Categories
สูตรอาหาร

แกงขี้เหล็ก ใส่ย่างเนื้อ อร่อยเข้มข้นแบบไทย ๆ

หลายคนอาจไม่เคยรู้จักเมนู แกงขี้เหล็ก มาก่อน ยิ่งถ้าหากเป็นวัยรุ่นสมัยนี้ด้วยแล้วนั้นอาจจะยิ่งไม่ เคยได้ลองกินหรือไม่เคยได้ยินชื่อเมนูนี้เลย เมนูแกงขี้เหล็กเป็นเมนูแกงอาหารไทยที่รสชาติอร่อยอีกหนึ่งเมนู มักแกงใส่กับเอ็นวัว เนื้อเปื่อย แคปหมู หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ตามใจชอบ ผักขี้เหล็กเป็นผักที่มีรสชาติขมมากระดับหนึ่ง แต่หากใช้วิธีการต้มที่ค่อนข้างนาน ก็จะมีรสชาติขมที่พอเหมาะและอร่อย ผักพื้นบ้านที่หาได้ง่าย เมนูรสชาติเลิศรสที่ทำง่าย แต่ได้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยและได้ประโยชน์ ซึ่งสูตรที้เราจะพาทำในวันนี้คือแกงขี้เหล็กสูตรใส่เนื้อย่าง รับรองว่าวัตถุดิบหาง่ายและมีวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ อย่างแน่นอน

แกงขี้เหล็ก

วัตุดิบและวิธีการทำเมนู แกงขี้เหล็ก ใส่เนื้อย่าง

1.ใบขี้เหล็ก 250 กรัม

2.เนื้อย่าง 300 กรัม

3.เนื้อปลานิล 1-2 ตัว

4.เนื้อปลาอินทรีย์เค็ม 1 ช้อนโต๊ะ 

5.เกลือ

6.กระชาย 1-2 ถ้วย

7.น้ำปลาดี 3-4 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 

9.กะทิ 600 กรัม หรือ 1 กระป๋อง 

10.น้ำพริกแกงแดง 1-2 ถ้วย 

วิธีการทำเมนูแกงขี้เหล็กใส่เนื้อย่าง

1.นำ ใบขี้เหล็ก ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาดสัก 1 น้ำเสียก่อน จากนั้นตั้งหม้อขึ้นและเติมน้ำ นำใบขี้เหล็กลงไปต้ม เติมเกลือลงไป รสชาติความเค็มของเกลือจะช่วยลดความขมของใบขี้เหล็กได้ เมื่อต้มจนใบขี้เหล็กอ่อนยวบลงแล้ว ให้นำมาล้างน้ำเปล่า จากนั้นก็นำไปต้มใส่น้ำผสมเกลืออีกรอบ และนำมาล้างน้ำเปล่า ทำทั้งหมด 2 รอบด้วยกัน หรือถ้าหากใครที่ไม่ชอบขมเลย ก็ทำเพิ่มอีก 1 รอบ แต่เราแนะนำว่าต้มและล้างแค่ 2 น้ำพอ เพราะเสน่ห์ของรสชาติเมนูแกงขี้เหล็กนั้นอยู่ที่ความติดขมนิด ๆ นี่เอง 

2.นำเนื้อมาหมักกับน้ำปลาหรือซีอิ๊วก็ได้ อาจจะเป้นเนื้อวัวหรือเนื้อหมูก็ได้ 300 กรัม นำมาหมักไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นให้นำไปย่างไฟ จนสุกดี ความสุกนี้แล้วแต่ชอบของคนกินได้เลย อาจจะสุกเกรียม หรือมีเดียมแรร์ก็ได้ แต่ขอแนะนำแบบมีเดียม เพราะเมื่อนำไปแกงแล้วจะสุกอร่อยพอดี

3.นำเนื้อที่ย่างเสร็จแล้วมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำแล้วแต่ชอบ พักเอาไว้

4.ตั้งหม้อและเทน้ำสะอาดใส่ นำเนื้อปลาเค็มลงไปต้ม เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำเข้มข้น ในขั้นตอนนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานปลาร้า สามารถใช้ความเค็มของน้ำปลาเค็มแทนได้ ก็จะได้รสชาติที่อร่อยเข้มข้นเหมือนกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานปลาร้า ถ้าใครที่ชอบการกินปลาร้าก็สามารถนำมาใส่แทนได้เลย 

5.การเตรียมเครื่องแกง นำพริกแกงแดงมาตำรวมกับกระชายและหอม นำเนื้อปลาต้มสุกแล้วมาตำรวมกันกับเครื่องแกงต่าง ๆ อาจใช้เป็นปลานิล ปลาช่อน หรือปลาชนิดอื่น ๆ ก็ได้ตามสะดวกและตามชอบ 

6.เริ่มแกงด้วยการนำหัวกะทิเทลงไปในหม้อ และเทเครื่องแกงลงไปผัดให้เข้ากัน จนกะทิเริ่มแตกมัน แต่ไม่ต้องแตกมันมากนัก 

7.นำเนื้อย่างที่ย่างเตรียมไว้ลงมาผัดกับเครื่องแกง 

8.ให้เติมหางกะทิลงไป รอจนเริ่มเดือด จากนั้นก็ให้นำใบขี้เหล็กที่ล้างน้ำไว้ บีบน้ำออกและใส่ลงไปในหม้อ เคี่ยวกับน้ำแกง รอจนใบขี้เหล็กเริ่มอ่อนนุ่ม

9.ปรุงรสด้วยน้ำปลาเค็มหรือปลาร้า น้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ 

10.เคี่ยวน้ำแกงอีกสักครู่หนึ่ง เลือกปรุงรสชาติที่ถูกใจ จากนั้นให้เติมหัวกะทิปิดท้าย ใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน จะได้รสชาติ แกงขี้เหล็ก ที่ออกมาอร่อยมาก

แกงขี้เหล็ก

แกงขี้เหล็กใส่ย่างเนื้อ แกงไทย อร่อยทานง่ายไม่ขม

มีหลายคนที่ชื่นชอบการทาน แกงขี้เหล็ก แต่ไม่ชอบที่รสชาติมันขมเกินไป วันนี้สูตรที่เรานำมาฝากรับรองว่าถูกใจทั้งคนชอบและไม่ชอบแกงขี้เหล็กอย่างแน่นอน เพราะด้วยความที่ต้มน้ำเกลือและล้างน้ำ 2 รอบ จะช่วยลดความขมออกไปได้ และใส่กะทิเติมความมันเข้าไป จึงช่วยให้รสชาติของแกงมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เมนูแกงผักพื้นบ้าน ที่หาทานได้ง่าย ใบขี้เหล็กหาเก็บได้ง่าย ๆ ตามบ้าน นำมาประกอบเป็นเมนูที่เลิศรส ทานได้ทั้งครอบครัว

