู อาหารคลีน อื่น ๆ ได้อีกมากมาย 

แจกสูตรการทำ ลูกชิ้นอกไก่ ไร้แป้ง เมนูอาหารคลีน เน้นโปรตีนเป็นหลัก

ลูกชิ้นอกไก่

สูตร ลูกชิ้น อกไก่ คลีนที่เราจะแนะนำนี้เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบและส่วนผสมน้อยมาก ๆ และบอกเลยว่าสูตรนี้เหมาะกับคน ลดน้ำหนัก อย่างมาก เพราะเราจะไม่ใช้แป้งและน้ำตาลเป็นส่วนผสม หากใครที่กำลังลดน้ำหนักอยู่ก็สามารถทำทานได้เลย ซึ่งสามารถทานเล่นหรือจะนำ ลูกชิ้นอกไก่ ไปประกอบอาหารเป็นเมนูต่าง ๆ ก็ได้ มาดูกันว่าสูตร อาหารคลีนง่าย ๆ เมนูนี้จะใช้วัตถุดิบอะไร และมีวิธีการทำอย่างไรบ้าง 

ลูกชิ้นอกไก่

วัตถุดิบการทำลูกชิ้นอกไก่คลีน

  1. อกไก่ 500 กรัม
  2. ไข่ขาว (ฟองเล็ก) 1 ฟอง
  3. เกลือ 1/4 ช้อนชา
  4. พริกไทยดำ 1/2 ช้อนชา
  5. น้ำแข็ง 1 ก้อน
  6. น้ำเปล่า (สำหรับต้มลูกชิ้น)
  7. น้ำเย็น (สำหรับน็อคลูกชิ้น) 

วิธีการทำ ลูกชิ้นอกไก่คลีน

ลูกชิ้นอกไก่
  1. ขั้นตอนแรกนำอกไก่มาหั่นเป็นชิ้น ๆ ให้มีขนาดเล็ก จากนั้นใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำแข็งและไข่ขาว ปรุงรสด้วยเกลือและพริกไทย เสร็จแล้วปั่นส่วนผสมทั้งหมดให้ละเอียดและเข้ากันดี
  2. ต้มน้ำให้เดือดและผ่อนเป็นไฟอ่อน จากนั้นปั้นลูกชิ้นเป็นรูปวงกลมแล้วนำลงไปต้มหรือลวกจนสุก เมื่อลูกชิ้นสุกแล้วจะลอยตัวขึ้นมา 
  3. จากนั้นให้ตักออกจากหม้อแล้วนำไปน็อคด้วยน้ำเย็นสักพัก เสร็จแล้วสามารถนำไปประกอบอาหารหรือรับประทานได้เลย 
  4. หากใครอยากจะทานเล่นเป็น เมนูลดน้ำหนัก ในยามว่าง แนะนำให้ทานคู่กับผักต่าง ๆ และน้ำจิ้มสูตรคีโต หรือจะทำน้ำจิ้มคลีน ๆ ทานเองก็ได้ แต่ต้องใส่เครื่องปรุงในปริมาณที่เหมาะสม 
  5. ควรหลีกเลี่ยงการทานน้ำจิ้มที่มีรสหวานและเค็มมากเกินไป เพราะจะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานมากขึ้น ทั้งนี้หากใครอยากทำเป็นเมนู มื้อเช้าคลีน ๆ เน้นโปรตีนเป็นหลักก็สามารถเพิ่มวัตถุดิบอื่น ๆ เข้าไปได้เลย

เทคนิคการทำลูกชิ้นอกไก่ คลีนให้อร่อยลงตัว เนื้อเนียนละเอียด เคี้ยวแล้วอร่อยเพลิน

ลูกชิ้นอกไก่

อาหารคลีนทำเอง อย่างลูกชิ้นเป็นอีกหนึ่ง มื้อเช้าแบบประหยัด ที่มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก หากต้องการให้ลูกชิ้นมีเนื้อเนียนละเอียด เราจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับขั้นตอนการปั่นส่วนผสม ในกรณีที่ใช้เครื่องปั่นขนาดเล็ก หากเรานำอกไก่ลงไปปั่นในปริมาณมากก็อาจทำให้เครื่องปั่นทำงานหนักจนเกินไป และอาจจะปั่นไม่ได้ประสิทธิภาพมากพอ แนะนำว่าให้ใส่อกไก่ลงไปทีละน้อย ๆ จากนั้นค่อย ๆ ปั่นจนได้เนื้อเนียนละเอียด เมื่อนำมาทำเป็นลูกชิ้นอกไก่ แล้วก็จะได้รสสัมผัสที่ดีขึ้น 

เคล็ดลับการปั้น ลูกชิ้นอกไก่ ง่าย ๆ ไม่ยุ่งยาก มือใหม่ทำเองได้แบบสบาย ๆ

การปั้น ลูกชิ้นอกไก่ทำเอง ก่อนนำลงหม้อเพื่อต้มหรือลวกให้สุก เราสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการใช้มือข้างหนึ่งบีบส่วนผสมของลูกชิ้นประมาณ 2-3 ครั้ง เมื่อได้ลักษณะเป็นรูปวงกลมแล้วให้ใช้ช้อนตักและนำลงไปต้มในหม้อได้เลย หรือใครจะใช้วิธีง่าย ๆ แบบไม่ต้องเปื้อนมือก็ได้เช่นกัน หากจะทำเป็น มื้อเช้าง่าย ๆ แนะนำให้ตักส่วนผสมของลูกชิ้นที่ปั่นเสร็จแล้วใส่ในถุงแกงและมัดไว้ให้แน่น เมื่อต้องการจะทำเป็นลูกชิ้นก็ให้ตัดที่ก้นถุงและบีบส่วนผสมลงในหม้อต้ม เพียงเท่านี้ก็จะได้ลูกชิ้นอกไก่ ง่าย ๆ แบบไม่ต้องใช้มือปั้นแล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
สูตรอาหาร

