Categories
สูตรอาหาร

กุ้งจ่อมทรงเครื่อง อาหารขึ้นชื่อสุดซี๊ดของชาวบุรีรัมย์

ถ้าหากต้องมาเยี่ยมยืนเมืองบุรีรัมย์ต้องไม่พลาดอาหารบ้านๆสูตรบุรีรัมย์อย่าง กุ้งจ่อมทรงเครื่อง นั่นเองค่ะเพราะนอกจากจะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อติดไม่ติดมือเป็นของฝากแล้วยังเป็น อาหารพื้นบ้าน สุดอร่อยของคนเมืองบุรีรัมย์เลยจ้าซึ่งรสชาติของกุ้งจ่อมจะมีรสสัมผัสที่หอม เปรี้ยว บางคนถ้าหากชอบทานเผ็ดอาจเติมพริกป่นลงไปได้เลยขนาดทานซึ่งเมนูกุ้งจ่อมจะเป็นเมนูที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากรับประทานเพราะเนื่องจากคิดว่ากุ้งจ่อมนั้นเป็นของดิบไม่หน้ารับประทานแต่ในความเป็นจริง กุ้งจ่อมของเราสามารถทำสุกก่อนจึงค่อยทานได้แต่ถ้าหากทานแบบต้นตำรับต้องทานแบบดิบๆจึงจะได้รสสัมผัสที่ชัดเจนนั่นเองค่ะ โดยกุ้งจ่อมเป็นเมนูของหมักดองคล้ายกับเราทานแหนมแต่เเหนมทำมาจากหมูจึงเป็นของที่ดูหน้าตาดูหน้าทานมากกว่ากุ้งจ่อมแต่กุ้งจ่อมอาจจะเพราะด้วยมีส่วนผสมของปลาร้าจึงทำให้เป็นสีดำและมีกลิ่นแบบเฉพาะตัวของเขานั่นเอง แต่ถ้าหากคนทานเป็นการทานกุ้งจ่อมจะไม่ใช่สิ่งที่ยากอย่างที่คิดเลยอาทิเช่นการ ทานกุ้งจ่อมให้อร่อย จะต้องมีการทานกับผักเคียงที่ให้รสชาติอร่อยหอมหรือไม่ก็ทานกับพริกสดซึ่งให้ความเผ็ดร้อนกลบความคาวตามด้วยผักชีเพิ่มความหอมละมุนของอาหารขึ้นชื่อจานนี้นั่นเองจ้า แนะนำให้ได้ลองลิ้มรสสักครั้งแล้วจะลืมน้ำพริกถ้วยเก่าไปเลยจ้า วันนี้เราจึงยกวัตถุติบต่างๆและสัดส่วนในการทำกุ้งจ่อมทรงเครื่องมาฝากแม่บ้านพ่อบ้านชอบทานของแปบกให้ได้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านอย่างจุใจสามารถติดตาม สูตรอาหารเด็ด ได้ตามขั้นตอนด้านล่างนี้จ้า

กุ้งจ่อมทรงเครื่อง

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ กุ้งจ่อมทรงเครื่อง

วัตถุดิบทีใช้ในการทำ กุ้งจ่อมทรงเครื่อง นั้นบอกได้คำเดียวว่าไม่ยากไม่เยอะอย่างที่คิดเนื่องจากเป็นอาหารจานเด็ดทำง่ายจึงแนะนำให้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านและ จัดเตรียมวัตถุดิบง่ายๆ ได้เลยตามขั้นตอนด้านล่าวนี้เนื่องจากกุ้งจ่อมทรงเครื่องเป็นอาหารประจำเมืองบุรีรัมย์แต่ก็ยังคงเป็นอาหารประจำของ อ.ประโคนชัย ซึ่งต้นกำเนิดมาจากคน อ.ประโคชัยแต่เมื่ออยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์และเป็นของอร่อยจึงขึ้นชื่อให้กับเมืองบุรีรัมย์กันไปเต็มๆ สำหรับเมนูกุ้งจ่อมที่ใครๆต่างมองว่าทำยากแต่แท้จริงแล้วทำง่ายและอร่อยหอมด้วย หอมในที่นี้บางคนสงสัยว่ากุ้งจ่อมจะหอมได้อย่างไรในเมื่อส่วนผสมมีแต่ของหมักดองแต่ความลับมันอยู่ที่คนปรุงแต่งตัวกุ้งจ่อมให้อร่อยต่างหากเมนูกุ้งจ่อม จะเป็นเมนูที่ใช้ สมุนไพร ในการทำให้เกิดความหอมมากกว่าใช้เนื้อสัตว์ในการทำและแน่นอนว่าวัตถุดิบที่ใช้นำมาทำก็ หาง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและมีราคาถูกอีกด้วยทั้งหอมทั้งอร่อยทั้งทำง่าย มาลงมือจัดเตรียมวัตถุดิบได้เลยตามขั้นตอนด้านล่างนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. กุ้งจ่อม 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ
  2. หมูบด 200 กรัม
  3. ตะไคร้ 4-5 ต้น
  4. ใบมะกรูด 5 ใบ
  5. หอมแดงซอย 4-5 หัว
  6. กระเทียมซอย 3 กลีบ
  7. พริกสดซอยตามชอบ
  8. น้ำตาล 1 ช้อนชา 
  9. มะนาว 1 ซีก
  10. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำปลานิดหน่อยหากกุ้งจ่อมไม่เค็ม
กุ้งจ่อมทรงเครื่อง

ขั้นตอนและวิธีการทำกุ้งจ่อมทรงเครื่อง

ขั้นตอนและวิธีการทำ กุ้งจ่อมทรงเครื่องนั้น ต้องบอกไว้ก่อนตรงนี้เลยว่าง่ายดายแสนง่ายดายจริงๆ เนื่องจากกุ้งจ่อมของเราจะมีขายตามท้องตลาดทั่วไปแต่จะนำมาทานเลยหลังซื้อมาจากตลาดทั่วไปก็ได้แต่ถ้าอยากให้ได้ความหอมละมุนอร่อยลิ้นต้องนำมาปรุงเล็กน้อยเพื่อให้เกิดความหอมนั่นเองค่ะ การปรุงของเราสามารถปรุงแบบตักมาปรุงทานดิบๆหรือตั้งไฟรวนทานแบบสุกๆก็ทานได้ซึ่งการทำไม่ยากเย็นอย่างที่คิดจริงๆใน เมนูอร่อย จานนี้และการทำกุ้งจ่อมให้อร่อยดั้งเดิมแบบชาวอีสานทานคือต้องทานดิบแต่ช่วงนี้แม้จะอยู่ในยุคโรคภัยเยอะเราก็มาทำทานแบบสุกๆจะดีกว่าค่ะแบบนี้นะนำให้ลองจัดทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลยจ้า

ขั้นตอนการทำกุ้งจ่อมทรงเครื่อง

  1. นำกระทะตั้งไฟใส่หมูลงไปรวนจนสุกดีจากนั้นตามด้วยกุ้งจ่อม
  2. นำพริก กระเทียม ตะไตร้ลงไปผัดจนหอมดีแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลาจากนั้นชิมรส
  3. นำหอมแดงและใบมะกรูดลงไปผัดจนส่วนผสมฮวดดีแล้วจึงปิดไฟบีบมะนาวลงตามชอบ
  4. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟคู่กับผักเคียงเป็นเสร็จเรียบร้อยจ้า
กุ้งจ่อมทรงเครื่อง
Categories
สูตรอาหาร