แกงขี้เหล็ก

ไฮโลออนไลน์ เล่นไฮโล เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ฝากถอนรวดเร็ว ไม่มีขั้นต่ำ เล่นง่าย ได้เงินจริง

Categories
สูตรอาหาร

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด แกงไทยรสชาติหอมน่าทาน

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด เป็นแกงไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน เสน่ห์ของเมนูแกงชนิดนี้คืออยู่ที่กลิ่นหอม ๆ น่ารับประทาน เพราะแบบนี้จึงเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างช้านาน เมนูเบิ้ลข้าวสวยอีกเมนูที่ต้องลองทำกันดู และในวันนี้เราก็จะพามาทำอีกหนึ่งเมนูประเภทฉู่ฉี่ก็คือแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด เมนูที่ทำง่าย วัตถุดิบหลักอย่างปลาทูหาได้ไม่ยาก หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงเรียกว่าฉู่ฉี่ แกงฉู่ฉี่เป็นแกงไทยแบบแห้ง ๆ น้ำไม่เยอะ ประเด็นก็คือเวลาทำเมนูนี้จะมีเสียงฉู่ มาจากการเดือดของกะทิ และเกิดเสียงฉี่ ตอนผัดเครื่องแกง นั่นเลยกลายมาเป็นเสียงฉู่ฉี่ จึงเป็นที่มาของชื่อแกงชนิดนี้นั่นเอง รสชาติมีความคล้ายคลึงกับพะแนงและแกงคั่ว แกงฉู่ฉี่เหมาะกับคนที่ชอบแกงไทยแต่ไม่ชอบน้ำเยอะ เมนุปลาฉู่ฉี่สามารถใช้ปลาได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลานิล ปลากะพง หรืออาจจะใช้เป็นกุ้งแทนก็ได้

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด 

1.ปลาทูสด 1-2 ปอนด์ หรือประมาณ 680 กรัม 

2.หัวกะทิ 3-4 ถ้วย 

3.ใบมะกรูด 2 ใบ 

4.ใบมะกรูดหั่นฝอย 4 ใบ ไว้สำหรับโรยหน้า 

5.พริกชี้ฟ้าแดง ซอยเป็นเส้น ๆ 1 เม็ด 

6.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำตาลปี๊บ 2 ออนซ์ หรือประมาณ 57 กรัม

9.หัวกะทิ ไว้สำหรับโรยหน้า

วิธีการทำเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

1.ใช้ ปลาทู ประมาณ 2-3 ตัว นำมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด ให้ดึงเหงือกและใส้ทิ้ง จากนั้นให้ล้างน้ำเปล่าอีกรอบ ทำการบั้งปลาไว้ เพื่อให้น้ำแกงฉู่ฉี่สามารถซึมเข้าไปในเนื้อปลาได้ง่ายขึ้น และขั้นตอนนี้ยังทำให้รสชาติเมนูนี้อร่อยมากขึ้นด้วย 

2.ตั้งกระทะขึ้น เปิดไฟกลางถึงอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป รอจนน้ำมันเดือดจึงใส่น้ำพริกแกงลงไป ผัดไปเรื่อย ๆ จนหอม 

3.ใส่หัวกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง ลงไปผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน จากนั้นให้ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ตามด้งบน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บลงไป ผัดให้เข้ากันดี ในกรณีที่ไม่มีน้ำตาลปี๊บ สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงได้ หรืออาจจะใช้น้ำตาลทรายขาวก็ได้ 

4.ผัดจนกะทิเริ่มแตกมันอีกครั้ง ให้ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยหางกะทิครึ่งหนึ่ง ผัดไปเรื่อย ๆ และเปิดไฟให้แรงขึ้น รอจนส่วนผสมเริ่มเดือด

5.ใส่ปลาทูสดลงไป จากนั้นให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน

6.ใช้ทัพพีตักน้ำแกงค่อย ๆ ราดตัวปลาให้ทั่ว 

7.ใส่หางกะทิลงไปขอบ ๆ ให้ทั่ว เพื่อให้กระทะไม่แห้ง ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที

8.เปิดฝาแล้วเคี่ยวต่ออีก 3-5 นาทีเพื่อให้น้ำแกงงวด จากนั้นให้ตักน้ำแกงราดบนตัวปลาอีกรอบเพื่อให้น้ำแกงเกาะตัวปลาได้เต็มที่

9.เสร็จจากนั้นโรยหน้าด้วยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าแดง หลังจากนั้นตักแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด ใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด เมนูแกงทำง่าย ทำทานได้ทุกวัน

ปลาทูสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัด ย่าง ทอด ต้มหรือแกง โดยเฉาะนำมาทำแกงฉู่ฉี่ เป็นแกงที่รสชาติเข้มข้น แกงรสชาติอร่อย ที่ทำง่าย วัตถุดิบหาได้ง่าย ๆ ตามท้องตลาด ใช้เพียงแค่ปลาทูเป็นวัตถุดิบหลักในการทำ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถได้ทานเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด แล้ว

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

สมัครบาคาร่า  โบนัสหลากหลายที่นี่ ฝากถอนรวดเร็ว ไม่จำกัด ลองเลย

Categories
สูตรอาหาร

ขาหมูรวม เมนูขึ้นชื่อเมืองบุรีรัมย์

เอาใจสายมันพราววันนี้นำเสนอเมนูชึ้นชื่อของเมืองบุรีรัมย์คือ ขาหมูรวม เหตุผลที่ขึ้นชื่อในจังหวัดเพราะขาหมูของเมืองนี้เขาตุ๋นกันเปื่อยๆแถมมีเครื่องในให้ครบจบในหนึ่งจานอีกด้วย ในเมนูที่ว่ามานี้เป็นเมนูของชอบของใครหลายๆคนเป็นแน่นอนเนื่องด้วยน้ำซุปที่เกิดจากการ ตุ๋นต้มจนเข้าเนื้อ จึงทำให้ในน้ำซุปของเราเกิดความหอมหวานชวนรับประทานสุดๆเลยจ้า การทานของคนในจังหวัดนี้เค้าจะทานกันเป็นตัวๆหรือตักมาแบบติดกระดูกแล้งจึงแทะกันให้มัน ในเมนูขาหมูรวมของพวกเขาจะมีเครื่องในหมูอาทิเช่น ไส้ ตับหมู ขาหมู ทานควบคู่ไปกับผักดอง ถั่วลิสง คะน้าลวกเป็นอะไรที่ลงตัวสุดในเมนูนี้นอกจากจะเป็นเมนูขึ้นชื่อของชาวบุรีรัมย์ก็ยังเป็นเมนูที่มีขายกันอยู่ตามบ้านเมืองทั่วไปแต่จะมีใครกันที่ทำได้อร่อยจัดจ้านเหมือนคนบุรีรัมย์ทำแท้ๆ แต่วันนี้เราจึงมี สูตรเด็ด ในการตุ๋นต้มขาหมูมาฝากสำหรับคนชอบทานขาหมูแบบง่ายๆตามด้านล่างนี้เลยจ้า

