Categories
สูตรอาหาร

โมโม (Momo) เกี๊ยวสอดไส้ราดซอสเผ็ดร้อน

สำหรับเมนูขนมที่เราจะนำเสนอวันนี้คือเมนู โมโม (Momo) เมนูขนมว่างสุดอร่อยที่อิ่มท้องและได้รับประโยชน์เต็มๆคำ โดยเมนูนี้ได้รับอิทธิพลมาจาก ทิเบต,จีน,เนปาล ซึ่งชาวอินเดียได้นำมาพลิกแพลงทำให้สูตรขนม เกี๊ยวสอดไส้ ของเรามีความอร่อย มันและลงตัวสุดๆไปเลยค่ะ ในเมนูนี้เป็นเมนูของว่างที่ทำทานกับซอสเผ็ดจี๊ดจ๊าด และเต็มคำไปด้วยเครื่องเทศต่างๆที่นำมาทำการหมักไส้ของเราให้เต็มไปด้วยความอร่อย ลงตัว ซึ่งอาหารอินเดียชนิดนี้เป็นอาหารที่สามารถทานได้ทั้งกับข้าว หรือจะทำเป็นของต้อนรับก็ดีเช่นกัน เมนูของว่าง ชนิดนี้เป็นเมนูที่ทำจากแป้งในการห่อเป็นเเป้งที่ทำได้อย่างง่ายดาย ตัวแป้งจะมีความนุ่มบางทำให้เมนูนี้สำหรับคนชอบทานแป้งบางไส้เยอะๆเป็นต้องอยากทานแน่นอนค่ะ ในส่วนตัวเมนูนี้ถือเป็น เมนูทำง่าย จริงๆค่ะที่อยากแนะนำให้ลองทำทานง่ายๆที่บ้านทานจริงๆค่ะ โดยทั่วไปเมนูนี้จะมีราคาที่พอสมควรเนื่องจากต้องใช้ความปราณีตในการห่อนั่นเองแต่ถ้าหาก ห่อเกี๊ยวเป็นแล้วก็สามารถนำลงทอดกรอบหรือจะทำแบบคลีนๆคือทำการนึ่งก็ได้ก็ถือเป็นอะไรที่อร่อยสมคำล่ำลือจริงๆค่ะ รสสัมผัสของอาหารชนิดนี้จะมีความหอมมันและตัดด้วยซอสเผ็ดเปรี้ยวซึ่งเป็นอะไรที่หอมอร่อยจริงๆค่ะอยากแนะนำให้ลองทำทานดู จะได้ไม่ต้องเสียเงินไปซื้อแพงๆแล้วได้ทานไม่กี่ชิ้นไม่หายอยากค่ะ ต้องทำทานเองถึงได้ทานหายอยากและได้ทำให้คนรอบข้างได้ทานเล่นด้วยจ้า สามารถจัดเตรียมวัตถุดิบได้ง่ายๆตามขั้นตอนด้านล่างนี้เลยจ้า

โมโม

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ โมโม (Momo)

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำโมโม (Momo) ของว่างทำง่ายทานง่ายของเราการใช้วัตถุดิบไม่ได้มีอะไรมากมายมีเพียงแต่การทำไส้ และการทำแป้งการทำไส้ของเราส่วนใหญ่จะใช้เครื่องเทศผสมลงในเนื้อหมูเพื่อให้เกิดความผสมผสานกันเมื่อกัดเข้าเต็มคำจะทำให้รู้สึกว่าหอมละมุน ละมุนจากเนื้อสัตว์และ เครื่องเทศ ทำให้เมนูนี้ถือเป็นเมนูอาหารชนิดหนึ่งที่อร่อยทำง่ายทานง่ายส่วนในส่วนของตัวแป้งของเรา แป้งของเราจะทำให้บางแต่ไม่บางจนเกินไปเมื่อกัดเข้าปากจะรู้สึกพอดีมีความกรุบกรอบทานเข้ากับ น้ำจิ้มสูตรเด็ด ของเราทำให้รู้สึกอร่อยเผ็ดร้อนกรอบนอกนุ่มในรับรองว่าอร่อยจริงๆเลยค่ะแนะนำให้ลองทำทานง่ายๆที่บ้านได้เลยค่ะ