แนะนำสูตรการทำข้าวยำเกาหลี บิบิมบั บ แบบง่าย ๆ สไตล์โฮมคุก 

บิบิมบั บ

หากกล่าวถึงเมนูอาหารเกาหลีแล้ว ต้องบอกว่ามีหลายเมนูเลยที่ดูน่ารับประทาน แถมยังมีวิธีทำที่ง่ายอีกด้วย บางเมนูอาจจะดูเหมือนทำยาก เพราะเต็มไปด้วยวัตถุดิบต่าง ๆ มากมาย แต่ในความเป็นจริงบางเมนูก็ไม่ได้ยากเสมอไป สำหรับโฮมคุกทั้งหลายที่อยากลองทำอาหารเกาหลีง่าย ๆ ทานเองที่บ้าน หนึ่งในเมนูที่น่าสนใจก็คือ บิบิมบั บ หรือข้าวยำเกาหลีนั่นเอง มาดูกันว่าเมนูนี้มีหน้าตาเป็นอย่างไร และมีวิธีทำยังไงบ้าง 

ทำความรู้จักเมนู บิบิมบั บ อาหารเกาหลียอดนิยมที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบอันหลากหลาย

บิบิมบั บ

บิบิมบับคือ เมนูข้าวยำของเกาหลีที่มีการนำข้าว เนื้อสัตว์ ไข่ และผักเครื่องเคียงต่าง ๆ มาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วรับประทาน แต่ก่อนรับประทานจะปรุงรสด้วยโคชูจัง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารที่นิยมทานคู่กับกิมจิ ทั้งนี้ บิบิมบับ แต่ละสูตรจะแตกต่างกันออกไป ในส่วนของเนื้อสัตว์และผักสามารถปรับเปลี่ยนตามความชอบของแต่ละคนได้ แม้ว่าจะใช้วัตถุดิบค่อนข้างเยอะ แต่ก็ถือเป็น อาหารเกาหลีง่ายๆ ที่มีขั้นตอนการทำไม่ยากและไม่ซับซ้อนเลย 

แจกสูตร บิบิมบั บ เมนูอาหารเกาหลีที่มีหน้าตาน่าทาน ใครทำก็อร่อยได้

บิบิมบั บ

หากใครที่ชอบเข้าครัวหรือมือใหม่ที่อยากลองทำอาหารเกาหลี เมนูข้าวยำถือเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการเริ่มต้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าเมนูนี้ใช้วัตถุดิบค่อนข้างเยอะ แต่วิธีทำนั้นไม่ยากเลย สำหรับ สูตร บิบิมบับ ที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ ถือเป็นสูตรที่หลายคนสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นโฮมคุกหรือมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มก็สามารถทำเมนูบิบิมบับ ทานเองได้ง่าย ๆ มาดูกันว่า อาหารเกาหลียอดฮิต เมนูนี้มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง

วัตถุดิบการทำ ข้าวยํา บิบิมบับ

บิบิมบั บ
  1. ข้าวญี่ปุ่นหุงสุก 200 กรัม
  2. หมูสามชั้นสไลด์ 80 กรัม
  3. เห็ดหอมหั่น 100 ดอก
  4. แครอทหั่นเส้น 100 กรัม
  5. แตงกวาญี่ปุ่นหั่นเส้น 100 กรัม
  6. ผักโขมหั่น 100 กรัม
  7. ถั่วงอก 100 กรัม
  8. งาขาวคั่ว 10 กรัม
  9. น้ำส้มสายชู 5 ช้อนโต๊ะ
  10. โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  13. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  14. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  15. ไข่แดง 1 ฟอง
  16. กิมจิสำเร็จรูป 120 กรัม

วิธีการ ทํา บิ บิ ม บั บ ง่ายๆ

บิบิมบั บ
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมผัดเครื่องเคียง โดยเริ่มจากตั้งกระทะและเปิดไฟกลาง นำแตงกวาญี่ปุ่นลงไปผัด ปรุงรสด้วยเกลือ 1/2 ช้อนชา น้ำส้มสายชู 1 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันงา 1 ช้อนชา ผัดให้สลดเล็กน้อยแล้วตักใส่ภาชนะ พักไว้
  2. ต่อมานำถั่วงอก แครอท เห็ดหอม และผักโขม ลงไปผัดในกระทะใบเดิม โดยผัดทีละอย่างให้พอสลดแล้วปรุงรสเหมือนกับแตงกวาญี่ปุ่นทั้งหมด
  3. ขั้นตอนต่อมาเตรียมผัดหมูสามชั้นสไลด์ โดยเริ่มจากตั้งกระทะและเปิดไฟกลาง นำหมูสามชั้นสไลด์ลงไปผัดโดยไม่ต้องใส่น้ำมัน เมื่อผัดจนหมูเริ่มสุกแล้วให้ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทราย เสร็จแล้วตักใส่ภาชนะ พักไว้
  4. ขั้นตอนการจัดจาน เตรียมภาชนะหม้อดินเกาหลี จากนั้นทาน้ำมันงาลงไปที่ก้นหม้อ ใส่ข้าวญี่ปุ่นหุงสุกลงไป ตามด้วยเครื่องเคียงต่าง ๆ ที่เตรียมไว้ ได้แก่ แตงกวา ถั่วงอก แครอท เห็ดหอม ผักโขม หมูสามชั้น และกิมจิ
  5. โรยงาบนผักต่าง ๆ เล็กน้อย จากนั้นตักโคชูจังใส่ลงไป ตามด้วยไข่แดงดิบ เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน 