Osso Buco (หรือ Ossibuchi) เนื้อต้มแบบฉบับอิตาเลียน

Osso Buco (ออสโซบุโก) ชื่อภาษาอังกฤษของเมนูอาหารจากประเทศอิตาลี สะกดคำได้ทั้งสองแบบ คือOsso Bucoหรือบางครั้งสะกดเป็น Osso Bucco แต่ภาษาอิตาเลียนจริง ๆ แล้วนั้นจะเขียนว่า Ossibuchi (ออสซิบูกิ) ก็แล้วแต่คนจะเรียกกัน หากแปลตามตัวแล้วนั้น Buco แปลว่า รู, Osso แปลว่า กระดูก แปลแล้วจึงหมายความว่า รูที่กระดูก มีวิธีการทำที่ค่อนข้างจะเยอะ หลายขั้นตอน แต่ไม่ยุ่งยากแบบที่คิด ซึ่งเขาถือว่าเป็นอาหารอิตาลีขนานแท้ที่รสชาติอร่อยกลมกล่อม เนื้อที่ใช้เป็นวัตถุดิหลักของเมนูนี้คือเนื้อตรงกระดูกหน้าแข้งของวัว ตรงนี้จึงได้เหมือนกับเนื้อสเต็กชิ้นใหญ่ที่เป็นกระดูกที่มีรูอยู่ แค่ฟังก็รู้แล้วว่าน่ารับประทานแค่ไหน เราตามไปดูวัตถุดิบและวิธีการทำได้เลย

Osso Buco

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนูOsso Bucoเนื้อต้มแบบฉบับอิตาเลียน

  1. เนื้อวัวตรงหน้าแข้ง 4 ชิ้น 
  2. แป้งสารพัดประโยชน์ ½ ถ้วยตวง
  3. เนย 100 กรัม 
  4. มะเขือเทศลูกใหญ่ 2 ลูก (เลือกลูกที่สุก ๆ ปลอกเปลือกออกแล้วหั่นแบบสับไว้เป็นชินเล็ก ๆ)
  5. หอมหัวใหญ่ 1 หัว หั่นเป็นชิ้น ๆ เอาไว้ 
  6. กระเทียม 1 กลีบ สับไว้ให้ละเอียด
  7. แครอท 1 หัว หั่นไว้เป็นชิ้นเล็ก ๆ 
  8. ต้นขึ้นช่าย 1 ต้น หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ 
  9. ผักชีฝรั่ง Parsley 1 กำ สับเป็นชิ้นเล็ก ๆ ให้ละเอียด
  10. ผิวมะนาว ขูดเอาจากเปลือกมะนาวโดยใช้ตะแกรง 
  11. ไวน์ขาว 1 ถ้วยตวง (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  12. เกลือ
  13. พริกไทย

วิธีการทำเมนูOsso Bucoเนื้อต้มแบบฉบับอิตาเลียน

  1. ตั้งกระทะและเปิดไฟโดยใช้ไฟอ่อน ใส่เนยลงไปในกระทะเล็กน้อย เมื่อเนยเจอความร้อนจะเริ่มละลาย
  2. นำ เนื้อวัว ไปชุบแป้งให้ทั่วทั้งตัว และนำลงไปทอดในกระทะ โรยเกลือและพริกไทยลงตามใจชอบ
  3. เติมไวน์ขาวลงไปในกระทะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบดื่มไวน์ แต่ถ้าหากใครที่ไม่ชอบ สามารถข้ามขั้นตอนนี้ไปได้เลย หลังจากที่เติมไวน์ลงไปแล้วให้รอจนไวน์เริ่มระเหยและระเหยไปจนหมด ทอดเนื้อวัวให้สุกจนกลายเป้นสีน้ำตาลเหลืองสวยทั้งสองด้าน
  4. ใส่ผักที่เตรียมไว้โดยการสับให้ละเอียดลงไปในกระทะ ซึ่งก็ได้แก่ แครอท ต้นขึ้นฉ่าย และหอมใหญ่ และทำการทอดไปเรื่อย ๆ จนผักเริ่มมีความนิ่ม 
  5. นำมะเขือเทศที่ปอกเปลือกออกและสับเป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาไว้แล้ว ใส่ลงไปในกระทะที่ทอดเนื้อวัวอยู่ ปรับไฟลงให้เป็นไฟอ่อน ต้มไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที แต่ที่สำคัญต้องคอยดูอยู่ตลอด ไม่ให้ไหม้ ถ้าหากว่าเริ่มแห้งเกินไปก็สามารถเติมน้ำเปล่าได้ 
  6. ขณะเดียวกันนั้น ที่รอต้มเนื้อให้สุก ก็มาเตรียมผักเอาไว้ ซึ่งก็ได้แก่ ใบผักชีฝรั่ง กระเทียมที่สับละเอียด และผิวมะนาวที่ขูดออกมาแล้วจากผิวมะนาว คลุกเคล้าผักทั้งหมดให้ผสมเข้ากันเอาไว้ในถ้วยเล็ก ๆ 
  7. เมื่อครบเวลา 1 ชั่วโมง 30 นาทีแล้วนั้น เนื้อวัวที่ต้มไว้กัลป์ส่วนผสมทั้งหลายก็จะสุกได้ที่แล้ว ให้นำขึ้นมาใส่จาน จากนั้นให้โรยส่วนผสมใบผักชีฝรั่ง กระเทียมสับละเอียด และผิวมะนาว ไว้ด้านบนของจานเนื้อวัว ก็จะเป็นอันเสร็จพิธี สำหรับเมนูOsso Bucoตามแบบฉบับอิตาเลียนแท้ ๆ
Osso Buco

Osso Buco เมนูยอดนิยมของอิตาลี 

นอกจากจะเป็นเมนูยอดนิยมของอิตาลีแล้ว เมนูนี้เขายังนิยมทานกันอย่างแพร่หลาย และยังนิยมทานกัยข้าวปรุงสไตล์มิลาน Risotto alla Milanese นิยมทานเป็นกับ โดยวางข้าวไว้ด้านข้างและวางOsso Bucoไว้ข้าง ๆ วิธีการทำนั้นไม่ง่ายเลย เพราะมีขั้นตอนในการทำเยอะ และมีวัตถุดิบเยอะ แต่หากทำตามขั้นตอนดี ๆ แล้วนั้น ไม่ยากเลย อาหารอิตาลีที่มีชื่อเสียง เพราะเป็นเมนูที่ตามร้านอาหารอิตาลีทั่วไป นิยมเสิร์ฟลูกค้า และหลายท่านก็ชอบสั่งทานกัน เมนูเนื้อวัวต้ม ที่นำไปต้มใส่ส่วนผสมหลายอย่างของอิตาลี รวมไปถึงการเทไวน์ลงไปด้วย เพื่อให้รสขชาติของเนื้อดูหอมและหวานขึ้น แต่ถ้าใครที่ไม่ทานก็ไม่จำเป็นต้องใส่ก็ได้ จะทานเป็นจานหลักเลยหรือจะทานคู่กับข้าวก็อร่อยมากเช่นเดียวกัน ใครที่สนใจสามารถจดสูตรไปทำตามกันได้เลย

Categories
สูตรอาหาร

ฟอกาเซีย (Focaccia) ขนมปังสไตล์อิตาลี นุ่มหอมอร่อย

ฟอกาเซีย

ฟอกาเซีย หรือ Focaccia ขนมปังสัญชาติอิตาลีแท้ ๆ ที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งเมนู เป็นขนมปังชนิดหนึ่งจากประเทศอิตาลี ที่ใช้วัตถุดิบไม่มากนัก ใช้วัตถุดิบน้อยแต่รับประกันความอร่อยอย่างแน่นอน ใช้ขนมปังเป็นวัตถุดิบหลัก และผสมด้วยเครื่องเทศต่าง ๆ ให้เกิดความหอม เครื่องเทศต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงความเป็นอิตาลีแท้ ก็อย่างเช่น โรสแม่รี่และพาร์สเล่ย์อิตาเรียน จึงจะได้ชื่อว่าเป็นขนมปังตามแบบฉบับของอิตาเลียนแท้ ๆ และที่ขาดไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้นจะกลายมาเป็นเมนู ขนมปังสไตล์อิตาลี ฟอกาเซียไม่ได้ นั่นก็คือ มะกอกดอง ที่จะต้องมีอยู่ในเมนูขนมปังฟอกาเซีย ขนมปังที่ตกแต่งหน้าด้วยผักต่าง ๆ สีสันสดใสชวนให้ลิ้มลองมาก

ฟอกาเซีย

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนู ฟอกาเซีย (Focaccia)