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. หมูสับ ½ กิโลกรัม
  2. หัวหอมแดงซอย 1 ถ้วย
  3. ต้นหอมซอย 1 ถ้วย
  4. หัวหอมซอย 1 ถ้วย
  5. ผงมาซาล่า 1 ช้อนชา
  6. เกลือ 1 ช้อนชา
  7. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนชา
  8. พริกไทยดำบด 2 ช้อนชา
  9. พริกแห้งปั่น 3-4 ช้อนโต๊ะ
  10. งาขาวคั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
  11. ขิงซอย 2 ช้อนชา
  12. เนยหรือน้ำมันพืช 1 ถ้วย
  13. น้ำเปล่าใช้สำหรับนวดแป้ง
  14. แป้งเอนกประสงค์ 300 กรัม
  15. ผักชีซอย 1 ถ้วย
  16. มะเขือเทศสับ 1 ถ้วย
โมโม

ขั้นตอนและวิธีการทำโมโม (Momo)

สำหรับขั้นตอนและวิธีการทำเกี๊ยว โมโม (Momo) อาหารอร่อยที่มีขายสำเร็จรูปทั่วไปตามซูเปอร์มาเก็ตเป็นฉบับของเกี๊ยวโมโมอินเดียซึ่งมีความอร่อย หอม กลมกล่อม ในส่วนของไส้ของโมโมเค้าจะมีการปรุงรสให้เกิดความหอมอร่อยอยู่แล้วก่อนจะนำมาทำการนึ่งหรือบางบ้านอาจจะทำการต้มก็สามารทำให้วัตถุดิบของเราสุกได้เช่นกันสำหรับเคล็ดไม่ลับในเมนูนี้หากเป็นเรื่องของเกี๊ยวเค้าจะนิยมทำให้เกี๊ยวมีความกรอบนอกนุ่มในซึ่งในส่วนรอง เคล็ดลับอาหาร อินเดียชนิดนี้จะคือการใช้กระทะในการทอดให้สุกโดยอันดับแรกเราจะทำการวางตัวเกี๊ยวของเราให้เต็มกระทะโดยวางเรียนกันเป็นชิ้นๆเว้นระยะห่างไม่ให้เค้าติดกันเล็กน้อยจากนั้นนำน้ำมาเทใส่แค่พอท่วมครึ่งนึงของเกี๊ยวจากนั้นปิดฝาและทิ้งไว้จนน้ำแห้งดี ดูเค้าหากสุกดีแล้วน้ำจะแห้งและเกี๊ยวจะล่อนออกจากกระทะเองภายใต้แผ่นเกี๊ยวจะมีสีเหลืองทองและกรอบดีค่ะเป็นอันใช้ได้เลย

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. แป้งอเนกประสงค์ เติมน้ำมัน 3-4 ช้อนโต๊ะ ค่อยๆเติมน้ำทีละนิด นวดจนได้ consistency ปิดฝาทิ้งไว้ 20 นาท
  2. ทำไส้โมโม่ ซึ่งอัตราส่วนของผัก:เนื้อสัตว์จะสูง ผักที่ใช้ก็มีอะโรม่า หมูสับ หอมแดงซอย หอมหัวใหญ่ ผักชี ต้นหอม ปรุงรสด้วยมาซาล่า พริกไทยดำ เกลือ น้ำมัน 2 ช้อนโต๊ะ
  3. ขยำไส้ให้เข้ากัน ฟาดให้นุ่ม(ไม่ต้องนุ่มมากแบบไส้ติ่มซำนะคะ)
  4. แบ่งแป้งเป็น 16 ก้อนเท่าๆกัน รีดและห่อเป็นทรงที่ชอบค่ะ
  5. วันนี้เลือกทรงเบสิค
  6. นึ่ง 20 นาที
  7. ในส่วนของซอส เริ่มจากตั้งน้ำมัน 4-5 ช้อนโต๊ะ ผัดมะเขือเทศ พริกแห้ง และขิงซอย ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทยดำ ผงมาซาล่า
  8. นำผัดมะเขือเทศมาปั่นกับงาคั่ว cashew nut ค่อยๆเติมน้ำเปล่าจนได้ consistency ที่เป็นซุป
  9. ราดซุปลงบนโมโม ตกแต่งด้วยผักชี
โมโม