เคล็ดลับง่าย ๆ ทำอย่างไรให้ บิบิมบั บ อร่อยเหมือนต้นตำรับเกาหลี

บิบิมบั บ

เมนูข้าวยำของเกาหลีแต่ละสูตรจะมีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับคนทำว่าชอบและสะดวกแบบไหน หากเราต้องการให้ บิ บิ ม บั บ ทำเอง มีรสชาติอร่อยใกล้เคียงกับต้นตำรับเกาหลี สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสม ถ้าจะให้ดีควรเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมของ อาหารเกาหลีในซีรีส์ แท้ ๆ เพื่อให้ได้รสสัมผัสใกล้เคียงกับบิบิมบับเกาหลีมากที่สุด ทั้งนี้เราสามารถเลือกใช้เนื้อสัตว์และผักต่าง ๆ ตามความชอบได้ 

เทคนิคการเลือกใช้วัตถุดิบเพื่อทำเมนูบิบิมบั บ ให้อร่อยลงตัว

ถึงแม้ว่าจะเลือกใช้วัตถุดิบและส่วนผสมเหมือนกับต้นตำรับ แต่ทว่าความชอบของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ฉะนั้นหากจะทำ เมนูอาหารเกาหลี ให้อร่อยถูกปากตัวเองมากที่สุด แนะนำให้เลือกใช้วัตถุดิบตามความชอบเป็นหลัก สำหรับเนื้อสัตว์เราสามารถใช้เนื้อหมู เนื้อวัว หรือเนื้อไก่ก็ได้ ส่วนผักก็มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด เราสามารถเลือกผักที่ชอบมาทำ ข้าวยําเกาหลี และถ้าหากใครชอบทานเผ็ดก็สามารถใส่โคชูจังในบิบิมบั บ ตามปริมาณที่ต้องการได้เลย 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: sa-game.bet

Categories
อาหารสุขภาพ

แจกสูตร เมี่ยงปลาเผา เมนูอาหารคลีนรสเลิศ ทำง่าย ได้ประโยชน์ 

เมี่ยงปลาเผา

เมื่อพูดถึงเมนูอาหารคลีน เชื่อว่าหลายคนมักจะนึกถึงเมนูที่ไม่ใช้น้ำมันหรือไม่ผ่านการทอด และเนื้อสัตว์ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไก่และปลา เพราะมีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ อย่างไรก็ตามการจะนำเนื้อสัตว์แต่ละชนิดมาทำอาหารคลีนนั้นต้องเลือกส่วนที่ไม่มีไขมันหรือไขมันต่ำ หากกล่าวถึงเมนูปลาแบบคลีน ๆ เราขอแนะนำเมนู เมี่ยงปลาเผา เพราะเป็นหนึ่งในเมนูที่ใช้วัตถุดิบค่อนข้างน้อย แถมมีวิธีการทำง่ายอีกด้วย ที่สำคัญยังถือว่าเป็นอาหารจานโปรดของนักพนันหลายท่าน เมื่อเข้ามาร่วมเดิมพันในบ่อนคาสิโน เป็นจะต้องสั่งมาทานกันตลอดอีกด้วย 

ความพิเศษของเมนู เมี่ยงปลาเผา อาหารไทยโบราณ ทำทานได้ไม่ยาก

เมี่ยงปลาเผา

จริง ๆ แล้วอาหารไทยหลายเมนูสามารถดัดแปลงให้เป็นอาหารคลีนหรืออาหารเพื่อสุขภาพได้ แต่ทว่าบางเมนูอาจมีความพิเศษที่ทำให้ใครหลายคนชื่นชอบ อย่างเมนู เมี่ยง ปลาเผา ถือเป็นอาหารไทยโบราณที่มีมานาน อาจเป็นเมนูที่ดูไม่มีอะไรพิเศษมากนัก แต่ความแตกต่างที่ทำให้พิเศษก็คือเมนูนี้เป็นหนึ่งในอาหารเพื่อสุขภาพที่มีสารอาหารสูง อีกทั้งยังสามารถทานได้หลายรูปแบบด้วย ไม่ว่าจะทานคู่กับขนมจีน ข้าวสวย ทานคู่กับผักพร้อมกับ น้ำจิ้มถั่วเมี่ยงปลาเผา หรือจะทานทั้งหมดพร้อมกันก็ยังได้ 

สูตรการทำ เมี่ยงปลาเผา พร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด ลิ้มรสเผ็ดที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี

เมี่ยงปลาเผา

ปลาเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมสำหรับการทำ อาหารคลีนง่าย ๆ เพราะเนื้อปลาเต็มไปด้วยโปรตีนและสารอาหารสำคัญ ทั้งนี้บางส่วนของปลาอาจมีไขมันมาก อย่างไรก็ตามเนื้อปลาก็ยังเป็นเนื้อสัตว์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง สำหรับเมนู เมี่ยงปลาเผาเกลือ ส่วนใหญ่มักจะนิยมใช้ปลานิลและปลาทับทิม เนื่องจากเนื้อปลาดูนุ่ม แน่นและขาวสะอาด โดยรวมแล้วดูน่ารับประทานมาก สำหรับวันนี้เราขอแนะนำสูตรการทำเมี่ยงปลาเผา โดยใช้ปลาทับทิม 