ขาหมูรวม

วัตถุดิบที่ใชในการทำ ขาหมูรวม

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำอาหารจานเด็ดจานนี้หรือเรียกเมนูนี้ว่า ขาหมูรวม วัตถุดิบที่ใช้สามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาดแถมยังใช้เพียงไม่กี่อย่างในการตุ๋นต้มอีกด้วยทั้งนี้เมนูนี้ยังสามารถใช้ส่วนอื่นๆของหมูมาทำการต้มตุ๋นได้อีกด้วยอาทิเช่น ช่วงหนังท้อง แก้มหมู หางวัวตุ๋น ส่วนต่างๆของหมูสามารถนำมาทำเป็นเมนูจานเด็ดจานนี้ได้ทันทีและอร่อยสมใจอีกด้วย ทำง่ายกินง่าย เช่นนี้อย่าลืมลองนำสูตรอาหารอร่อยๆง่ายๆแบบนี้ไว้ลองทำทานกับคนที่คุณรักได้ที่บ้านง่ายๆด้วยวัตถุดิบเพียงไม่กี่อย่างและแม้จะใช้เวลาตุ๋นต้มเพื่อให้ได้ส่วนผสมรสสัมผัสที่ชัดเจนแต่รับรองว่าเมนูนี้เป็นเมนูที่ทำครั้งหนึ่งทานได้ทั้งบ้านและหลายมื้อเลยทีเดียว วัตถุดิบที่นำมาใช้ในส่วนของการตุ๋นต้มส่วนใหญ่จะใช้ส่วนที่มันเพราะขาหมูเป็นอะไรทีต้องมัน หอมกลมกล่อม นั่นเองค่ะ 

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. ขาหมู 1 ขา (ประมาณ 2 กิโลกรัม)
  2. อบเชย 4 แท่ง
  3. โป๊ยกั้ก 4 ดอก
  4. ข่าแก่ 2 ชิ้น
  5. รากผักชี 5 ราก
  6. พริกไทยดำโขลกละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ
  7. เห็ดหอม 8 ดอก
  8. น้ำตาลปี๊บ 150 กรัม
  9. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
  10. กระเทียมจีน 10 กลีบ
  11. ซีอิ๊วขาว 1/4 ถ้วย
  12. เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
  13. ซอสปรุงรส 3 ช้อนโต๊ะ
  14. น้ำเปล่า 3 ลิตร
  15. น้ำมันพืช 1 ขวดใหญ่
  16. ผักกาดดอง 500 กรัม
  17. ผักคะน้า สำหรับกินคู่
  18. ผักชี / พริกขี้หนู / กระเทียม สำหรับ กินคู่
ขาหมูรวม

ขั้นตอนและวิธีในการทำขาหมูรวม

สำหรับขั้นตอนในการทำ ขาหมูรวม ง่ายๆบ้านๆแบบชาวอีสานใต้จ้าจับทุกอย่างหั่นล้างๆและโยนลงหม้อไปเลยจ้า แต่อย่างไรก็ตามการทำขาหมูรวมไม่ใช่เพียงทำเพื่อความง่ายอย่างเดียวทำด้วยความพิถีพิถันสักนิดเพราะกว่าจะได้น้ำ ซุปใสเหลืองทอง ก็ต้องเกิดจากการเคี่ยวน้ำตาลให้พอเหมาะซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดแต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังเพราะถึงขั้นอันตรายเลยทีเดียวหากรู้เท่าไม่ถึงการแต่การตุ๋นต้มเคล็ดไม่ลับง่ายๆที่จะทำให้ อาหารอร่อย จะต้องไม่ปิดฝาหม้อในการตุ๋นเพื่อย่นเวลาเพราะจะทำให้น้ำซุปไม่ใสและฮวดเร็วจนไม่หน้าทานและอาจมีกลิ่นขมไหม้ตามมาด้วยในเวลาถัดมา การทำง่ายๆและอร่อยๆเรามีสูตรมาให้คนติดตามได้ลองทำทานกันดังนี้

ขั้นตอนการทำขาหมูรวม

  1. เอาขาหมูไปเผาเพื่อกำจัดขนที่หลงเหลือออก เมื่อดูว่าไม่มีขนเหลือแล้วขูดส่วนที่ไหม้เกรียมออก นำไปล้างให้สะอาด
  2. ซับขาหมูให้แห้งแล้วนำไปทอดโดยใช้ไฟแรง 
  3. ตั้งกระทะบนเตาไฟโดยใช้ไฟอ่อน จากนั้นใส่อบเชยลงไป ตามด้วยโป๊ยกั้ก กระเทียม ข่าแก่ และพริกไทยดำลงไปคั่วจนหอม
  4. นำขาหมูที่ทอดแล้วมาใส่หม้อ ใส่เครื่องเทศที่คั่วไว้และรากผักชีตามลงไป
  5. นำน้ำตาลปี๊บใส่ในกระทะใบเดิม ตั้งจนน้ำตาลปี๊บละลายและมีสีน้ำตาลเข้ม ใส่น้ำลงไปรอให้น้ำตาลละลายแล้วจึงนำไปเทใส่หม้อขาหมู
  6. เติมน้ำเปล่าจนท่วมขาหมู นำไปตั้งไฟโดยใช้ไฟกลาง ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส เกลือป่น น้ำตาลทราย พอเดือดจึงใส่เห็ดหอม
  7. ปรับไฟอ่อนแล้วตุ๋นทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง จึงใส่ผักกาดองลงไป ตุ๋นต่ออีกประมาณ 2 ชั่วโมง 
  8. ลวกคะน้าในหม้อตุ๋นขาหมู แล้วนำมาหั่นเป็นเครื่องเคียง
  9. นำขาหมูขึ้นจากหม้อ เลาะเนื้อออกแล้วเสิร์ฟกับข้าวสวยร้อน ๆ คะน้าลวก ผักกาดดอง พริกขี้หนู กระเทียม
ขาหมูรวม
Categories
สูตรอาหาร

สปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง เมนูเส้นทำง่ายทานได้ทั้งครอบครัว

หากพูดถึงอาหารอิลาลีหรืออาหารอิตาเลียนแล้วนั้น คงหนีไม่พ้นเมนูเส้น ๆ อย่างสปาเก็ตตี เมนูนี้เรียกได้ว่าเป็นขวัญใจของชาวอิตาเลียนหลายคนรวมไปถึงคนในชาติไทยอีกด้วย ถือเป็นเมนูประจำใจไปโดยปริยาย และสำหรับเมนูที่เราจะพาท่านไปทำความรู้จักและพาไปลองทำกันนั่นก็คือ สปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง จะบอกว่าเป็นเมนูอาหารอิตาลีที่ได้ผสมผานความเป็นไทยเข้าไปด้วย เมนูนี้จึงจะได้ทั้งความกลมกล่อมของอิตาลีและความแซ่บซี๊ดจากไทย เมนูเส้นแซ่บ ๆ ที่เสิร์ฟมาพร้อมกับมีทบอลวัวรสชาติเข้มเข้น ถือเป็นอาหารหลักที่สามารถทานให้อยู่ท้องได้ไปทั้งวัน เห็นแบบนี้แล้วนั้นวิธีการทำไม่ได้ยากสักนิด ทำง่ายแถมยังประหยัดเวลา และสามารถทำทานได้ทั้งครอบครัว

สปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนูสปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง

1.เส้นสปาเก็ตตี 100 กรัม 

2.เนื้อวัวบด 300 กรัม

3.ไข่ไก่ 1 ฟอง

4.แป้งอเนกประสงค์ 2 ช้อนโต๊ะ

5.พริกแห้ง 15 กรัม

6.กระเทียม 30 กรัม

7.พริกไทย 1 ช้อนชา

8.แม็คคอร์มิค เพอร์เฟ็กค์ พินซ์ อิตาเลี่ยน ซีซันนิ่ง 1 ช้อนโต๊ะ

9.แม็คคอร์มิค การ์ลิค ซอลท์ (สำหรับต้มเส้น 1 ช้อนโต๊ะ สำหรับปรุงอาหาร ครึ่งช้อนโต๊ะ)

10.น้ำมันสำหรับผัด

11.น้ำสะอาด

วิธีการทำสปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง 

1.เริ่มต้นที่ขั้นตอนของการต้มเส้น ต้มน้ำให้เดือดและใส่ แม็คคอร์มิค การ์ลิค ซอลท์ ลงไป 1 ช้อนโต๊ะ และนำเส้นสปาเก็ตตีลงไปต้มในน้ำที่เดือดแล้วเป็นเวลา 7 นาที พอครบ 7 นาทีก็จะได้เส้นสปาเก็ตตีที่สุกกำลังดี จากนั้นให้ตักขึ้นสะเด็ดน้ำและพักไว้

2.ขั้นตอนการปรุงรสมีทบอล นำเนื้อวัวบด ไข่ไก่ แป้งอเนประสงค์และน้ำเปล่ามาผสมรวมกันในชาม ละปรุงรสด้วย แม็คคอร์มิค เพอร์เฟ็ค พินช์ อิตาเลี่ยน ซีซันนิ่ง คลุกเคล้าส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันให้เนื้อเนียนละเอียดเสมอกัน จากนั้นก็นำมาปั้นให้เป็นก้อน ๆ กลม ๆ พอดีคำจนหมด และพักทิ้งไว้

3.ทอด มีทบอล ตั้งกระทะให้ร้อนและเทน้ำมันลงไป รอให้น้ำมันเดือดเล็กน้อยจากนั้นให้นำมีทบอลที่ปั้นทิ้งไว้เป็นก้อนลงไปทอด ทอดไปเรื่อย ๆ จนมีทบอลเริ่มเป็นสีเหลืองน้ำตาล ให้ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมันและพักในจานไว้

4.ตั้งกระทะอีกครั้ง และใส่น้ำมันลงไปเล็กน้อย ใส่กระเทียมและพริกแห้ง นำลงไปผัดจนเกิดกลิ่นหอม จากนั้นให้นำเส้นสปาเก็ตตีที่ต้มไว้ลงไปผัดให้เข้ากันกับพริกและกระเทียม จากนั้นปรุงรสชาติด้วยพริกไทยและแม็คคอร์มิค การ์ลิค ซอลท์ ผีดต่อเรื่อย ๆ จนแน่ใจว่าส่วนผมทั้งหมดเข้ากันดี ปิดไฟและตักใส่จาน

5.จัดเสิร์ฟด้วยการตักสปาเก็ตตีผัดพริกแห้งใส่จาน จัดไว้ตรงกลางของจาน จากนั้นให้นำมีทบอลทอดมาวางตกแต่งรอบ ๆ เส้นสปาเก็ตตี จัดตกแต่งด้วยใบโหระพากลางจานให้สวยงาม เสร็จแล้วก็พร้อมเสิร์ฟให้ทุกคนในครอบครัวได้ลิ้มรสกับสปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้งกันแล้ว

สปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง

สปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง เมนูเส้นอิตาลี ยอดนิยม

ได้ทราบถึงวิธีการทำสปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง กันไปแล้ว เชื่อกันว่าแม่ครัวพ่อครัวหลายคนจะต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทำง่ายมาก ๆ วัตถุดิบที่ใช้ก็หาได้ง่าย ๆ ตามซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ขั้นตอนการทำนั้นก็ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด เป็น อาหารอิตาลีทำง่าย ที่ทุกบ้านทำตามกันได้ ทำทานได้ทุกวัน ส่วนผสมที่สำคัญอย่าง แม็คคอร์มิค เพอร์เฟ็ค พินช์ อิตาเลี่ยน ซีซันนิ่ง และแม็คคอร์มิค การ์ลิค ซอลท์ ที่มีกลิ่นหอมของ ออริกาโน ใบไทม์ โรสแมรี มาร์โจแรม เซจ และเซวอรี ส่วนผสมและเครื่องเทศจากอิตาลีที่ทำใหระชาติของสปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้งเข้มข้นและรสชาติดีแบบฉบับอิตาลีแท้ ๆ ซึ่งท่านก็สามารถนำไปใช้ได้กับอาหารประเภทอื่น ทั้งพิซซ่าและเมนูพาสต้า และเมนูสปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง นี้ยิ่งได้เอามาผัดใส่กับพริกแห้ง ยิ่งเพิ่มความหอมมากยิ่งขึ้น