สนับสนุนโดย : https://sa-game.bet/ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ

Categories
สูตรอาหาร

โดซ่า (Dosa) อาหารในตำนานของชาวอินเดีย

สำหรับอาหารอินเดียวันนี้นำเสนอเมนู โดซ่า (Dosa) เป็นอาหารที่ทำง่ายที่ชาวอินเดียต้องบอกก่อนเลยว่าเมนูนี้เป็นเมนูช่วยชีวิตพวกเขาจริงๆ เนื่องจากเป็นเมนูำง่ายและเป็นเมนู อาหารต้นทุนต่ำ อีกด้วยที่สามารถทานได้ทุกเพศทุกวัยและทุกคนเลยจ้า สำหรับอาหารชนิดนี้นอกจากจะเป็นอาหารที่ค่อนข้างฮิต ในส่วนของ แป้งโดซ่า (Dosa) เป็นแผ่นแป้งที่ทำลักษณะแผ่นใหญ่ๆแล้วทำการปรุงรสด้วยเครื่องเทศด้านใน อาหารชนิดนี้เป็นอาหารของชาว อินเดียตอนใต้ เนื่องจากสมัยที่เกิดการเเบ่งแย่งอานานิคมของชาวอังกฤษ ทำให้ชาวอินเดียต้องอยู่อย่างลำบากและอดๆอยากๆแต่แน่นอนว่า เมนูโดซ่า (Dosa) ช่วยชีวิตชาวอินเดียแบบอย่างไม่หน้าเชื่อจริงๆจึงเป็นอาหารที่นิยมมากๆของชาวอินเดีย โดยเฉพาะชาวอินเดียตอนใต้นั่นเองค่ะ สำหรับวิธีและขั้นตอนการทานของ แป้งโดซ่า (Dosa) จะทานโดยการปรุงเครื่องเทศให้เกิดความหอม แล้วทำการนำมาจิ้มทานกับแกงต่างๆเพื่อเพิ่มอรรถรสหรือสำหรับบางคนอาจจะทานเปล่าๆก็ทานได้เช่นเดียวกันเลยจ้า รับรองความอร่อยสำหรับเมนูอาหารชนิดนี้เลยค่ะเป็น เมนูแนะนำ ที่อยากให้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านไม่จำเป็นต้องไปทานไกลถึงอินเดียตอนใต้ ก็ได้ทานเมนูอร่อยๆง่ายๆได้แล้วจ้าถ้าหากลงมือทำตามสูตรที่เราจัดหาให้ที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ

โดซ่า

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ โดซ่า (Dosa)

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำโดซ่า (Dosa) อาหารอินเดียสุดอร่อยวัตถุดิบที่ใช้ทำแป้งโดซ่าไม่มีอะไรมากมาย มีไม่มากและหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปอีกด้วย ในแป้งโดซ่าเป็นอาหารที่สามารถทานได้กับคนทุกชั้น สามารถทานได้ทั้งคนจนไปยันคนรวยเพราะวัตถุดิบที่ใช้ไม่มีราคาแพงจนหน้ากลัว จึงสามารถทำให้อาหารชนิดนี้เป็นอาหารที่ หาวัตถุดิบง่าย และทำได้ไม่ยากแถมวัตถุดิบที่ใช้ทำเมนูแป้งโดซ่ายังมีเพียงไม่กี่อย่างจริงๆค่ะ แนะนำให้ลองทำทานง่ายๆที่บ้านได้เลยค่ะ สามารถติดตามสูตรอาหารง่ายๆได้เลยค่ะตามด้านล่างนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง
  2. ถั่ว Udid Dal ½ ถ้วยตวง
  3. ถั่ว Chana Dal 2 ช้อนโต๊ะ
  4. เมล็ดข้าว 2 ช้อนโต๊ะ
  5. เมล็ดลูกซัด 1 ช้อนชา
  6. เกลือ 1 หยิบมือ
  7. น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
  8. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
โดซ่า

ขั้นตอนและวิธีการทำโดซ่า (Dosa) 