  1. แป้งขนมปัง ½ ถ้วย
  2. น้ำมันมะกรอก ½ ช้อนโต๊ะ
  3. ยีสต์ 2 ช้อนชา 
  4. น้ำมันมะกอกสำหรับทาพิมพ์และหน้าขนมปัง 2 ช้อนโต๊ะ 
  5. น้ำเปล่า 300 มิลลิลิตร
  6. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  8. พาร์สลีย์อิตาเลียน
  9. มะเขือเทศราชินีแดงและเหลือง
  10. พริกชี้ฟ้าเหลือง
  11. พริกเจลาปิโนเขียว
  12. พริกหยวก
  13. มะกอกดองเขียวและดำ 

วิธีการทำเมนูฟอกาเซีย (Focaccia)

  1. ผสมแป้ง เกลือ น้ำตาลและยีสต์เข้าด้วยกัน ตามส่วนผสมที่ได้กำหนดไว้ คนไปเรื่อย ๆ จนเร่มเข้ากัน จากนั้นให้เติมน้ำเปล่าหรือน้ำสะอาดลงไป คนต่ออีกจนเข้ากันดีทั้งหมด
  2. ใส่น้ำมันมะกอกเข้าไป นวดส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันดี จากนั้นให้ทำการพักแป้งทิ้งไว้ 20 นาที จนเริ่มเห็นว่าแป้งนั้นเริ่มฟูขึ้น
  3. เสร็จจากขั้นตอนการพักแป้ง 20 นาทีแล้ว ให้ตะล่อมตัวแป้ง จากด้านล่างขึ้นด้านบนต่ออีก 15 นาทีด้วยกัน 
  4. โรยแป้งบาง ๆ บนโต๊ะที่สะอาด
  5. นำแป้งออกจากชามผสม ทำการไล่อากาศออกจากแป้งเล็กน้อย เพื่อให้แป้งเนื้อเนียนละเอียดมากยิ่งขึ้น และรีดแป้งออก โดยเราจะเรียกแป้งตัวนี้ว่าแป้งโด 
  6. หลังจากรีดแป้งโดเสร็จแล้ว ให้นำแป้งมาใส่ถาดที่เป็นถาดไว้สำหรับอบ ใช้มือค่อย ๆ กดแป้งให้ลงไปในถาดพิมพ์ ให้เท่า ๆ กันและทั่วถาดจนเต็มถาด และพักแป้งไว้อีก 15 นาที เพื่อให้แป้งขึ้นตัวอีกเป็น 2 เท่า 
  7. ทำการหั่นมะเขือเทศราชินี พริกชี้ฟ้า พริกเจลาปิโน พริกหยวก และวัตถุดิบที่สำคัญอย่าง มะกอกดอง  หั่นทุกอย่างเตรียมเอาไว้
  8. นำแป้งโดที่ขึ้นรูปสวยงามหลังที่เราพักไว้ 15 แล้ว นำมาตกแต่งด้วย มะเขือเทศราชินี พริกชี้ฟ้า พริกเจลาปิโน พริกหยวกและมะกอกดองให้สวยงาม
  9. เมื่อตกแต่งจนพอใจแล้ว นำเข้าเตาอบด้วยอุณหภูมิ 180 องศา ในระยะเวลา 30 – 45 นาที ซึ่งในระยะเวลานี้จะทำให้แป้งฟอกาเซีย สุกและเหลืองกรอบกำลังดี
  10. ครบกำหนดเวลาแล้ว ก็นำแป้งโดหรือฟอกาเซีย (Focaccia) ขนมปังสไตล์อิตาลี ออกมาจากเตาอบ พักทิ้งไว้ให้เย็น ก็สามารถเสิร์ฟได้เลย ซึ่งจะเสิร์ฟโดยการหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ เสิร์ฟคู่กันกับมะกอกดองและน้ำมันมะกอก ทานคู่กันรับรองว่าอร่อยถึงความเป็นอิตาลีแท้อย่างแน่นอน

ฟอกาเซีย
Categories
สูตรอาหาร

มาม่าผัดกะเพราหมูสับ บวกสองเมนูยอดฮิตเข้าไปด้วยกัน

หากถามถึง เมนูของเด็กหอ หรือเมนูประจำสิ้นเดือนของเรา ก็คงจะหนีไม่พ้น มาม่า หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูที่ราคาถูกและทำได้ง่าย ๆ แถมอร่อยมาก ๆ อีกด้วย และถ้าจะพูดถึงเมนู อาหารตามสั่ง ที่คนเรานิยมสั่งกินกันมากที่สุด ก็เห็นจะเป็นเมนู กะเพรา นั่นเอง เรียกกันว่าเป็นเมนูสิ้นคิด แต่ก็ยอมรับว่าอร่อยจริง ๆ วันนี้เราจะพานำสองเมนูนี้มารวมกัน เป็นเมนู มาม่าผัดกะเพราหมูสับ เตรียมจดสูตรและทำตามกันได้เลย

มาม่าผัดกะเพราหมูสับ

วัตถุดิบและส่วนผสมของเมนูมาม่าผัดกะเพราหมูสับ

  1. มาม่าหรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ห่อ
  2. หมูสับ 
  3. ใบกะเพรา
  4. น้ำมันพืช 
  5. พริกสดและพริกแห้ง
  6. กระเทียม
  7. น้ำปลา
  8. น้ำตาลทราย
  9. ซอสปรุงรส
  10. น้ำมันหอย
  11. มะนาว 
  12. พริกไทยป่น
  13. ผักชี
  14. ผักสดต่าง ๆ 
  15. น้ำเปล่า

วิธีการทำเมนูมาม่าผัดกะเพราหมูสับ

  1. เริ่มต้นด้วยการเตรียม บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป นำบะหมี่ลงไปต้มในน้ำเดือด ต้มให้เส้นพออ่อนไม่ต้องนิ่มมาก เพราะถ้านำไปผัดแล้วจะเละหมด เสร็จแล้วนำกระชอนตักขึ้นมาพักไว้ 
  2. มาเริ่มผัด กะเพรา อย่างแรกตั้งกระทะและใส่น้ำมันพืชลงไป นำกระเทียมที่ปอกเปลือกและทุบแล้วลงไปในน้ำมัน พร้อมกับพริกสดกับพริกแห้งซอย ผัดให้หอม 
  3. เติมน้ำเปล่าลงไปเล็กน้อย และปรุงรสตามใจชอบด้วยน้ำปลา น้ำตาลทรายและน้ำมันหอย อาจจะใส่ผงปรุงรสของ มาม่า ลงไปด้วยเพื่อเพิ่มรสชาติ
  4. ใส่ หมูสับ ลงไป และผัดให้เข้ากับเครื่องปรุงทั้งหมด สามารถใส่ได้ในปริมาณที่ชอบได้เลย
  5. นำมาม่าที่ต้มพักไว้ลงไปในกระทะ ผัดให้เข้ากับส่วนผสมทุกอย่าง 
  6. ใส่ใบกระเพราลงไป ผัดพอหอม และปิดไฟได้เลย
  7. ตักใส่จาน โรยด้วยผักชีและพริกไทยป่น อาจจะบีบมะนาวโรยหน้าลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความเปรี้ยวและความแซ่บ จากนั้นก็พร้อมเสิร์ฟ
มาม่าผัดกะเพราหมูสับ

มาม่าผัดกะเพราหมูสับ เมนูสิ้นเดือนที่น่าลอง 

มาม่าผัดกะเพราหมูสับเป็นเมนูที่แสนประหยัดและยังอร่อยอีกด้วย อร่อยกับเส้นบะหมี่ที่เหนียวนุ่มและความเข้มข้นจากเมนู กะเพรา ซึ่งเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เมนู ประหยัด ที่ได้คุณค่าทางสารอาหารด้วย แถมยังเป็นเมนูใหม่ที่เหมาะสำหรับคนที่เบื่อ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และเบื่อผัดกะเพราธรรมดา ๆ เราจึงได้นำสองเมนูมาบวกกัน กลายเป็นเมนูประหยัดและอร่อย สามารถทำทานได้บ่อย ๆ และทานได้กันทั้งครอบครัว ทานได้ทั้งเป็นของทานเล่น และเป็นเมนูอาหารหลักอีกด้วย รับประทานในช่วงกลางวันจะดีมาก เพราะทำให้อิ่มท้องได้เกือบทั้งวัน