สปาเก็ตตีมีทบอลผัดพริกแห้ง
Categories
สูตรอาหาร

ปลานิลลุยสวน เมนูคุณค่าสมุนไพรไทย

ปลานิล ถือเป็นปลาที่มีเนื้ออร่อย คนไทยนิยมรับประทานกันมาก ๆ ซึ่งปลานิลก็ถูกนำไปประกอบอาหารหลายเมนูด้วยกัน แต่เมนูในวันนี้นอกจากจะได้ความอร่อยจากปลานิลแล้ว ยังได้คุณประโยชน์จากสมุนไพรไทยด้วย เมนู ปลานิลลุยสวน มีเสน่ห์และน่ารับประทานตรงที่เนื้อปลานิล ปลานิลที่นำมาทำจะต้องสดใหม่และมีคุณภาพ จึงจะมีรสชาติที่หวานอร่อย ความอร่อยจาก สมุนไพร ต่าง ๆ ที่ใส่ลงไป ที่นอกจากจะอร่อยแล้วยังมีประโยชน์มากมาย และที่สำคัญคือการปรุงรสชาติให้อร่อย

ปลานิลลุยสวน

วัตถุดิบและส่วนผสมของเมนูปลานิลลุยสวน

1.ปลานิล 1 ตัว

2.ผักชีฝรั่ง 1 ต้น

3.พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด

4.ผักชี 1 ต้น

5.ขิงอ่อน

6.มะนาว 1 ลูก

7.หอมหัวแดง 2 หัว

8.ตะไคร้ 1 ต้น

9.ถั่วลิสงคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ

10.พริกแห้งทอด 

11.แป้งข้าวโพด 3 ช้อนโต๊ะ

12.น้ำพริกเผา 1 ช้อนชา

13.น้ำมันพืช

14.น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ

15.น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ

16.น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ

17.ผักชนิดต่าง ๆ ตามชอบ ไว้สำหรับทานคู่กับปลานิลลุยสวน

วิธีการทำเมนู ปลานิลลุยสวน 

1.เริ่มต้นด้วยขั้นตอนการเตรียม ปลานิล ด้วยการล้างตัวปลาให้สะอาดที่สุด และทำการขอดเกล็ดออก เสร็จแล้วใช้มีดแร่เอาเฉพาะเนื้อปลาออกมา 

2.ตั้งกระทะและเทน้ำมันพืชลงไป 

3.นำเนื้อปลาที่แร่เสร็จแล้วไปชุบแป้งข้าวโพด เสร็จแล้วก็นำลงไปทอดในน้ำมันที่เดือดแล้ว ทอดโดยใช้ไฟกลางและทอดจนเนื้อปลาเหลืองกรอบ เสร็จแล้วตักขึ้นและพักไว้ให้เสด็จน้ำมัน 

4.มาถึงขั้นตอนการเตรียมน้ำยำเตรียมชามไว้สำหรับใส่ส่วนผสม ใส่พริกขี้หนูซอย น้ำตาลปี๊บ น้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำพริกเผาลงไปในชาม คนส่วนผสมทั้งหมดจนเข้ากันดี

5.ส่วนผสมของ สมุนไพร ไทยอันได้แก่ ตะไคร้ที่นำไปซอย พริกแห้งทอด มะนาวที่นำไปหั่นเต๋า ผักชีฝรั่ง ขิงอ่อนและใบสะระแหน่ นำส่วนผสมทั้งหมดใส่ลงไปในน้ำยำที่เตรียมไว้และคนคลุกเคล้าให้ทุกอย่างเข้ากัน 

6.น้ำเนื้อปลาที่ทอดเรียบร้อยแล้วไปจัดใส่จาน และเทน้ำยำ สมุนไพร ราดลงไป จากนั้นก็โรยถั่วลิสงให้ทั่ว ปิดท้ายด้วยการนำผักสดต่าง ๆ มาวางตกแต่งรอบ ๆ จานเพื่อนำไว้กินด้วยกัน เสร็จแล้วก็พร้อมเสิร์ฟได้เลย

ปลานิลลุยสวน

ปลานิลลุยสวน เมนูอาหารภาคกลางอร่อยและได้ประโยชน์ 

เมนูปลานิลลุยสวน ที่ดีนั้น เนื้อปลานิลจะต้องมีคุณภาพ ต้องสดใหม่ ล้างน้ำเปล่าให้สะอาดที่สุด และที่สำคัญต้องนำไปทอดในน้ำมันที่ใหม่และเป็นน้ำมันที่เป็นไขมันดี เพื่อไม่ให้เป็นผลเสียต่อ สุขภาพ การใส่สมุนไพรไทยต่าง ๆ ลงไปนั้นช่วยดับคาวปลาและช่วยให้ให้เมนูนี้มีความหอมน่ารับประทาน ที่สำคัญเราก็จะได้ประโยชน์จาก สมุนไพร ด้วย

ปลานิลลุยสวน
Categories
สูตรอาหาร

แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ เมนูอร่อยจากป่าสวน

ภาคอิสานจัดว่าเป็นภาคที่มีอาหารอร่อยมาก ๆ ภาคหนึ่งเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยความที่เขามีเครื่องปรุงและวัตถุดิบที่แซ่บถึงเครื่อง จึงทำให้ไม่ว่าจะทำเมนูไหนออกมาก็น่ากินและอร่อยไปหมด ไม่แปลกใจที่หลายคนจะชอบอาหารของภาคนี้ ไม่ว่าจะมาจากภาคไหนก็มาติดใจอาหารอิสานได้ง่าย ๆ ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเองก็ด้วย โดยส่วนประกอบที่สำคัญเป็นหลัก ๆ ของภาคอิสานก็คือ ปลาร้า หากเป็นลูกอิสานจริงต้องกินปลาร้าเป็น และปลาร้าก็ไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของคนในท้องถิ่นอิสานเท่านั้น คนจากภาคอื่นหรือชาวต่างชาติก็ชื่นชอบมากเช่นเดียวกัน เพราะปลาร้าเป็นเครื่องปรุงสำคัญที่ชาวอิสานนำไปประกอบอาหารเกือบทุกประเภท ทั้งต้ม ยำ แกง รวมไปถึงอาหารประเภททอดและผัดด้วย ซึ่งในวันนี้เราก็จะพาไปทำเมนูอีกเมนูหนึ่งที่มีปลาร้าเป็นเครื่องปรุงทำให้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ อาหารอิสานขนานแท้ เมนูซดน้ำแกงร้อน ๆ หอมกลิ่นปลาร้าสุด ๆ ตามไปลองทำกันดูได้เลย

แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนูแกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ

  1. ผักหวานป่า
  2. กุ้งสด 
  3. ปลากดย่างรมควัน
  4. ปลาร้า
  5. น้ำเปล่า
  6. กระเทียม
  7. หอมแดง
  8. พริกขี้หนูแห้ง 

วิธีการทำเมนู แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ

  1. เริ่มต้นจากการกเตรียมปลากรอบ นำปลากรอบมาแกะเอาเฉพาะเนื้อออกมา โดยเก็บหัว ก้างและครีบของปลากรอบเอาไว้ หากคิดว่าไม่พอกินให้นำกุ้งมาแกะเพิ่ม และเก็บส่วนของหัวกุ้งและเปลือกกุ้งเอาไว้เหมือนกัน
  2. ตั้งกระทะและเปิดไฟแรง นำปลากรอบที่แกะเนื้อเตรียมเอาไว้แล้วมาคั่วในกระทะด้วยไฟแรง ใช้ตะหลิวผัดคั่วไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญต้องผัดเร็ว ๆ ไปเรื่อย ๆ จนเริ่มได้กลิ่นหอมของปลากรอบและสังเกตดูว่าเนื้อปลากรอบมากยิ่งขึ้น ปิดไฟ ตักขึ้นใส่จานและพักไว้
  3. นำส่วนหัว ก้างและครีบของปลากรอบ รวมไปถึงหัวกุ้งและเปลือกกุ้ง ใส่ ปลาร้า ลงไป โดยเลือกใส่เป็นตัวปลาร้าลงไป เพื่อเพิ่มความเข้มข้นและหอมมากยิ่งขึ้น เติมน้ำเปล่าลงไป และตั้งไฟขึ้น โดยใช้ไฟอ่อน ต้มไปเรื่อย ๆ เป็นเวลา 30 นาที จากนั้นเสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำ เอากากทิ้ง และเทน้ำซุปกลับเข้าไปในหม้อเหมือนเดิม เปิดไฟอุ่นต้มไปเรื่อย ๆ 
  4. ตำน้ำพริกแกงป่า ด้วยการโขลกพริกขี้หนูแห้งในครกให้ละเอียดดี และตามด้วยหอมแดงและกระเทียม โขลกไปเรื่อย ๆ จนละเอียดเข้ากัน เคล็ดลับคือใส่หอมแดงให้เยอะกว่ากระเทียมประมาณ 4 : 1 ส่วน เพราะเดี๋ยวจะทำให้แกงกลิ่นแรงจนเกินไป
  5. ตักเครื่องแกงที่โขลกไว้ ใส่ลงไปในหม้อที่ต้มน้ำซุปอยู่ เปิดไฟแรงเพื่อให้น้ำซุปเดือด พอเดือดได้สักพักให้ใส่ผักหวานป่ากับกุ้งลงไป ใช้ทัพพีกด ๆ ลงเบา ๆ เพื่อให้ผักหวานป่าและกุ้งจมลงไปในน้ำซุป รอสักพักให้กุ้งสุกจึงปิดไฟและยกหม้อลง เทคนิคคือการทำให้กุ้งและผักหวานไม่สุกจนเกินไป เพราะถ้ากุ้งสุกมากจะทำให้รสชาติความหวานของกุ้งหายไป และทำให้เนื้อกุ้งแข็ง ไม่อร่อย และผักหวานถ้าสุกจนเกินไปสีจะซีดไม่สวย และไม่กรอบอร่อย 
  6. พอกุ้งกับผักหวานป่าสุกได้ที่แล้ว ให้ปิดไฟและตักใส่ชามที่เตรียมไว้พร้อมเสิร์ฟ จากนั้นให้โรยหน้าด้วยปลากรอบอีกรอบ เพื่อความหอมกรอบอร่อยมากยิ่งขึ้น ก็จะเป็นอันเสร็จสำหรับเมนูแกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ
แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ

แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ เมนูอาหารป่า น่าทำกิน

ผักหวานป่า เป็นผักที่มีรสชาติหวาน รับประทานง่าย ใครที่ไม่ชอบกินผักก็สามารถลองทานผักหวานได้เลย ผักชนิดนี้สามารถหาได้ง่าย ๆ ในช่วงหน้าฝน ยิ่งชาวงใดที่ฝนตกหนัก ๆ ติดต่อกันหลายวัน ยอดผักหวานป่าจะยิ่งออกมาสวยน่ากิน และผักหวานก็มีทั้งผักหวานป่าอย่างที่เราบอกไป และผักหวานบ้าน ที่ปลูกและขึ้นอยู่ตามบ้าน รสชาติอร่อยเหมือนกันเพียงแต่ผักหวานป่าจะมีใบที่เล็กกว่า และผักหวานยังสามารถนำมาทำเป็นเมนูแกงได้อย่างอร่อยสุดยอด โดยเฉพาะเมนูแกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ ที่ได้ความอร่อยเข้มข้นแบบอิสานแท้ ๆ บ้างก็นำไปแกงกับไข่มดแดง ก็ออกมาอร่อยมากเช่นเดียวกัน

แกงผักหวานป่าใส่ปลากรอบ
Categories
สูตรอาหาร

สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน ทำง่ายไม่ยุ่งยาก

สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน ฟังจากชื่อแล้ว ท่านคงคิดว่าเมนูนี้ทำยากและคงจะมีขั้นตอนการทำเยอะแยะไปหมด แต่ไม่ใช่แบบนั้นเลยเพราะเมนูนี้ทำง่ายกว่าที่ท่านคิดไว้มาก ขั้นตอนไม่เยอะและไม่ยุ่งยากมาก วัตถุดิบก็มีไม่เยอะ สามารถหาซื้อได้ง่าย ได้ประโยชน์และสารอาหารชั้นดีจากปลาแซลมอนเต็ม ๆ ทั้งคุณค่าทางอาหารและความอร่อยจากเนื้อปลาแซลม่อนเนื้อแน่น ๆ และความกลมกล่อมจากความเป็นสตูว์ ตามมาดูวิธีการทำที่ง่ายแสนง่าย รับรองว่ามือมือใหม่ทำตามได้ไม่ยาก รับรองว่าคุณจะดูเหมือนเชฟมืออาชีพทันที

สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนู สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน 