สำหรับขั้นตอนการทำแป้งโดซ่า (Dosa) ในการทำ แผ่นแป้งโดซ่า จะต้องทำให้เป็นไปตามสัดส่วนที่เหมาะสมเท่านั้น สามารถกะสูตรได้แบบ Home made บ้านๆทั่วไปแต่ก็ต้องกะให้ไกล้เคียงและพอดีสัดส่วนของมันเอง สำหรับวิธีการทำ แป้งโดซ่ามีเพียงไม่กี่ขั้นตอนและง่ายดายจริงๆค่ะสำหรับการทำแผ่นแป้งแผ่นนี้ และส่วนใหญ่จะนำมาทานกับแกงทั่วไปที่มีรสเผ็ด เค็ม เป็นการตัดรสชาติให้มีความกลมกล่อมของอาหารมากขึ้น ทำให้การทาน แป้งโดซ่า มี Texture มากขึ้นดูไม่ธรรมดาไปอีกระดับสำหรับ การทำ เเป้งโดซ่า จะทำการทำแป้งให้ทีความบางกรอบและแผ่ให้ใหญ่จากนั้นพับให้เค้าคล้ายๆกับโรตีแล้วรอให้เย็นแผ่นแป้งจะเซ็ตกรอบเองจ้าถือเป็น อาหารอินเดีย ยอดนิยมสุดอร่อยทำง่ายที่มีติดตามร้านอาหารทั่วไปประเภทจัดเซ็ตอาหารเป็นเหมือนแกงทานกับข้าว แต่ถ้าเป็นเรื่องของอาหารอินเดียเค้าจะนำมาทานกับแผ่นแป้งโดซ่า (Dosa) นั่นเองค่ะ สามารถจัดทำตามขั้นตอนได้ง่ายๆตามด้านล่างนี้เลยจ้า

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. นำข้าวสาร ถั่ว(Udid Dal) และเมล็ดลูกซัด(Fenugreek) นำมาล้างให้สะอาดแล้วนำมาแช่น้ำทิ้งไว้ข้ามคืนเพื่อให้ส่วนผสมทั้งหมดนิ่มขึ้น
  2. นำถั่ว(Chana Dal) และเกล็ดข้าว(Rice Flake) ใส่ถ้วยและใส่น้ำลงไปเพื่อแช่ส่วนผสมทั้งหมดให้นิ่มขึ้น
  3. นำข้าว ถั่ว(Udid Dal) และเมล็ดลูกซัด(Fenugreek) ที่เราแช่ทิ้งไว้ข้ามคืนมาปั่นรวมกันให้ละเอียดเมื่อเนื้อเนียนเข้าด้วยกันเติมถั่ว(Chana Dal) และเกล็ดข้าว(Rice Flake)เติมน้ำนำลงไปปั่นให้เนื้อละเอียดและส่วนผสมทั้งหมดเข้าด้วยกันปั่นให้ได้ความรู้สึกเหมือนน้ำสมูทตี้เนื้อเนียนละอียด
  4. ตั้งกะทะให้ร้อนใช้ไฟกลางใส่น้ำมันนิดหน่อเพื่อเวลาทอดแป้งจะไม่ติดกะทะเทแป้งลงไปบางๆเกลี่ยให้ได้รูปทรงวงกลมเมื่อแป้งเหลืองและสุกได้ที่ใช้ไม้พายเกลี่ยให้แป้งม้วนกันคล้ายเครปหรือโตเกียวตักใส่จานพร้อมรับประทาน
โดซ่า