มาม่าผัดกะเพราหมูสับ
Categories
สูตรอาหาร

ไก่รวนปลาร้า เมนูแซ่บนัว อร่อยได้ง่ายๆได้ที่บ้าน

เมนูแซ่บง่ายวันนี้นำเสนอเมนู ไก่รวนปลาร้า เป็นเมนูอีสานตอนใต้อย่างง่ายที่นำเสนอให้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านได้เลยค่ะเมนูนี้ โดยเมนูไก่รวนปลาร้าจะทำได้ค่อนข้างง่ายและใช้เวลาทำไม่นานเนื่องจากตัววัตถุดิบเนื้อสัตว์ของเราคือไก่ และแน่นอนว่าไก่เป็นเมนูอาหารที่ทำง่ายสุกง่ายอร่อยง่ายๆอีกด้วย ในรสสัมผัส เมนูอย่างง่าย ของเราวันนี้จะมีรสหอมจากผักและเค็มนิดๆจากปลาร้าซึ่งเมื่อนำมารวนกับไฟร้อนๆจะทำให้ได้กลิ่นอายของปลาร้าเมืองบุรีรัมย์ได้อย่างชัดเจนหากทานตามร้านค้าทั่วไปข้างทางแต่ถ้าหากทำเองแนะนำว่าควรเลือกใช้ปลาร้าเข้มข้นจากขวดต่างๆตามร้านค้าในส่วนหนึ่งและเลือกใช้ปลาร้ากระปุกที่ทำการต้มเองตามบ้านหรือหากบ้านไหนไม่มีปลาร้าต้มเองก็ใช้แต่ปลาร้าขวดได้เลยเพียงอาจลดสัดส่วนลงเล็กน้อยเท่านั้นเอง เนื่องจากปลาร้ากระปุกจะให้ความนัวเค็มหนักมากในหนึ่งขวดจึงจำเป็นต้องลดสัดส่วนลงบ้างนั่นเองค่ะ ในเมนูอาหารขึ้นชื่อจากบุรีรัมย์เมนูนี้อยากยกความดีความชอบให้ลองทำทานง่ายๆที่บ้าน โดยทางเราจัดหา สูตรอาหาร เมนูนี้ที่เหมาะสมลงตัวมาฝากคนติดตามอาหารอร่อยง่ายๆวันนี้แล้วจ้าที่นี่เลย สามารถจัดเตรียมวัตถุดิบทำอาหารง่ายๆได้เลยตามขั้นตอนด้านล่างนี้จ้า

ไก่รวนปลาร้า

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ไก่รวนปลาร้า

ในวัตถุดิบที่เลือกใช้ในเมนู ไก่รวนปลาร้า เป็นอาหารพื้นบ้านที่สามารถเลือกใช้วัตถุดิบตามพื้นบ้านได้ง่ายๆแบบลงตัวในเมนูนี้ ในเมนูไก่รวนปลาร้าเป็นอาหารของคนอีสานฉะนั้นจะต้องมีความแน่นในเครื่องของ สมุนไพร เพื่อให้เกิดความหอมกลบกลิ่นของไก่นั่นเองหากเป็นอาหารของชาวบุรีรัมย์แท้ๆจะนิยมใช้ไก่บ้านเพราะไก่บ้านจะมีความเหนียวหนึบแต่เนื้อสัมผัสมีกลิ่นเฉพาะตัวนั่นเองค่ะ ในเมนูนี้บอกได้เลยคำเดียวค่ะว่าไม่พลาด ความอร่อย แน่นอน วัตถุดิบที่เลือกใช้สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปหรือบางบ้านหรือร้านอาหารอาจปลูกใช้เองก็ถือประหยัดไปอีกแบบ แบบลงตัวสุดๆในเมนูนี้ค่ะ แต่ถ้าหากเป็นชาวในเมืองแต่อยากทานเมนูนี้ง่ายๆที่บ้านเราก็มีการจัดเปลี่ยนวัตถุดิบให้เกิด สูตรอร่อย ในเมนูไก่รวนปลาร้ามาฝากสำหรับคนชอบทานไก่เลยจ้า แนะนำให้ลองทำทานที่บ้านง่ายๆกับครอบครัวดูนะคะจะทราบว่าคุ้มเกินคุ้มในเมนูนี้เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบเยอะเวลาทำสักครั้งจึงต้องจัดเตรียมวัตถุดิบทำเพื่อทานได้หลายๆมื้อเพราะยิ่งอุ่นยิ่งอร่อยจบครบในหนึ่งเมนูจ้า สามารถจัดเตรียมวัตถุดิบได้ดังรายการต่อไปนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. เศษเนื้อน่องไก่250 กรัม
  2. ตะไคร้3-4 ต้น
  3. ใบมะกรูด6-8 ใบ
  4. ข่า1 แง่ง
  5. หอมแดง7-8 หัว
  6. พริกจินดาแดง10 เม็ด
  7. พริกจินดาแห้ง10 เม็ด
  8. พริกขี้หนูสวน15 เม็ด
  9. น้ำปลาร้า3 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำเปล่า4 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำตาลทราย1/2 ช้อนโต๊ะ
  12. ผงชูรส1 ช้อนชา
ไก่รวนปลาร้า

ขั้นตอนและวิธีการทำไก่รวนปลาร้า

     ขั้นตอนและวิธีการทำเมนู ไก่รวนปลาร้า สามารถบอกได้คำเดียวค่ะว่าทำง่ายมากถึงมากๆ เมนูนี้อาจจะวุ่นวายมากๆในขั้นตอนของการทำการจัดเตรียมวัตถุดิบเนื่องจากเราต้องใช้สมุนไพรที่หลากหลายเพื่อให้เมนูนี้ออกมาหอมกรุ่นหน้ารับประทานนั่นเองค่ะ เมนูนี้จะว่าไปแล้ว ทำง่ายทานง่าย อร่อยง่ายและไม่ว่าจะคนภาคไหนรับรอบว่าต้องชอบเมนูไก่รวนปลาร้าเป็นแน่นอน เพราะในเมนูนี้ถ้าเป็นชาวอีสานทานจะมีรสชาติเค็มนัวเผ็ดเล็กน้อยเพื่อดับคาว แต่ถ้าหากเป็นชาวใต้จะต้องเพิ่มความเผ็ดเเละเรื่องของเครื่องเล็กน้อยเพื่อให้ ถึงพริกถึงขิง และสามารถทานเป็นกับข้าวหรือทานเป็นกับแกล้มในวงเหล้าได้เลยเพราะอร่อยจัดจ้านลงตัวอยู่แล้วจ้าในเมนูนี้ 

ขั้นตอนการทำไก่รวนปลาร้า

  1. นำตะไคร้ ข่า หอมแดง และใบมะกรูด (ครึ่งนึง) ลงไปผัดให้มีกลิ่น
  2. ใส่พริกที่หั่นและบุบแล้วลงไปผัดต่อให้มีกลิ่น
  3. ใส่ไก่ลงไป ตามด้วยน้ำเปล่า และปลาร้า ผัดรวนจนเริ่มสุก
  4. เติมเครื่องปรุงลงไป ปรุงให้ได้ตามรสชาติที่ชอบ ผัดรวนไปเรื่อยๆจนเข้าเนื้อไก่ เราชอบน้ำคลุกคลิกเลยผัดรวนนาน ใครชอบมีน้ำไว้ราดข้าวก็ไม่ต้องรวนนาน
  5. เมื่อรวนไก่จนได้ตามที่เราชอบแล้วก็เติมใบมะกรูด (ครึ่งนึงที่แบ่งไว้) ลงไปผัดอีกนิดหน่อย ไม่ต้องนาน จะได้มีสีสัน ค่ะ
  6. ตักเสริฟพร้อมข้าวสวนร้อนๆได้เลยค่าา
ไก่รวนปลาร้า
Categories
สูตรอาหาร