  1. เนื้อปลาแซลมอน 
  2. ขนมปังกระเทียม
  3. ซอสมะเขือเทศ ให้ใช้รสเผ็ด
  4. พาร์เมซานชีส 
  5. หอมหัวใหญ่
  6. พริกหวาน

วิธีการทำเมนู สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน 

  1. เริ่มต้นจากการเตรียมปลาแซลมอน ให้นำปลาแซลมอนมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยม ขนาด 1×1 เซนติเมตร ทั้งนี้ไม่ต้องเอาหนังปลาออก เพราะจะได้เอาส่วนหนังที่ติดกับเนื้อนี้ไปจี่ ตั้งกระทะขึ้นใส่เนยลงไปเล็กน้อย จากนั้นนำเนื้อ ปลาแซลมอน ที่หั่นไว้แล้วลงไปจี่ในกระทะ ให้ส่วนที่เป็นหนังนั้นกรอบและหอม และส่วนที่เป็นเนื้อด้านนอก สุกพอประมาณ 
  2. ขั้นตอนการทำสตูว์ใส่เนื้อปลา ตั้งกระทะเปิดไฟกลาง จากนั้นให้ใส่น้ำมันลงไป และนำพริกหวานและหอมหัวใหญ่ลงไปผัด ผัดไปเรื่อย ๆ ประมาณ 2-3 นาที จนรู้สึกว่าเริ่มมีกลิ่นหอม
  3. เติมซอสมะเขือเทศลงไป ซึ่งสำหรับเมนูนี้จะใช้ซอสมะเขือเทศรสเผ็ด เพื่อให้สตูว์มีความเข้มข้นและรสชาติออกเผ็ดเล็กน้อย ถึงจะเข้ากันได้ดีกับแซลมอน 
  4. ตั้งไฟละเคี่ยวส่วนผสมทั้งหมดไปเรื่อย ๆ ให้เข้ากันดีและเริ่มเดือด 
  5. เติมเนื้อปลาแซลมอนที่หั่นและจี่เอาไว้ลงไปในกระทะที่มีน้ำสตูว์ ผัดเข้ากันดี แต่ต้องระวัง ให้ทำการผัดแบบเบา ๆ เพื่อไม่ให้เนื้อแซลมอนแตกและเละ จะทำให้ดูไม่น่ากิน 
  6. โรยหน้าด้วยพาร์เมซานชีส
  7. นำขนมปังกระเทียมไปเข้าเตาอบ อบด้วยอุณหภูมิ 180 องศา ตั้งเวลาในการอบประมาณ 5-8 นาที ครบเวลาแล้วให้นำออกมาจากเตาอบ และนำไปจัดใส่จานคู่กับสตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน ให้สวยงามน่ารับประทาน เพียงเท่านี้ก็ได้จะได้เมนูสตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน ทานคู่กับขนมปังกระเทียมหอม ๆ อร่อย ๆ แล้ว
สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน

สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียนอาหารอิตาลี ที่น่าลิ้มลอง

จากที่ได้ดูวิธีการทำไปแล้ว พ่อครัวแม่ครัวหลายคนคงจะทำตามกันได้ไม่ยาก สามารถทำได้ทั้งมือใหม่และมืออาชีพ เมนูสตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบในการรังสรรค์เมนูน้อยที่สุด วัตถุดิบหลักมีแค่แซลมอนเท่านั้น นอกนั้นก็จะเป็นส่วนผสมที่ทำให้เมนูนี้มีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้น และยิ่งได้มาทานคู่กับ ขนมปังกระเทียม ยิ่งทำให้รสชาติดีมากยิ่งขึ้น ขนมปังกระเทียมหอม ๆ เนื้อสัมผัสกรอบ ๆ และรสชาติของขนมปังที่มีทั้งความมัน ความเค็มเล็กน้อยจะเข้ากันได้ดีกับสตูว์แซลมอน เนื่องจากรสชาติของสตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียนจะมีความครีมมี่ รสชาติละมุนนุ่มลิ้น และรสชาติเนื้อปลาแซลมอนจะมีความมันและเนื้อแซลมอนมีความแน่นนะหนึบ หากทานในปริมาณมากก็อาจจะเลี่ยนจนเกิดความไม่อร่อยได้ ฉะนั้นหากได้ทานคู่กับขนมปังกระเทียมที่มีรสชาติติดเค็มและเผ็ดเล็กน้อย จะช่วยให้ตัดกับความเลี่ยนและมันของเนื้อแซลมอนได้ 

เนื้อปลาแซลมอน คุณค่าจากทะเลที่คุณควรได้รับ เนื้อปลาสีส้มแบบนี้นี่เองที่ให้คุณประโยชน์มากมาย 

  1. มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูก รักษาโรคเข่าเสื่อม มีโปรตีน ไบโอแอคทีฟเปปไทด์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง 
  2. บำรุงสมอง แซลมอนมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองเสื่อม และยังช่วยในเรื่องของความจำ 
  3. บำรุงสายตา สามารถลดความเสี่ยงในเรื่องของจอประสาทตา ลดอาการตาแห้งและโรคตาเสื่อม
  4. รักษาสุขภาพหัวใจ เพิ่มการย่อยสลายของกรดไขมัน ทำให้หัวใจแข็งแรง 

เมนสตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน จึงเป็นเมนูที่เต้มไปด้วยคุณประโยชน์และทำตามได้ง่าย ๆ อีกด้วย