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com

Categories
สูตรอาหาร

แกงดาล (Dal) อาหารอินเดียตอนเหนือแบบมังสวิรัติ

สำหรับอาหารอินเดียวันนี้นำเสนอเมนูแบบถั่วๆ คือ แกงดาล (Dal) เมนูอาหารนี้เป็นเมนูอาหารของชาวอินเดียตอนเหนือ โดยเมนูอาหารนี้จะทานแบบมังสวิรัติ คือ ไม่มีเนื้อสัตว์เลยก็ได้แต่ถ้าหากบางคนอยากนำเนื้อสัตว์ลงไปใส่ในเมนูถั่วของเราก็สามารถทำได้เช่นกันโดยยังใช้ชื่อ แกงดาล (Dal) ได้เหมือนเดิมโดยเมนู อาหารอินเดีย ชนิดนี้จะสามารถทายได้หลากหลายไม่ว่าจะนำถั่วของเรามีผสมกับเนื้อสัตว์ให้เป็นเมนูแกงถั่วที่มีเนื้อสัตว์เพื่อเพิ่มความหอมความมันก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือจะทานแบบมังสวิรติเลยคือใช้ถั่วเฉยๆก็ทำได้ โดย แกงดาล (Dal) ของเราไม่ได้ทานยากแต่อย่างไรเมื่อไม่มีเนื้อสัตว์ กลับเป็นแกงที่อร่อยแปลกๆเลยด้วยซ้ำค่ะอยากให้ได้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านจริงๆจ้าขั้นตอนการทำอาหารชนิดนี้ไม่ได้มีขั้นตอนการทำที่ยากแต่อย่างไร กลับเป็นอาหารที่ทำได้ง่ายมากๆเหมือนกันเพียงเข้าใจวิธีการทำอาหารเพียงเท่านี้เราก็จะรีมิกซ์ให้เป็น เมนูอร่อย ได้ง่ายๆกันเลยจ้า โดย แกงดาล (Dal) ส่วนใหญ่จะได้รับความนิยมนำมาทานกับแผ่นแป้ง อาทิเช่น แป้งนาน แป้งจาปาตี โรตี และพารัตตะ นั่นเองค่ะทำง่ายกินง่ายแบบนี้รับรองเลยค่ะว่าหน้าลองทำทานมากๆเลยจ้าอร่อยง่าย ด้วยมือเราค่ะเพียงคุณลองทำตาม สูตรอาหารง่ายๆ ตามด้านล่างนี้ก็จะได้เมนูอร่อยทำง่ายกินง่ายไว้ให้คนในบ้านลองทานกันแล้วจ้า

แกงดาล

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ แกงดาล (Dal)

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ แกงดาล (Dal) นั้นในเมนูนี้เป็นเมนูที่ใช้วัตถุดิบค่อนข้างน้อยแต่รับประกันความอร่อยว่าอร่อยเหาะชัวๆจ้า อาหารชนิดนี้นอกจากจะเป็นอาหารที่หาวัตถุดิบที่ง่าย ยังเป็นอาหารที่ทานได้หลากหลายรูปแบบ หากนำมาทำทานกับเนื้อสัตว์อาจจะทานกับข้าวก็ได้ หรือ บางประเทศอาจใช้ทาขนมปังทานก็ทำได้เช่นกันเพราะเมนู แกงดาล (Dal) นั้นหาวัตถุดิบได้ง่ายส่วนใหญ่จะหนักไปทาง ตะกูลถั่ว เพราะเป็นวัตถุดิบหลักๆที่ใช้ในการทำแกงนี้เลยจ้า สามารถติดตามสูตรอาหารและขั้นตอนวิธีการทำอาหารอินเดียง่ายๆได้ที่ด้านล่างนี้เลยจ้า

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. มะเขือเทศ หั่นชิ้นเล็กๆ 1 ลูกใหญ่
  2. ถั่ว (Chana Dal) 1/2 ถ้วย
  3. ถั่ว (Moong Dal) ( ถั่วเขียวซีกเลาะเปลือก )1/2 ถ้วย
  4. ถั่วลันเตาต้มสุก (ถ้าไม่มี ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ) 1/2 ถ้วย
  5. หัวหอมใหญ่ หั่นชิ้นเล็กๆ 1 ลูกใหญ่
  6. ขิงสับ 2 ช้อนชา
  7. กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
  8. พริกสีเขียวหั่นแว่นๆ 1 ช้อนชา
  9. ใบแกง (Curry leaf) 2 ช้อนชา
  10. เมล็ดยี่หร่า ( Cumin seeds) 1 ช้อนชา
  11. เมล็ดมัสตาร์ดดำ 1/2 ช้อนชา
  12. ผงการัม มาซาล่า ( Garam Masala) 1/2 ช้อนชา
  13. ผงพริกแดงป่น 1 ช้อนชา
  14. ผงขมิ้น 1/4 ช้อนชา
  15. ผงมะม่วง (Amchoor Powder) 1/2 ช้อนชา
  16. เกลือ 1 ช้อนชา
  17. น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ
  18. พริกแห้ง 1 ชิ้น
  19. ผักชีตามชอบ
  20. น้ำเปล่า (เอาไว้เติมแกง เผื่อแกงข้นเกินไปค่ะ) 1 ถ้วย
แกงดาล