วัตถุดิบการทำเมี่ยง ปลาเผา

  1. ปลาทับทิม 1 ตัว
  2. เกลือ 1 กำมือ
  3. ตะไคร้ 1 ส่วน
  4. ใบมะกรูด 3 ใบ
  5. ใบเตย 1 ใบ
  6. ดอกเกลือ 400 กรัม
  7. แป้งข้าวโพด 20 กรัม
  8. ผักต่าง ๆ (ตามความชอบ) 
เมี่ยงปลาเผา

วิธีทำเมี่ยงปลาเผา

  1. ขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบหลักอย่างปลาทับทิม โดยเริ่มจากเอาไส้ปลาทับทิมออกก่อน จากนั้นทำความสะอาดโดยใช้เกลือถูให้ทั่วและล้างด้วยน้ำเปล่าไม่ให้มีกลิ่นคาว
  2. ผ่าบริเวณท้องปลาทับทิมแล้วเอาตะไคร้ ใบมะกรูดและใบเตย ยัดเข้าไป พักไว้ เทดอกเกลือลงในภาชนะ ตามด้วยแป้งข้าวโพด ผสมให้เข้ากันแล้วนำไปทาให้ทั่วผิวของปลาทับทิม
  3. นำปลาทับทิมไปย่างบนเตาถ่าน แนะนำให้ย่างด้วยไฟอ่อน-กลาง ย่างจนเกลือแห้งและหนังปลากรอบเกรียม เมื่อสุกได้ที่แล้วนำไปจัดเสิร์ฟพร้อมทานคู่กับผักและน้ำจิ้มสูตรคลีน 

วัตถุดิบการทำ น้ำจิ้มเมี่ยงปลาเผา ถั่วลิสง

  1. กระเทียม 10 กลีบ
  2. พริกขี้หนู 5 เม็ด
  3. ถั่วลิสง 5 เม็ด
  4. เกลือชมพู 1 ช้อนชา
  5. สารแทนความหวาน 5-6 หยด
  6. น้ำมะนาว 4 ช้อนโต๊ะ 
เมี่ยงปลาเผา

วิธีการทำน้ำจิ้มถั่วสูตรคลีน

  1. ขั้นตอนแรกของการทำน้ำจิ้มถั่วสูตรคลีน ปอกเปลือกกระเทียม ล้างกระเทียมและพริกขี้หนูให้เรียบร้อย จากนั้นนำมาปั่นพร้อมกันจนละเอียด
  2. ตักพริกและกระเทียมที่ปั่นรวมกันจนละเอียดแล้วใส่ถ้วยน้ำจิ้ม ปรุงรสเพิ่มด้วยน้ำมะนาว สารแทนความหวาน และเกลือชมพู จากนั้นโรยถั่วลิสงลงไป ถือเป็นอันเสร็จ 

เทคนิคจัดการวัตถุดิบหลักเมนู เมี่ยงปลาเผา เพื่อให้ชูรสชาติได้ดี และไม่มีกลิ่นคาว

เมี่ยงปลาเผา

สำหรับ อาหารคลีนทำเอง ที่ใช้ปลาเป็นวัตถุดิบหลัก สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยก็คือการทำความสะอาดและขจัดกลิ่นคาวปลา เพราะต่อให้เราปรุงรสได้ดีมากแค่ไหน แต่ถ้าหากมีกลิ่นคาวปลาแล้วจะทำให้ความอยากอาหารลดลง เนื่องจากกลิ่นคาวปลาค่อนข้างแรง ฉะนั้นวิธีจัดการก็คือการทำความสะอาดโดยใช้เกลือ ก่อนจะใช้ปลาทุกชนิดทำเมนู เมี่ยง ปลาเผา เราควรเอาส่วนที่ทานไม่ได้ออกก่อน จากนั้นใช้เกลือถูให้ทั่วผิวของปลาและล้างออกด้วยน้ำสะอาดจนไม่มีกลิ่นคาว 

เมี่ยง ปลาเผา เมนูอาหารคลีนที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทานแล้วอร่อยและได้รับประโยชน์

เมี่ยงปลาเผา

อย่างที่ทราบกันดีว่านอกจาก เมนูอกไก่ แล้ว เมนูปลาก็ถือว่าได้รับความนิยมในกลุ่มคนลดน้ำหนัก เรียกว่าเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว แต่สิ่งที่น่าสนใจก็คือเมนูที่ใช้ปลาเป็นวัตถุดิบหลักอย่างเมี่ยงปลาเผา มักจะทำให้อาหารจานนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เพราะเนื้อปลาเป็นแหล่งโปรตีนชั้นเยี่ยม มีสารอาหารหลายชนิดที่จำเป็นต่อร่างกายและยังเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่ายด้วย ทั้งนี้หากคุณทาน แซนด์วิชอกไก่ไข่ดาว ในมื้อเช้าแล้ว มื้อเที่ยงหรือมื้อเย็นเราก็อยากแนะนำให้ทานเมี่ยงปลาเผา

อ่านบทความเพิ่มเติม:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
สูตรอาหาร

แจกสูตร ต๊อกโบกี อาหารเกาหลีทำง่าย พร้อมเคล็ดลับปรุงรสสุดฟินเหมือนกินที่เกาหลี 

ต๊อกโบกี

ปัจจุบันเราปฏิเสธไม่ได้ว่าคนไทยจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจกับอาหารต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอาหารเกาหลีที่คนไทยได้รับอิทธิพลมาจากการดูซีรีส์ ทว่าอาหารเกาหลียอดนิยมที่หลายคนนึกถึงนั้น เชื่อว่าหนึ่งในนั้นจะต้องมีเมนู ต๊อกโบกี เรียกได้ว่าเป็นอาหารที่มีหน้าตาน่าทานมาก ๆ ไม่เพียงแค่คนเกาหลีและคนไทยเท่านั้นที่ชื่นชอบ ชาวต่างชาติเองก็ให้ความสนใจอยู่เช่นกัน 