“ต้มเลือดหมู” อาหารทานง่ายสูตรน้ำซุปใส

“ต้มเลือดหมู” อาหารทานง่ายสูตรน้ำซุปใส

     เมนูที่จะนำเสนอวันนี้เป็นเมนูทานง่ายเด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีแถมสุขภาพดีไปอีกด้วยอย่างเมนู ต้มเลือดหมู ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อของชาวบุรีรัมย์อีกหนึ่งเมนูซึ่งมีวิธีการทำที่ดูง่ายดายแม้ใครจะมองว่ายากแต่รับรองว่าง่ายและอร่อยแน่นอน โดยเมนูนี้เป็นเมนูอาหารที่บางคนอาจทานเป็นเมนู อาหารเช้า หรือทานได้ตลอดทุกมื้อไม่ว่าจะทานเป็นต้มเลือดหมูป่าวๆแบบคล้ายๆเกาเหลา หรือจะทานแบบทานกับข้าวก็สามารถทานได้เช่นกัน โดยในเมนูนี้จะให้รสสัมผัสหอมหวานละมุนในการทำหมูผสมลงไปในน้ำซุปและการใช้ผักเขียวในการต้ม ต้มเลือดหมูนั่นเองค่ะเมนูอาหารวันนี้นำเสนอ เมนูทำง่าย มาฝากคนชอบทานซุปร้อนๆใสๆและมีเคล็ดไม่ลับในการทำให้น้ำซุปของเราใสหอมกรุ่นจากหม้อง่ายๆเพียงไม่กี่ขั้นตอนจ้า โดยวันนี้เราจะมาบอกถึงการจัดเตรียมเครื่องปรุงต่างๆและการเลือกใช้วัตถุดิบที่จะทำให้อาหารของเราหรือน้ำซุปของเราหอมหวานนั่นเองค่ะ ในการทำเมนูอย่างง่ายนี้ทำให้คนที่คุณรักได้ทานเพื่อสุขภาพที่ดีด้วยมือเราจะดีที่สุดค่ะ ในปัจจุบันเมนูต้มเลือดหมูเป็นอะไรที่หาทานยากไม่เพียงหาทานยากอย่างเดียวแต่ยังคงหาอร่อยยากอีกด้วยเมนูนี่จึงจะต้องใช้เคล็ดลับและใจเย็นตุ๋นต้มให้เกิดความ หอมหวานละมุน สามารถจัดเตรียมวัตถุดิบในการทำต้มเลือดหมูได้ง่ายๆตามขั้นตอนด้านล่างนี้ค่ะ

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ “ต้มเลือดหมู”

     สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ต้มเลือดหมู สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป ทำง่ายกินง่ายวัตถุดิบก็ใช้ง่ายๆตามความชอบ ส่วนเรื่องของความหวานของซุปจะขึ้นอยู่กับผักทีเรานำมาใช้ และในส่วนของหมูเราก็จะมีเคล็ดลับในการทำง่ายๆให้หมูเกิดความหอมอร่อยจากการทำ อาหารง่ายๆ แบบนี้จึงยกเมนูนี้มานำเสนอให้คนชอบทานซุปร้อนๆใสๆได้ลองจัดหาวัตถุดิบและลองมาลงมือทำกันง่ายๆด้วยใจรักซุปใสๆง่ายๆที่บ้านได้เลยจ้า

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. เลือดหมูหั่นก้อนพอดีคำ ต้มสุก 1 ก้อน
  2. หมูสับหมักกับน้ำตาลทราย ซอสปรุงรส พริกไทย 150 กรัม
  3. เนื้อหมูหั่นบางๆ ลวกสุก 50 กรัม
  4. ตับหมูหั่นบางๆ ลวกสุก 50 กรัม
  5. เต้าหู้หลอด หั่น 1 หลอด
  6. ตำลีงเด็ดเอาแต่ยอด ล้างน้ำ ผึ่งให้สะเด็ดน้ำ 50 กรัม
  7. ตั้งฉ่าย 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ซุปก้อน 1 ก้อน
  9. คึ่นฉ่ายกับต้นหอมหั่นเป็นท่อนสั้นๆ 50 กรัม
  10. น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย
  11. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  12. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนในการทำ “ต้มเลือดหมู” แบบน้ำซุปใสๆ

     ขั้นตอนในการทำ ต้มเลือดหมู ให้น้ำซุปเกิดความละมุนหอมใสนั้นทำได้ง่ายๆไม่ยุ่งยากโดยการตั้งไฟใส่เครื่องปรุงตามที่กำหนดจากนั้นการจะต้มให้น้ำใสจริงๆต้องทำการต้มหมูสับของเราแยกน้ำไปก่อนจากนั้นเมื่อวัตถุดิบเครื่องในที่เราชอบทานสุกเป็นที่เรียบร้อยให้เราทำการตั้งไฟแบบไม่แรงมากไฟกลางค่อนไปทางอ่อนจากนั้นใน การต้มให้น้ำใส จะต้องไม่ปิดฝาหม้อเพราะจะทำให้น้ำซุปขุ่นนี่คือเคล็ดลับอันแรกที่ควรจะทำในการต้มอะไรก็ตามให้น้ำใส ส่วนอันดับที่สองคือต้องต้มใจเย็นๆสิ่งที่ทำให้น้ำใสและนัวแบบที่ไม่ต้องใส่ซอสเพื่อให้น้ำเกิดสีคล้ำไม่สวยงามอันดับที่สองคือซุปก้อนนั่นเองเพราะตัวของซุปก้อนจะให้ รสชาติหอมอร่อย นัวแท้ๆแบบก้อนเดียวก็เอาอยู่ค่ะ ในการทำอาหารเช่นนี้ทำง่ายแต่อาศัยทักษะเล็กน้อยเพียงเรารู้ทักษะก็สามารถทำอาหารออกมาได้อย่างไม่หน้าเชื่อเลยทีเดียวค่ะ ทำง่ายกินง่ายแบบนี้ควรลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านตามขั้นตอนด้านล่างนี้เลยค่ะ

ขั้นตอนการทำต้มเลือดหมู

1. ตั้งน้ำในหม้อบนไฟกลางๆ ใส่ซุปก้อน ตั้งฉ่าย รอให้เดือดซักพัก ให้น้ำซุปมีกลิ่นหอม

2. ปั้นหมูสับหมักเป็นก้อนเล็กใส่ลงไปในน้ำที่กำลังเดือด รอให้สุก

3. ใส่หมูชิ้นลวก ตับลวก เต้าหู้หลอด ปรุงรสน้ำซุปด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรส ชิมรสตามใจชอบ

4. ใส่เลือดหมู พอเดือดดีใส่คึ่นฉ่ายกับต้นหอม พอเดือดอีกทีปิดไฟได้ ก่อนเสิร์ฟ ใส่ตำลึงก้นถ้วยแล้วตักต้มเลือดหมูราดทับ

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร

“ยำขนมจีนปลาทู” เมนูเด็ดแซ่บซี๊ดของชาวบุรีรัมย์

“ยำขนมจีนปลาทู” เมนูเด็ดแซ่บซี๊ดของชาวบุรีรัมย์

     เนื่องด้วยอาหารของชาวบุรีรัมย์แม้จะเป็นอาหารของคนอีสานแต่ก็ยังคงเป็นอาหารของคน อีสานตอนใต้ ซึ่งในเมนูนี้แม้จะดูทำยากเพราะต้องใช้วัตถุดิบหลายอย่างเพื่อทำให้ยำขนมจีนของเราหอมอร่อยและแซ่บซี๊ดนั่นเอง โดยอาหารจานนี้เป็นอาหารทานเล่นก็ได้หรือจะเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยก็สามารถเรียกได้เช่นกันซึ่งเมนู ยำขนมจีนปลาทู จะให้รสสัมผัสที่แซ่บ นัว และหอมกลิ่นของปลาทูที่เราทำใส่ลงไปซึ่งผลรวมของอาหารจานเด็ดจานนี้คือ อร่อยชัวนั่นเองเป็นอาหารที่อยากให้คนที่ได้ไปบุรีรัมย์ได้ลองทานกันเพื่อลิ้มรสความอร่อย หรือถ้าหากไม่อยากไปทานไกลถึงบุรีรัมย์เรายังคงมี สูตรอาหาร จานเด็ดจานนี้มาแนะนำให้ลองทำทานกันแบบชาวอีสานตอนใต้เลยทีเดียวจ้า สามารถเลือกทำตามสูตรได้ตามขั้นตอนด้านล่างนี้และอย่าได้พลาดวิธีการทำอาหารเรียกน้ำย่อยง่ายๆแบบนี้ไว้ลองทำทานเพื่อคนที่คุณรักได้ลองทานกันแบบอร่อยง่ายๆได้เลยค่ะ เมนูนี้แม้จะดูแปลกตาดีแต่รับรองความอร่อย แซ่บ นัว ลงตัวแบบสุดติ่งด้วยการผสมผสานขนมจีนเข้าด้วยน้ำปลาร้า โรยความหอมไปด้วย ต้นหอม ผักชี และหอมหัวแดงซอยซึ่งเพียงมีวัตถุดิบที่หาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดแบบนี้ก็สามารถทำเมนูยำอร่อยๆออกมาได้กันแบบจุกๆไปเลยจ้าสามารถจัดเตรียมวัตถุดิบเพื่อทำเมนูยำขนมจีนปลาทูได้แล้วที่ด้านล่างนี้จ้า