ขั้นตอนและวิธีการ ทำแกงดาล (Dal)

สำหรับขั้นตอนการทำ แกงดาล (Dal) อาหารอินเดียสูตรง่ายดายและประหยัดอีกด้วย เนื่องด้วยอาหารชนิดนี้ทำได้ทั้งแบบใส่เนื้อสัตว์ และ ต้มแบบต้มถั่วเฉยๆอาหารชนิดนี้มีข้อดีหลายอย่างตรงที่ว่าสามารถทานได้ทั้งแบบมังสวิรัติ หรือ ทานแบบเป็นแกงทั่วไปนั่นเองค่ะถ้าทานแบบสายมังสวิรัติส่วนใหญ่จะทำการทานแบบทานกับขนมปัง หรือทานกับแผ่นแป้งของอินเดียนั่นเองก็ถือว่าเป็น อาหารจานเด็ด ที่แนะนำให้ลองทำทานจริงๆจ้ารับรองได้ว่าอร่อย ครบ จนที่ถั่วไปเลยจ้าสามารถจัดทำอาหารได้ง่ายๆตามขั้นตอนด้านล่างนี้เลยจ้า

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. แช่ถั่ว Chana Dal และ ถั่ว Moong Dal ในน้ำ 4 ถ้วยแช่เป็นเวลา 4 ชั่วโมงค่ะ หรือแช่ข้ามคืนก็ได้ค่ะ
  2. นำถั่วทั้งสองอย่างที่แช่น้ำไว้ ลงมาต้มในหม้อพร้อมน้ำค่ะใส่เกลือ 1 ช้อนชาและผงขมิ้น 1/4 ช้อนชา แล้วต้มจนถั่วนุ่มขึ้นประมาณ 1 ชั่วโมง แต่ไม่ถีงกับถั่วเละนะค่ะ ถั่วจะนิ่มๆเป็นเม็ดๆอยู่ แล้วยังเป็นน้ำแกงข้นๆ เสร็จแล้วพักไว้ค่ะ
  3. นำกะทะมาตั้งไฟกลาง ใส่น้ำมัน 4 ช้อนโต๊ะ ใส่เมล็ดยี่หร่า 1 ช้อนชา ใส่เมล็ดมัสตาร์ดดำ 1/2 ช้อนชา แล้วใส่กระเทียมสับ ขิงสับ พริกสีเขียวหั่น และพริกแห้งลงไป ผัดให้เข้ากันแล้วลดไฟ ใช้ไฟอ่อน ใส่หัวหอม มะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็กลงไป แล้วใส่ถั่วลันเตาต้มสุกลงไปปิดฝา 1-2 นาที ใช้ไฟอ่อนๆเพื่อให้มะเขือเทศกับหัวหอมนิ่ม พอ 2 นาทีแล้วเปิดฝา แล้วใส่ใบแกงลงไปผัดต่อ
  4. ใส่ผงพริกแดงป่น 1 ช้อนชา และผงการัม มาซาล่า 1/2 ช้อนชา ลงไปผัดต่อให้เข้ากัน (ใช้ไฟอ่อน)
  5. เท น้ำแกงถั่วที่ต้มไว้แล้ว ใส่ผงมะม่วงลงไป ผัดต่อให้เข้ากัน หมั่นคนเรื่อยๆ อย่าให้ติดกระทะ ถ้าแกงข้นเกินไป สามารถเติมน้ำเปล่าลงไปอีกได้ค่ะ และถ้าไม่เค็ม สามารถเติมเกลือได้อีกค่ะ ต้มให้แกงเดือด เสร็จแล้วปิดไฟแล้วใส่ผักชีลงไปค่ะคนแกงให้เข้ากันแล้วเสิร์ฟได้เลยค่ะ
แกงดาล