ทำความรู้จักกับ ต๊อกโบกี หนึ่งในเมนูอาหารเกาหลีที่ได้รับความนิยม

ต๊อกโบกี

ต๊อกโบกีคือ อาหารเกาหลีที่ทำจากแป้งต็อก หรือเรียกอีกอย่างว่า “เค้กข้าว” บอกได้เลยว่าเป็นอาหารเกาหลียอดนิยมที่มีรสชาติอร่อยและทำง่ายมาก ๆ โดยแป้งของต๊อกโบกีนั้นจะมีความเหนียวนุ่ม ซึ่งตัวแป้งจะผสมกับซอสรสเข้มข้น ทำให้มีรสชาติอร่อยลงตัว พอเคี้ยวแล้วฟินมาก นับเป็นเมนู อาหารเกาหลีในซีรีส์ ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี เพราะเมนูนี้อยู่คู่กับคนเกาหลีมาอย่างยาวนาน 

แนะนำสูตรการทำ ต๊อกโบกี ง่าย ๆ แต่มีรสชาติอร่อยเหมือนได้กินที่เกาหลี

ใครที่เป็นคอซีรีส์เกาหลีน่าจะคุ้นเคยกับ เมนูอาหารเกาหลี นี้เป็นอย่างดี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอาหารเกาหลียอดนิยมที่หลายคนให้ความสนใจ ปัจจุบันเราไม่จำเป็นต้องบินไกลไปถึงเกาหลีแล้ว ถ้าอยากกิน ต๊อก โบกี ก็เพียงแค่ไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้า หรือใครอยากลงมือทำเองง่าย ๆ ที่บ้านก็เตรียมตัวไว้เลย เพราะวันนี้เรามี สูตรต๊อกโบกี ง่ายๆ มาฝากทุกคนด้วย มาดูกันว่าเราจะต้องใช้วัตถุดิบและส่วนผสมอะไรบ้าง และมีขั้นตอนวิธีการทำอย่างไร 

ต๊อกโบกี

วัตถุดิบการทำต๊อกโบกี 

  1. แป้งต๊อก 400 กรัม
  2. ออมุก/ลูกชิ้นปลาแผ่น 3 แผ่น
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. โคชูจัง 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำเชื่อม 1 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำเปล่า 150 มิลลิลิตร
  10. ต้นหอมซอย (ตามความชอบ) 

วิธีทำต๊อกโบกี ง่ายๆ

1.ขั้นตอนแรกนำไข่ไก่มาต้มให้สุก และในระหว่างที่รอไข่สุกให้เตรียม แป้งต๊อกโบกี โดยนำแป้งต๊อกมาแช่น้ำให้นิ่ม ต่อมานำออมุกมาหั่นยาว เสร็จแล้วพักไว้

ต๊อกโบกี
  1. ขั้นตอนต่อมาเตรียมส่วนผสมของซอส เริ่มจากนำพริกป่นมากรองด้วยตะแกรงให้ได้เนื้อละเอียดขึ้น เสร็จแล้วใส่ในถ้วยผสม ใส่น้ำตาลทรายเพิ่มลงไป 
  2. ตามด้วยผงปรุงรส น้ำเชื่อม และโคชูจัง เสร็จแล้วผสมทุกอย่างให้เข้ากัน ขั้นตอนนี้สามารถเติมน้ำลงไปเล็กน้อยได้ เมื่อต้มไข่จนสุกแล้วให้นำมาปอกเปลือกเตรียมไว้ ต่อมานำแป้งต๊อกที่แช่น้ำจนนิ่มขึ้นมาสะเด็ดน้ำ
  3. ตั้งกระทะแล้วเปิดไฟกลาง ใส่น้ำเปล่าลงไป 150 มิลลิลิตร ตามด้วยซอสที่ผสมไว้เมื่อสักครู่ จากนั้นคนให้ละลาย เมื่อเริ่มเดือดแล้วให้ใส่แป้งต๊อกลงไปต้ม
  4. เมื่อ แป้งต๊อก เริ่มสุกแล้วให้ใส่ออมุกลงไป คนให้เข้ากันเล็กน้อย ในระหว่างนี้หมั่นสังเกตดูอย่าให้ตัวน้ำซอสแห้งจนเกินไป หากน้ำซอสแห้งให้เติมน้ำเปล่าลงไป
  5. เมื่อทุกอย่างสุกแล้วให้ใส่ไข่ต้มลงไป คนให้เข้ากัน โรยต้นหอมซอยลงไปและคนอีกครั้ง จากนั้นปิดแก๊สและจัดใส่จานเสิร์ฟได้เลย 

เมนูอาหารเกาหลียอดฮิต ต๊อกโบกี ปรุงรสเองให้อร่อยฟินเหมือนบินไปกินที่เกาหลีได้ไม่ยาก