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ “ยำขนมจีนปลาทู” เมนูยำอร่อยแซ่บ นัว

     สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ยำขนมจีนปลาทู นั้นนอกจากจะหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดเมนูนี้ยังคงความถูกของวัตถุดิบไว้อย่างมากรับรองว่ากินอิ่มจุกใจแน่นอน ในเมนูยำแซ่บๆแบบนี้นอกจากจะทำง่ายกินง่ายก็อร่อยลงตัวแบบถูกสุดๆไปอีก เมนูนี้ยังคงให้ความหอมของกลิ่นปลาทูที่เรานำไปคลุกเคล้ากับน้ำยำและยังคงมีความหอมนัวจากปลาร้าที่เรานำมาผสมไปกับตัวของขนมจีนอีกด้วยตบท้ายสวยๆไปด้วยผักหอม และหอมหัวแดงที่ให้ความหวานและแสบร้อนตามๆกันไปจ้าถือว่าเมนูมี วัตถุดิบหาง่าย หลายอย่างที่อยากให้ผู้ทานได้ลองทำทานกันที่บ้านแบบจุกๆไปเลยจ้า

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. ขนมจีน 2 จับ
  2. ปลาทูทอดแกะเนื้อ 2 ตัว
  3. ถั่วฝักยาวซอย 1 ถ้วย
  4. ต้นหอมซอย ½ ถ้วย
  5. เมล็ดกระถิน ½ ถ้วย
  6. พริกขี้หนูซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำปลาร้าต้มสุก ½ ถ้วย
  8. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำปลา 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  11. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนในการทำ “ยำขนมจีนปลาทู” สูตรง่ายๆทำได้ที่บ้าน

     ขั้นตอนในการทำ ยำขนมจีนปลาทู นั้นต้องบอกก่อนเลยว่าง่ายดายจริงๆเพราะไม่มีขั้นตอนอะไรนอกจากการเตรียมของและจับใส่ลงไปคลุกเคล้ากับน้ำปลาร้าเพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อยใน เมนูอร่อย ง่ายๆที่บ้านแบบนี้จ้า เนื้องจากว่าการทำยำขนมจีนใช้เวลาเพียงเล็กน้อยก็ได้ทานเมนูนี้จึงเป็นเมนูทานเล่นนิยมที่คนที่มาทานอาหารในร้านต่างๆของจังหวัดบุรีรัมย์ต้องสั่งทานกันเพราะได้ทานง่ายและแซ่บซี๊ดเรียกน้ำย่อยไปหนึ่งกรุบจ้า และเมนูนี้นอกจากจะเป็นเมนูขึ้นชื่อของคนอีสานตอนใต้แล้ว ยังเป็นเมนูนิยมของคนอีสานทั่วไปอีกด้วยเพราะคนอีสานส่วนใหญ่จะชอบทานส้มตำ แต่ใช่ค่ะส้มตำกว่าจะมาใช้เวลาในการสับมะละกอนานค่ะและเละไปอีกจ้า แต่ถ้าหากทำยำขนมจีนรับรองได้คำเดียวค่ะว่าง่ายและอร่อยชัว ถือเป็นอาหารทานเรียกน้ำย่อยของคนทั่วไปหรือบางกลุ่มคนทำงานกลางแจ้งอาจเรียกอาหารนี้ว่าเป็นอาหารมื้อหลักเลยก็ว่าได้จ้า อาหารทำง่าย แบบนี้แนะนำให้ลองทำทานสักครั้งแล้วจะติดใจจ้าขั้นตอนการทำสามารถจัดทำได้ตามด้านล่างนี้

Bloggang.com : บ่งบ๊ง :

ขั้นตอนการทำยำขนมจีนปลาทู

  1. นำน้ำปลาร้าต้มสุกเทลงในชามผสม ใส่น้ำตาลปี๊บ คนให้ละลายเข้ากันดี
  2. ใส่พริกป่น พริกขี้หนูซอย น้ำมะนาว และน้ำปลา คนให้เข้ากัน ตามด้วยขนมจีน เนื้อปลาทูทอด ถั่วฝักยาวซอย ต้นหอมซอย และเมล็ดกระถิน คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  3. ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยด้วยเมล็ดกระถินอีกสักนิด ก็พร้อมรับประทานแล้วจ้า กับ “ยำขนมจีน” แซ่บ ๆ 

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร อาหารเวียดนาม

ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ อาหารเวียดนามหาทานยาก

ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ อาหารเวียดนามหาทานยาก

หลายคนจะไม่รู้จักกับอาหารเวียดนามอย่างเฝอ เฝอเป็นอาหารที่คล้ายคลึงกับก๋วยเตี๋ยวบ้านเราแต่แตกต่างที่เส้น น้ำซุปและเครื่องเคียง วันนี้นำเลยขอยกสูตรเมนู ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ  มาให้ทุกคนได้รู้จักกัน ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อที่คล้ายก๋วยเตี๋ยวเส้นเล็กบ้านเรา แต่ว่าเส้นเล็กของเวียดนามจะมีความกว้างมาก อารมณ์ทานเส้นใหญ่ที่แป้งหนาๆเหนียวนุ่มนั้นเอง ทานคู่กับน้ำซุปที่ผ่านการเคี่ยวกระดูกขาของวัว บางร้านถึงต้องจัดสรรเอาแต่ขาหน้าเพราะเขาว่ามันจะได้รับความหวานหอมกว่า เคี่ยวคู่กับเครื่องเทศเฉพาะสูตร และเมื่อได้เส้นละน้ำซุปก็จะมานำจัดจาน จัดหน้าทานคู่กับผักอย่างต้นหอม ผักชี ถั่วงอก สะระแหน่และพริกหยวก แต่บางเจ้าก็แยกไว้ต่างหาก เพื่อให้คนทานสามารถเลือกทานได้ตามใจชอบ ปรุงรสเพิ่มได้ด้วยน้ำปลาและซอสพริกศรีราชา ตามแบบอาหารเวียดนาม อร่อยเด็ดมาก ขอบอก 

ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ รสชาติที่แสนลับซับซ้อน

ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ เป็นเมนูอาหารที่หลายคนอาจจะเดารสชาติของมันค่อนข้างยาก เพราะแตกต่างกับก๋วยเตี๋ยวมากโดยก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อจะเป็นอาหารของชาวเวียดนามที่ทำการใช้เครื่องเคียงหรือการท็อปหน้าถ้วยของก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อด้วยผักที่นำรสไปทางลาบของชาวอีสานนั้นเองแต่จะว่าไปจะให้เป็นรสไปทางลาบเลยก็ไม่ใช่เนื่องด้วยการทำเฝอนั้นเป็นก๋วยเตี๋ยวซึ่งเป็นน้ำซุปก๋วยเตี๋ยวที่ทายเข้ากับใบมิ้นท์ หอมแดงซอย พริกขั้วซึ่งเป็นอาหารเวียดนามที่นำรสชาติแบบแซ่บซี๊ดหอมอร่อยแบบไร้ที่ติ ซึ่งขั้นตอนการทำก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ อาหารจานโปรด นี้สามารถติดตามสูตรและขั้นตอนการทำได้เลยที่ด้านล่างนี้