สตูว์ปลาแซลม่อนสไตล์อิตาเลียน
Categories
สูตรอาหาร

กุ้งจ่อมทรงเครื่อง อาหารขึ้นชื่อสุดซี๊ดของชาวบุรีรัมย์

ถ้าหากต้องมาเยี่ยมยืนเมืองบุรีรัมย์ต้องไม่พลาดอาหารบ้านๆสูตรบุรีรัมย์อย่าง กุ้งจ่อมทรงเครื่อง นั่นเองค่ะเพราะนอกจากจะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อติดไม่ติดมือเป็นของฝากแล้วยังเป็น อาหารพื้นบ้าน สุดอร่อยของคนเมืองบุรีรัมย์เลยจ้าซึ่งรสชาติของกุ้งจ่อมจะมีรสสัมผัสที่หอม เปรี้ยว บางคนถ้าหากชอบทานเผ็ดอาจเติมพริกป่นลงไปได้เลยขนาดทานซึ่งเมนูกุ้งจ่อมจะเป็นเมนูที่คนส่วนใหญ่ไม่อยากรับประทานเพราะเนื่องจากคิดว่ากุ้งจ่อมนั้นเป็นของดิบไม่หน้ารับประทานแต่ในความเป็นจริง กุ้งจ่อมของเราสามารถทำสุกก่อนจึงค่อยทานได้แต่ถ้าหากทานแบบต้นตำรับต้องทานแบบดิบๆจึงจะได้รสสัมผัสที่ชัดเจนนั่นเองค่ะ โดยกุ้งจ่อมเป็นเมนูของหมักดองคล้ายกับเราทานแหนมแต่เเหนมทำมาจากหมูจึงเป็นของที่ดูหน้าตาดูหน้าทานมากกว่ากุ้งจ่อมแต่กุ้งจ่อมอาจจะเพราะด้วยมีส่วนผสมของปลาร้าจึงทำให้เป็นสีดำและมีกลิ่นแบบเฉพาะตัวของเขานั่นเอง แต่ถ้าหากคนทานเป็นการทานกุ้งจ่อมจะไม่ใช่สิ่งที่ยากอย่างที่คิดเลยอาทิเช่นการ ทานกุ้งจ่อมให้อร่อย จะต้องมีการทานกับผักเคียงที่ให้รสชาติอร่อยหอมหรือไม่ก็ทานกับพริกสดซึ่งให้ความเผ็ดร้อนกลบความคาวตามด้วยผักชีเพิ่มความหอมละมุนของอาหารขึ้นชื่อจานนี้นั่นเองจ้า แนะนำให้ได้ลองลิ้มรสสักครั้งแล้วจะลืมน้ำพริกถ้วยเก่าไปเลยจ้า วันนี้เราจึงยกวัตถุติบต่างๆและสัดส่วนในการทำกุ้งจ่อมทรงเครื่องมาฝากแม่บ้านพ่อบ้านชอบทานของแปบกให้ได้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านอย่างจุใจสามารถติดตาม สูตรอาหารเด็ด ได้ตามขั้นตอนด้านล่างนี้จ้า

กุ้งจ่อมทรงเครื่อง

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ กุ้งจ่อมทรงเครื่อง

วัตถุดิบทีใช้ในการทำ กุ้งจ่อมทรงเครื่อง นั้นบอกได้คำเดียวว่าไม่ยากไม่เยอะอย่างที่คิดเนื่องจากเป็นอาหารจานเด็ดทำง่ายจึงแนะนำให้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านและ จัดเตรียมวัตถุดิบง่ายๆ ได้เลยตามขั้นตอนด้านล่าวนี้เนื่องจากกุ้งจ่อมทรงเครื่องเป็นอาหารประจำเมืองบุรีรัมย์แต่ก็ยังคงเป็นอาหารประจำของ อ.ประโคนชัย ซึ่งต้นกำเนิดมาจากคน อ.ประโคชัยแต่เมื่ออยู่ในจังหวัดบุรีรัมย์และเป็นของอร่อยจึงขึ้นชื่อให้กับเมืองบุรีรัมย์กันไปเต็มๆ สำหรับเมนูกุ้งจ่อมที่ใครๆต่างมองว่าทำยากแต่แท้จริงแล้วทำง่ายและอร่อยหอมด้วย หอมในที่นี้บางคนสงสัยว่ากุ้งจ่อมจะหอมได้อย่างไรในเมื่อส่วนผสมมีแต่ของหมักดองแต่ความลับมันอยู่ที่คนปรุงแต่งตัวกุ้งจ่อมให้อร่อยต่างหากเมนูกุ้งจ่อม จะเป็นเมนูที่ใช้ สมุนไพร ในการทำให้เกิดความหอมมากกว่าใช้เนื้อสัตว์ในการทำและแน่นอนว่าวัตถุดิบที่ใช้นำมาทำก็ หาง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและมีราคาถูกอีกด้วยทั้งหอมทั้งอร่อยทั้งทำง่าย มาลงมือจัดเตรียมวัตถุดิบได้เลยตามขั้นตอนด้านล่างนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. กุ้งจ่อม 3 ช้อนโต๊ะพูนๆ
  2. หมูบด 200 กรัม
  3. ตะไคร้ 4-5 ต้น
  4. ใบมะกรูด 5 ใบ
  5. หอมแดงซอย 4-5 หัว
  6. กระเทียมซอย 3 กลีบ
  7. พริกสดซอยตามชอบ
  8. น้ำตาล 1 ช้อนชา 
  9. มะนาว 1 ซีก
  10. น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำปลานิดหน่อยหากกุ้งจ่อมไม่เค็ม
กุ้งจ่อมทรงเครื่อง

ขั้นตอนและวิธีการทำกุ้งจ่อมทรงเครื่อง

ขั้นตอนและวิธีการทำ กุ้งจ่อมทรงเครื่องนั้น ต้องบอกไว้ก่อนตรงนี้เลยว่าง่ายดายแสนง่ายดายจริงๆ เนื่องจากกุ้งจ่อมของเราจะมีขายตามท้องตลาดทั่วไปแต่จะนำมาทานเลยหลังซื้อมาจากตลาดทั่วไปก็ได้แต่ถ้าอยากให้ได้ความหอมละมุนอร่อยลิ้นต้องนำมาปรุงเล็กน้อยเพื่อให้เกิดความหอมนั่นเองค่ะ การปรุงของเราสามารถปรุงแบบตักมาปรุงทานดิบๆหรือตั้งไฟรวนทานแบบสุกๆก็ทานได้ซึ่งการทำไม่ยากเย็นอย่างที่คิดจริงๆใน เมนูอร่อย จานนี้และการทำกุ้งจ่อมให้อร่อยดั้งเดิมแบบชาวอีสานทานคือต้องทานดิบแต่ช่วงนี้แม้จะอยู่ในยุคโรคภัยเยอะเราก็มาทำทานแบบสุกๆจะดีกว่าค่ะแบบนี้นะนำให้ลองจัดทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ได้เลยจ้า

ขั้นตอนการทำกุ้งจ่อมทรงเครื่อง

  1. นำกระทะตั้งไฟใส่หมูลงไปรวนจนสุกดีจากนั้นตามด้วยกุ้งจ่อม
  2. นำพริก กระเทียม ตะไตร้ลงไปผัดจนหอมดีแล้วปรุงรสด้วยน้ำตาลและน้ำปลาจากนั้นชิมรส
  3. นำหอมแดงและใบมะกรูดลงไปผัดจนส่วนผสมฮวดดีแล้วจึงปิดไฟบีบมะนาวลงตามชอบ
  4. จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟคู่กับผักเคียงเป็นเสร็จเรียบร้อยจ้า
กุ้งจ่อมทรงเครื่อง