ต๊อกโบกี

ต๊อกบกกี หรือต๊อกโบกี เป็นอาหารเกาหลีที่โดดเด่นในเรื่องของรสชาติ โดยเฉพาะรสสัมผัสของแป้งนิ่ม ๆ ที่ทำให้หลายคนประทับใจ เมื่อเคี้ยวแล้วจะมีความหนุบหนับ แต่ทว่าความอร่อยของเมนูต๊อกโบกี นั้นไม่ได้อยู่ที่ตัวแป้งเพียงอย่างเดียว สิ่งสำคัญที่ทำให้แป้งอร่อยก็อยู่ที่ตัวซอสด้วย สำหรับ สูตรต๊อกโบกี ที่เราแนะนำนี้จะใช้ส่วนผสมที่สามารถหาซื้อได้ง่ายในห้างสรรพสินค้าทั่วไป ไม่ว่าใครก็สามารถทำตามได้เลย 

วิธีรับประทานต๊อกอย่างไรให้อิ่มอร่อยและได้ประโยชน์

ต๊อกโบกี

หลายคนอาจลืมคิดไปว่าเมนู อาหารเกาหลียอดฮิต เมนูนี้ไม่ได้มีดีเพียงแค่รสชาติเท่านั้น แต่ทว่าคุณประโยชน์ที่จะได้รับจากการทานก็มีอยู่ไม่น้อย สำหรับใครที่อยากทานต๊อกโบกีให้อิ่มอร่อยและได้รับสารอาหารครบ 5 หมู่ แนะนำให้เพิ่มเนื้อสัตว์และผักลงไปด้วย ทั้งนี้ปริมาณแคลอรี่จะเพิ่มขึ้น สำหรับผู้ที่กำลังควบคุมน้ำหนักก็สามารถทานได้ เพียงแค่ใส่ออมุกและไข่ต้มตามสูตรที่เราแนะนำไปเท่านั้น ซึ่งเมนู อาหารเกาหลีง่ายๆ จะได้รับพลังงานน้อยลง

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net

Categories
อาหารสุขภาพ

แชร์สูตร เพนเน่ซุปไก่ เมนูอาหารคลีน เต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย 

เพนเน่ซุปไก่

เมื่อกล่าวถึงเส้นพาสต้าแล้ว อย่างที่ทราบกันดีว่าจะมีเส้นอยู่หลายชนิดด้วยกัน หลัก ๆ แล้วเส้นพาสต้าจะทำจากแป้งสาลี ไข่ เกลือ น้ำและน้ำมันมะกอก เรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบยอดฮิตของอิตาลีที่ได้รับความนิยมไปทั่วโลก สำหรับบทความนี้เราขอนำเสนอเมนูอาหารคลีนที่ใช้เส้นพาสต้าเป็นวัตถุดิบหลัก นั่นคือเมนู เพนเน่ซุปไก่ หากใครที่ชื่นชอบเส้นพาสต้าแบบเพนเน่และอยากจะลองนำมาทำอาหารคลีน บอกเลยว่าไม่ควรพลาด 

ทำความรู้จัก เพนเน่ซุปไก่ เมนูอาหารคลีน ผสมผสานระหว่างเส้นพาสต้าและซุปไก่รสกลมกล่อม

เพนเน่ซุปไก่

เมื่อกล่าวถึง ซุป คลี น ๆ ที่หลายคนรู้จักก็คงหนีไม่พ้นซุปไก่ และถ้าจะให้ดีต้องใช้ส่วนของซี่โครงไก่มาต้มเป็นน้ำซุป เพราะจะช่วยให้ได้รสชาติกลมกล่อมพร้อมกับกลิ่นหอมแบบธรรมชาติ สำหรับเพนเน่ซุปไก่ เป็นเมนูที่ใช้เส้นพาสต้าเพนเน่มาปรุงรวมกับน้ำซุปไก่ แม้ว่าจะเป็นอาหารคลีนที่ใช้เส้นเป็นวัตถุดิบหลัก แต่ก็เต็มไปด้วยผักต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ อีกทั้งยังมีอกไก่ที่ให้โปรตีนสูงด้วย นับเป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารคลีนง่าย ๆ ที่น่าสนใจมาก 

สูตรการทำ เพนเน่ซุปไก่ ด้วยตัวเองง่าย ๆ สำหรับคนลดน้ำหนัก

เพนเน่ซุปไก่

หากคุณเป็นคนที่กำลังลดน้ำหนักและอยากจะลองทำอาหารคลีนทานเอง เราแนะนำให้เริ่มจากเมนูง่าย ๆ ก่อน ถึงแม้ว่า เมนูลดน้ำหนัก เหล่านั้นจะอร่อยมากเพียงใด แต่ถ้าหากคุณไม่รู้วิธีการปรุงที่ถูกต้องก็อาจจะทำให้เสียรสชาติจนไม่สามารถทานได้ สำหรับวันนี้เราขอแนะนำเมนู เพนเน่ ซุปไก่ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนู อาหารคลีน ที่ใช้วัตถุดิบไม่เยอะมาก และยังสามารถดัดแปลงตามความสะดวกได้อีกด้วย 

วัตถุดิบการทำเพนเน่ซุปไก่

  1. เส้นพาสต้าเพนเน่ 250 กรัม
  2. ซี่โครงไก่ 1 โครง
  3. อกไก่หั่นชิ้น 150 กรัม
  4. หัวหอมใหญ่หั่นเต๋า 1 ลูก
  5. มะเขือเทศหั่นเต๋า 3 ลูก
  6. แครอทหั่นเต๋า 1 หัว
  7. ขึ้นฉ่ายหั่น 1 ต้น
  8. น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  9. เกลือ 1 ช้อนชา
  10. พริกไทย (ใส่นิดหน่อย) 
เพนเน่ซุปไก่