ส่วนประกอบ-น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ

  • กระดูกข้อวัว 1 กก.
  • กระเทียมบุบ 2 ช้อนชา
  • พริกไทยบุบ 1 ช้อนชา
  • ขิงหั่นแว่น 1 หัว
  • รากผักชีบุบ 1 ช้อนโต้ะ
  • ซอสปรุงรส 4 ช้อนชา
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1 ช้อนชา
  • หัวไชท้าวหั้น 1 หัว
  • น้ำเปล่า 2.5 ลิตร

วิธี-น้ำซุปก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ

1.ตั้งหม้อต้มกระดูกวัว พร้อม ด้วย กระเทียม พริกไทย ขิง รากผักชี ซอสปรุงรส เกลือ น้ำตาล และหัวไชท้าว ต้มจนน้ำซุปออกรสประมาณ 1-2 ชั่วโมง

ส่วนประกอบ เนื้อเปื่อยและวิธีทำ ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ

1.ต้ม เนื้อน่องเอ็นลาย 1 กิโล ทั้งชิ้นโดยเติมน้ำพอท่วมเนื้อ ต้มจนเกือบเปื่อยให้ปิดไฟ 

2.จากนั้นนำเนื้อออกมาหั่นเป็นชิ้น จากนั้น นำกลับไปต้มใหม่ โดยปรุงรสด้วย ซอสหอยนางรม 2 ช้อนโต๊ะ เกลือ 1 ช้อนชา ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ และเคี่ยวต่อจนเนื้อเปื่อย

ส่วนประกอบขณะจะปรุงเป็นก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ

  • เส้นเล็ก
  • เนื้อวัวลวกหั่นบางๆพอคำ
  • เนื้อเปื่อย
  • ลูกชิ้นเนื้อ
  • ถั่วงอก
  • หอมหัวใหญ่หั่นบางๆ
  • ต้นหอมซอย
  • คื่นฉ่ายซอย
  • กระเทียมเจียว
  • มะนาวผ่าซีก
  • พริกขี้หนูอ่อนเผา
  • กะปิเผา
  • ผัก ประกอบด้วย ผักกาดหอม ถั่วฝักยาว โหระพา ผักแพว ถั่วงอก ขึ้นฉ่าย

วิธีปรุงก๋วยเตี๋ยว ก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ

1.ลวก เส้น และถั่วงอกสด หยิบชามใส่ก๋วยเตี๋ยว

2.ตักน้ำซุป ใส่ชามโดยวางทับด้วย เนื้อวัวลวก เนื้อเปื่อย ลูกชิ้น วางลง ใส่มากน้อยตามใจ โรยต้นหอมซอย ขึ้นฉ่าย กระเทียมเจียว

พร้อมผักเคียง และมีจานเล็กใส่กะปิเผา พริกอ่อนเผา มะนาวซีก และจัดให้มีเครื่องปรุงปกติ 

ประโยชน์ของการทานก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อ

การทานก๋วยเตี๋ยวเฝอเนื้อสามารถทานได้ง่ายและได้รับประโยชน์จากผักเคียงมากมายไม่ว่าจะเป็นการทานด้วยเนื้อสัตว์ เส้น หรือแม้แต่ผักเคียงล้วนแต่ได้รับประโยชน์ทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็น โปรตีน วิตามิน ต่างๆที่รวมกันอยู่ในก๋วยเตี๋ยวหนึ่งถ้วยนี้แม้จะเป็นอาหารที่หาทานได้ไม่ค่อยง่ายนักเเละอาจเดารสชาติยาก และยากที่จะอธิบายแต่ก็ยังเป็น ของอร่อยเวียดนาม ที่แนะนำให้ได้ลองทำทานหรือลองหาชิมกันได้ง่ายๆเลยตามร้านทั่วไปแต่ถ้าจะให้อร่อยถึงพริกถึงขิงก็ต้องใช้สูตรจากทางเราลองทำทานกันจะอร่อยลงตัวแบบไร้ที่ติเลยทีเดียวจ้า แนะนำอาหารจานด่วนเมนูนี้ไว้ให้ลองทำทานกันเพราะนอกจากจะอร่อยลงตัวหอมกรุ่นแล้วยังได้รับประโยชน์จากอาหารอีกมากมายอีกด้วยถือเป็นอาหารที่ดีทำง่ายกินง่ายเด็กทานได้ผู้ใหญ่ทานดีอีกด้วยจ้าแนะนำของอร่อยนี้เลย หากไม่อยากพลาดการทำสูตรอาหารอร่อยๆสามารถเข้าดูได้ที่เว็ปไซต์ของเราเลยจ้า เพราะเราคัดสรรสิ่งดีๆมาให้คุณได้แบบล้นหลามและมากมายเลยทีเดียวจ้า

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร อาหารเวียดนาม

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม อาหารควบคุมน้ำหนักสำหรับสาวๆ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม อาหารควบคุมน้ำหนักสำหรับสาวๆ

ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม เป็นอาหารพื้นเมืองของชาวเวียดนาม ที่มีความโด่งดังมากในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยที่ภูมิอากาศและภูมิประเทศที่คล้ายคลึงทำให้วัฒนธรรมด้านอาหารการกินมีความคล้ายคลึงกันมาก  ปอเปี๊ยะสดเวียดนามเป็นอาหารที่ต้องมีเส้นแป้ง ทานคู่กับผักสดๆเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดๆ จัดได้เป็นอาหารคลีนของคนรักสุขภาพได้เป็นอย่างดี งานนี้เอาใจสาวๆที่ที่กำลังควบคุมน้ำหนัก แต่เดิมปอเปี๊ยสดเวียดนามจะทานกับผักและเนื้อหมู ไก่ หรือหมูยอ แต่ว่าการทานเนื้อสัตว์เหล่านั้น มันจะทำให้เกิดการย่อยยาก ทำให้เกิดปัญหากับระบบย่อยอาหารได้ นั้นอาจจะเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพ วันนี้เราเลยขอแนะนำอาหารคลีน ในฉบับของคนรักสุขภาพ เราได้จัดสรรสูตรอาหารที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดมาให้คุณได้อ่านกัน ถ้าคุณไม่อยากเสียสุขภาพที่คุณรัก เรามาเลือกอาหารที่ดีให้กับตัวเราดีกว่าคะ

ปอเปี๊ยสดเวียดนาม อาหารประจำชาติเวียดนามสู่อาหารสากล

ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีใครรู้จัก ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม เพราะด้วยปอเปี๊ยะสดเวียดนามเป็นอาหารเวียดนามที่มีชื่อเสียงโด่งดังในภูมิภาคเอเชียและยังเป็นอาหารประจำชาติอย่างหนึ่งของประเทศเวียดนาม แต่เดิมประเทศเวียดนามได้ตกเป็นอาณานิคมของประเทศจีน ทำให้เวียดนามได้รับอารยธรรมการกินจากจีนค่อนข้างมาก เพราะคนเวียดนามส่วนใหญ่นำข้าวจ้าวมาผ่านขั้นตอนต่างๆให้เป็นแป้งเพื่อใช้ในการกินแทนข้าวสวยเหมือนบ้าน และด้วยบ้านเมืองของเวียดนามอุดมไปด้วยพืชผักนานาชนิดทำให้คนเวียดนามจะนำแป้งมาห่อทานคู่กับผักเคียง เพื่อทานเสร็จ พวกเขาก็จะออกไปทำไร่ทำนาเพื่ออกกำลังกาย จึงทำให้คนเวียดนามมีสุขภาพที่ดี 