วิธีการทำเพนเน่ซุปไก่

  1. ขั้นตอนแรกเตรียมต้มน้ำซุปไก่ เริ่มจากตั้งหม้อและต้มน้ำด้วยไฟกลาง เมื่อน้ำเดือดแล้วใส่ซี่โครงไก่ลงไป ต้มจนมีฟองและได้น้ำซุปใส ๆ ระหว่างนี้ให้หมั่นตักฟองออก เสร็จแล้วตักซี่โครงไก่ออกจากหม้อ
  2. ใส่อกไก่ลงไปในหม้อโดยไม่ต้องคน ต้มไปเรื่อย ๆ จนสุกดี จากนั้นใส่หัวหอมใหญ่ ตามด้วยมะเขือเทศและแครอท ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย เสร็จแล้วปิดฝาและรอให้ผักต่าง ๆ สุก หากมีฟองขึ้นมาให้ตักออกจากหม้อ
  3. เมื่อต้มจนผักสุกดีแล้วให้ใส่เส้นพาสต้าเพนเน่ลงไป ต้มจนเส้นสุกแล้วใส่ขึ้นฉ่ายลงไป ปรุงรสเพิ่มด้วยพริกไทยเล็กน้อย ถือเป็นอันเสร็จ 

เคล็ดลับการปรุงรส เพนเน่ ซุปไก่ ให้เป็นอาหารคลีน แต่มีรสชาติอร่อย

เพนเน่ซุปไก่

จริง ๆ แล้วสูตรการทำ เพนเน่ซุป ไก่ที่เราแนะนำไปนั้นถือเป็นอาหารคลีนที่มีรสชาติอร่อยและกลมกล่อมอยู่พอสมควร แม้ว่าจะไม่ได้ใส่เครื่องปรุงเยอะมากก็ตาม แต่ด้วยความที่ เพนเน่ซุปไก่ มีหัวหอมใหญ่ที่ให้รสหวาน และมะเขือเทศที่ให้กลิ่นหอม เมื่อนำมารวมกับซุปไก่แล้วก็ยิ่งชูรสชาติได้ดียิ่งขึ้นโดยที่ไม่ต้องปรุงอะไรเพิ่มเลย เช่นเดียวกับเมนูอาหารคลีนอื่น ๆ หากต้องการให้เมนูนั้นอร่อยก็สามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้ได้เลย เพียงเท่านี้เราก็จะได้ อาหารคลีนทำเอง ง่าย ๆ ที่รสชาติอร่อยลงตัวแล้ว 

เพ น เน่ ซุป ไก่ ประโยชน์ ดี ๆ ที่คู่ควรกับคนลดน้ำหนัก

เพนเน่ซุปไก่

นอกจากโปรตีนจากอกไก่แล้ว ต้องบอกว่าเมนู ลดน้ำหนัก นี้ยังเต็มไปด้วยคุณประโยชน์อีกมากมาย โดยหัวหอมใหญ่นั้นสามารถช่วยลดคอเลสเตอรอลและไขมันอุดตันในเส้นเลือด ส่วนมะเขือเทศจะมีไลโคปีน ช่วยต้านอนุมูลอิสระได้ และแครอทมีเบต้าแคโรทีน วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตาและผิว อีกทั้งยังช่วยในเรื่องขับถ่ายได้ด้วย จึงกล่าวได้ว่าเพนเน่ซุปไก่เป็นอาหารคลีนอีกหนึ่งเมนูที่เหมาะกับคนลดน้ำหนักอย่างมาก การเลือกเนื้อไก่เพื่อทำเมนู อาหารคลีนแบบประหยัด เราควรให้ความสำคัญกับคุณภาพของเนื้อไก่ด้วย เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ดี

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: ufaball.bet

Categories
สูตรอาหาร

จาจังมยอน เมนูเกาหลียอดฮิตที่น่าลอง พร้อมแจกสูตรการทำแบบง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่มาก

จาจังมยอน

เชื่อว่าคอซีรีส์เกาหลีจะต้องรู้จักเมนูอาหารของเกาหลีกันเป็นอย่างดี บางคนอาจไม่ได้รู้จักมากนัก แต่ก็ยังพอมีความคุ้นเคยอยู่บ้าง และเมื่อกล่าวถึงเมนูอาหารยอดฮิตในซีรีส์เกาหลีที่หลายคนพูดถึง หนึ่งในนั้นคงหนีไม่พ้นเมนูอย่าง จาจังมยอน เรียกว่าเป็นอาหารเกาหลีที่คนไทยหลายคนให้ความสนใจอย่างมาก ซึ่งมีลักษณะเป็นบะหมี่เกาหลีราดซอสสีดำ โดยในเมนูจะมีทั้งเส้น เนื้อสัตว์และผัก รสชาติหวานนิดขมหน่อย แต่โดยรวมถือว่าอร่อยพอสมควร 

การรับประทาน จาจังมยอน ของคนเกาหลีที่ได้รับอิทธิพลมาจากจีน

จาจังมยอน

ต้องบอกว่า จาจังมยอนคือ เมนูอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากพ่อค้าคนจีน ซึ่งได้นำเมนูนี้ได้เข้ามาเผยแพร่ที่ China Town เมืองอินชอน ประเทศเกาหลีใต้ ในปี ค.ศ. 1905 เดิม จาจังมยอน จะมีรสชาติสไตล์จีน ต่อมาได้ปรับรสชาติให้ถูกปากคนเกาหลีมากขึ้น ซึ่งคนเกาหลีจะนิยมทานจาจังมยอน หรือ บะหมี่ดำเกาหลี คู่กับกิมจิ หัวหอมใหญ่ หัวไชเท้าดอง และผักอื่น ๆ ที่เข้ากันได้ดี 

แจกสูตร จาจังมยอน บะหมี่ซอสดำรสเด็ดจากเกาหลี ทำกินเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อใคร

จาจังมยอน

ถึงแม้ว่าจะมีความคุ้นเคยกับ อาหารเกาหลียอดฮิต จากซีรีส์เกาหลี แต่ถ้าหากไม่ได้ศึกษามาก่อนว่า จาจังมยอนใส่อะไรบ้าง ก็อาจทำให้เราไม่ทราบว่าจะต้องเตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมอะไรบ้าง สำหรับทำเมนูดังกล่าว แต่ไม่ต้องกังวลเลย เพราะวันนี้เรามีสูตรการทำ จาจังมยอน แบบง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบไม่มากมาฝากทุกคนด้วย หากใครอยากลองทำทานเองที่บ้านก็เอาสูตรนี้ไปทำตามได้เลย 

วัตถุดิบการทำจาจังมยอน เมนูอาหารเกาหลี

จาจังมยอน
  1. เส้นอุด้ง 1 กิโลกรัม
  2. ผงจาจังมยอนสำเร็จรูป 100 กรัม
  3. หมูสามชั้น 300 กรัม
  4. หัวหอมใหญ่ 1/2 หัว
  5. มันฝรั่ง 1 หัว
  6. แครอท 1 หัว
  7. น้ำมันพืช
  8. น้ำเปล่า
  9. พริกสดหั่น (ตามความชอบ)
  10. แตงกวาหั่น (ตามความชอบ)

วิธีการทำจาจังมยอน

จาจังมยอน
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม เริ่มจากนำหมูสามชั้นมาหั่นเป็นชิ้น ๆ ตามต้องการ ต่อมานำหัวหอมใหญ่ มันฝรั่งและแครอท มาหั่นเต๋า เสร็จแล้วพักไว้
  2. ตั้งกระทะแล้วเปิดไฟกลาง เทน้ำมันพืชลงไป ตามด้วยหมูสามชั้น ผัดจนหมูสามชั้นสุกแล้วค่อย ๆ ใส่มันฝรั่งและแครอทลงไป ผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่หัวหอมใหญ่ลงไปแล้วผัดให้เข้ากันอีกครั้ง
  3. เมื่อผัดจนทุกอย่างเริ่มสุกแล้ว เติมน้ำเปล่าลงไปให้พอดีกับส่วนผสม และต้มทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที ขั้นตอนต่อมาเตรียมต้มเส้นอุด้ง โดยเริ่มจากต้มน้ำให้เดือดจัดแล้วนำเส้นอุด้งลงไปลวกให้สุก 
  4. เสร็จแล้วนำไปล้างน้ำสะอาดและพักไว้ เมื่อต้มจนหมูสามชั้น มันฝรั่ง แครอทและหัวหอมใหญ่สุกดีแล้ว ต่อมาให้ใส่ผงจาจังมยอนลงไป คนให้เข้ากันและรอจนน้ำซอสข้นได้ที่ 
  5. เสร็จแล้วปิดแก๊สและเตรียมจัดเสิร์ฟ นำเส้นอุด้งใส่ในถ้วย จากนั้นราดน้ำซอสจาจังมยอนลงไป ตกแต่งด้วยพริกสดหั่นและแตงกวาหั่น อาหารเกาหลีง่ายๆ ถือเป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน 

เคล็ด(ไม่)ลับการทำเมนูจาจังมยอน ให้ได้เส้นเหนียวนุ่ม เคี้ยวแล้วฟินถึงใจ

จาจังมยอน

เราจะสังเกตได้ว่า อาหารเกาหลีในซีรีส์ ส่วนใหญ่มักจะเป็นอาหารประเภทเส้น และเส้นเหล่านั้นก็ดูเหนียวนุ่มหนุบหนับ ชวนรับประทานอย่างมาก สำหรับเคล็ดลับการทำ จาจัง มยอน ให้ได้เส้นเหนียวนุ่มก็คือ หลังจากลวกเส้นจนสุกแล้วอย่าเพิ่งนำเส้นออกจากหม้อ แนะนำให้ต้มต่อแล้วเทน้ำเปล่าลงไปอีกสัก 1-2 ถ้วย จากนั้นใช้ตะเกียบคนไปเรื่อย ๆ สักพักหนึ่ง เสร็จแล้วนำเส้นสุกไปล้างด้วยน้ำสะอาดพร้อมจัดเสิร์ฟ จะได้เส้นเหนียวนุ่ม ทานกับ ซอสจาจังมยอน แล้วอร่อยฟินถึงใจแน่นอน

ไขข้อข้องใจจาจังมยอน จาจังเมียน ต่างกันยังไง

จาจังมยอน

หลายคนอาจกำลังสับสนเกี่ยวกับชื่อเมนูอาหารเกาหลีอย่างจาจังมยอนว่าจริง ๆ แล้วมีความเหมือนหรือต่างอย่างไรกับจาจังเมียน ต้องบอกก่อนว่า จาจังมยอนทำมาจาก เส้นบะหมี่เกาหลีและน้ำซอสสีดำ โดยคำว่า “จาจัง” แปลว่า น้ำซอสผัด และคำว่า “มยอน” แปลว่า เส้นบะหมี่ รวมกันเป็น “Jajangmyeon” ซึ่งอ่านว่าจาจังมยอน หรือจาจังเมียนก็ได้ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่าทั้งสองชื่อคือเมนูเดียวกัน 

อ่านบทความอื่นๆ:

สนับสนุนโดย: hilo-88.net