วัตถุดิบและเครื่องปรุง สำหรับทาน 2 ที่

– แผ่นปอเปี๊ยะเวียดนาม 5-7 แผ่น

– เส้นหมี่ลวก 1/2 ถ้วยตวง

– กุ้งลวก 12 ตัว

– หมูสามชั้นสไลด์ต้มสุก 12 แผ่น

– กระเทียมบดละเอียด 1 ช้อนชา

– พริกชี้ฟ้าตำละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

– ผักกาดหอม 12 ชิ้น

– ดอกกุยช่าย 6 ชิ้น

– น้ำส้มชายชู 2 ช้อนชา

– ฮอยซินซอส 2 ช้อนโต๊ะ

– น้ำตาล 1/2 ช้อนชา

– เนยถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

– ถั่วบด 1 ช้อนโต๊ะ

– ผักต่างๆ เช่น โหระพา ผักชี ต้นหอมและสะระแหน่ เป็นต้น

วิธีทำ-น้ำจิ้ม

1.เริ่มจากการทำน้ำจิ้มกันก่อนนะคะ โดยนำกระทะเล็กๆ มาตั้งไฟแล้วนำกระเทียมผัดกับน้ำมันเล็กน้อยให้พอมีกลิ่นหอม จากนั้นเติมฮอยซินซอส น้ำตาลทราย เนยถั่วและน้ำเปล่าลงไปให้ละลายเข้ากัน ชิมรสและปรุงรสเพื่อเพิ่มความอร่อยมากขึ้นได้ตามชอบ เสร็จแล้วพักเอาไว้ในถ้วยน้ำจิ้มค่ะ

2.นำพริกชี้ฟ้ามาตำหรือปั่นให้ละเอียดผสมกันกับน้ำส้มสายชู เสร็จแล้วนำไปหยอดลงบนหน้าซอสที่เราพักเอาไว้เมื่อครู่นี้ แล้วโรยหน้าด้วยถั่วบด

ขั้นตอนการห่อปอเปี๊ยะ

1.เอาแผ่นแป้งมาชุบน้ำให้ทั่วแบบเร็วๆ แล้วสะบัดน้ำออกเพื่อไม่ให้เปียกมากเกินไปจากนั้นวางแผ่กางเอาไว้เพื่อเตรียมวางไส้ค่ะ ในระหว่างนี้แผ่นแป้งจะค่อยๆ นิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ได้เอง

2.นำผักกาดหอมมาวางลงไปบนแผ่นแป้ง ตามด้วยส่วนผสมอื่นๆ ได้แก่ หมูสามชั้นตั้มและเส้นหมี่

3.ม้วนแผ่น 1 รอบแล้วนำกุ้งลวกและดอกกุยช่ายมาวางต่อ

4.ม้วนแผ่นอีกครั้งพร้อมกับเก็บหัวท้ายให้เรียบร้อย ลักษณะจะเหมือนกับการห่อปอเปี๊ยะทอดนั่นเองหรือหากคุณจะตัดหัวท้ายออกให้สวยงามน่ารับประทานยิ่งขึ้นแบบการทำซูชิก็ได้เช่นกัน

5.เมื่อห่อเสร็จหมดแล้วก็นำมาวางเรียงใส่จาน จัดตกแต่งให้สวยงามด้วยผักเคียงต่างๆ เพิ่มเติม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มได้เลยค่ะ

ประโยชน์ของการทานปอเปี๊ยะสดเวียดนามที่แสนมากมาย

เป็นอย่างไรบ้างคะ สำหรับเมนู ปอเปี๊ยะสดเวียดนาม อาหารเวียดนามที่มีชื่อเสียงที่โด่งดัง แต่ใครจะไปรู้ว่าอาหารเมนูนี้ นั้นแสนดูธรรมดาแต่ประโยชน์ของเมนูนี้แสนมากมายจริงๆ เพราะผักต่างๆนั้นมีสรรพคุณทางยาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าผักใบเขียวต่างๆที่มีไฟเบอร์และกากใยอาหารที่ๆไปทำหน้าที่ช่วยดูแลระบบย่อยและขับถ่ายของเสียของเราให้ทำงานได้ปกติ และเมนูนี้เป็นขวัญใจของสาวๆสายคลีน ที่กำลังควบคุมน้ำหนักได้ดีเลิศเลยค่ะ อย่าลืมไปลองทำทานกันดูนะคะ

 

 

 

 

เว็บบอล

Categories
สูตรอาหาร

ราดหน้าเจ เมนูอาหารเจ ทำง่ายอร่อยด้วย

ราดหน้าเจ เมนูอาหารเจ ทำง่ายอร่อยด้วย 

     สาวกคน กินเจ มาฟังทางนี้ วันนี้เรามีเมนูเจมาแนะนำให้ได้ลองไปทำตามกัน เมนู ราดหน้าเจ ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้าน วัตถุดิบก็หาซื้อได้ง่ายและไม่แพงอย่างที่คิด หลายคนอาจจะคิดว่า อาหารเจ นั้นจืดชืดและไม่อร่อยเอาเสียเลย ทำให้หลายคนที่กินเจไม่มีความสุขและไม่อภิรมย์ในการที่จะต้องกินเจอยู่ทุกปี แต่สำหรับเมนูราดหน้าเจที่เราจะพามาทำกันในวันนี้ เรารับรองได้เลยว่าอร่อยถูกปากแน่นอน คนไม่กินเจก็สามารถทำทานได้เช่นเดียวกัน 

วัตถุดิบและส่วนผสมของเมนูราดหน้าเจ 

     1.หมี่ฮ่องกง 50 กรัม

     2.เห็ดหอม 2 ดอก

     3.แครอท 20 กรัม

     4.ดอกคะน้า 100 กรัม

     5.ข้าวโพดอ่อน 2 ฝัก

     6.โปรตีนเกษตร 50 กรัม

     7.เห็ดฟาง 50 กรัม

     8.แป้งมัน 4 ช้อนโต๊ะ

     9.น้ำมันงา 1 ช้อนชา

     10.เต้าเจี้ยว 1 ช้อนโต๊ะ

     11.น้ำสต๊อกผัก 1 ถ้วยตวง

     12.พริกไทยป่นครึ่งช้อนชา

     13.ซอสปรุงรสสูตรเจ 1 ช้อนโต๊ะ

     14.ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนชา

     15.น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

     16.น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา

วิธีการทำเมนูราดหน้าเจ

     1.เปิดไฟและตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไป จากนั้นให้นำ เส้นหมี่ฮ่องกง ลงไปผัด ปรุงรสด้วยซีอิ๊วดำและผัดจนเข้ากันดี

     2.ตั้งอีกกระทะหนึ่ง และเทน้ำมันพืชลงไป ตามด้วย ผัก ต่าง ๆ ได้แก่ ดอกคะน้า เห็ดฟาง เห็ดหอม ข้าวโพดอ่อนและแครอท เสร็จแล้วก็ให้เทน้ำสต็อกผักลงไป

     3.รอให้น้ำเดือด จึงค่อยใส่ เต้าเจี้ยว ปรุงรสด้วย น้ำตาลทราย ซอสปรุงรสและน้ำมันงา เสร็จแล้วให้คนทุกอย่างให้เข้ากัน 

     4.จากนั้นก็ใส่โปรตีนเกษตรลงไป ตามด้วยแป้งมันที่นำไปละลายน้ำแล้ว ให้คนตลอดเวลาเพราะแป้งมันจะได้ไม่จับตัวเป็นก้อน 

     5.นำ เส้นหมี่ฮ่องกง ที่ผัดเอาไว้มาจัดใส่จานและจากนั้นก็นำน้ำ ราดหน้า มาเทราดใส่เส้นได้เลย เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟ ราดหน้าเจ แล้ว 

ราดหน้าเจ ความอร่อยคู่คุณประโยชน์

     เมื่อถึงเทศกาลการ กินเจ แล้ว หลายคนคงกำลังหาเมนูที่ถูกปากถูกใจไว้รับประทานกัน เราขอให้เมนู ราดหน้าเจ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับผู้ที่อยากจะลองทานอาหารเจ ราดหน้าเจเมนูนี้เป็นเมนูที่เต็มไปด้วยประโยชน์มากมาย มีสารอาหารครบ 5 หมู่ ที่สำคัญคุณจะได้ใยอาหารมากมายจากผักที่อยู่ในเมนูนี้ รวมไปถึงคลอโรฟิลด์อีกด้วย เมนูนี้เหมาะมากที่จะทานเป็น อาหารเย็น เพราะทานแล้วอยู่ท้อง และไม่หนักท้องเกินไปด้วยเมนูราดหน้ามีความอมน้ำมันอยู่เล็กน้อยทำให้เราได้รับไขมันเข้าไปในร่างกายด้วย แต่ก็ถือว่าอยู่ในปริมาณที่พอดี 

 

 

 

 

เว็บบอล