จีคลับ ฝากถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

ปารี ปูรี (Pani Puri) อาหารสตรีทฟู้ดยอดนิยมของคนอินเดีย

สำหรับอาหารยอดนิยมของอินเดียวันนี้นำเสนอเมนู ปารี ปูรี เป็นอาหารที่ได้ต้นกำเนิดมาจากชาวอินเดียตอนใต้และเป็นสตรีทฟู้ดตามข้างทางที่หาทานได้ง่ายปัจจุบัน ปารีปูรี ได้ถือเป็นอาหารนิยมของชาวไทย และต่างประเทศทั่วไป เนื่องจากปารีปูรี เป็นของว่างที่ทำทานได้ง่ายและเป็นของว่างที่ทานแล้วอร่อยที่สุดของชาวอินเดีย แม้จะเป็น ของว่างทำง่าย และ ทานง่ายแต่ถ้าหากได้นั่งทานตามข้างทางของประเทศอินเดียเป็นต้องรอกันเลยทีเดียวเพราะอาหารชนิดนี้จะจัดเสิร์ฟเพียง 1 คำเท่านั้นและที่สำคัญเป็นอาหารที่ต้องทานคำเดียวให้หมดเพื่อที่จะได้รับรสชาติและ Texture ของไส้มากขึ้นนั่นเองค่ะ ที่ต้องจัดเสิร์ฟทีละคำเป็นเพราะอาหารชนิดนี้ทำจากแป้งทอดกรอบ ฉะนั้น เวลาทานจึงต้องรีบทานไม่ฉะนั้นจะทำให้แป้งทอดกรอบเหี่ยวนั่นเองค่ะ รสชาติของอาหารชนิดนี้จพมีรส เปรี้ยว เผ็ด เค็ม และมันเป็นรสชาติของน้ำซอสที่ราดนั่นเองค่ะ ตัว ขนมปารี ปูรี ในชื่อของเค้าจะมีที่มาและที่ไปโดย ปารี จะหมายถึง น้ำที่ใช้ทานคู่กับแป้งทอดกรอบจะมีลักษณะรสชาติ เผ็ด เค็ม เปรี้ยว มันและในตอนท้ายของการเคี้ยวจะได้รับรสสัมผัสของใบยี่หร่านั่นเองค่ะ ส่วน ปูรี จะหมายถึง  แป้งสาลีทอดกรอบ ใช้ทานคู่กับเครื่องเคียง คือ มันฝรั่งต้ม หัวหอม และถั่วซีกพี ซึ่งอาหารชนิดนี้ได้ต้นกำเนิดการคิดค้นอาหารแบบสตรีทฟู้ดข้างทางมาจากชาวอินเดียตอนใต้นั่นเองค่ะ

ปารี ปูรี

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ปารี ปูรี (Pani Puri)

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ปารีปูรี นั้นสามารถหาได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไปและยังคงเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบที่ไม่มากมายจนคนติดตามไม่อยากที่จะลงมือทำกัน และแน่นอนว่าการทำอาหารชนิดนี้แม้จะเป็นของว่างแต่สิ่งที่สำคัญมากที่สุดของทุกองค์ประกอบของเขาคือ แป้งทอดกรอบ เพราะเราต้องตักตวงสัดส่วนและหาวิธีทำให้แป้งทอดกรอบ กรอบนานด้วยสูตรของเราเองค่ะ และส่วนผสมต่อไปจะเป็นในเรื่องของน้ำราดตัวปูรีของเราค่ะที่เค้าจะมีรสชาติ เผ็ด เค็ม เปรี้ยว และมันค่ะซึ่งสองอย่างนี้เป็นอะไรที่เราต้องมีและต้องทำส่วนผสมต่อไป คือ เครื่องเคียง เครื่องเคียงเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะทานแบบไหนจะมีที่กินกันบ่อยๆ คือ ถั่วซักพี หัวหอม และ มันฝรั่งต้ม นั่นเองค่ะสามารถจัดเตรียมสัดส่วนของอาหารได้ง่ายๆดังนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. ปูรี (Puri) ขนาดเล็ก 6 ชิ้น
  2. มันฝรั่งบดหยาบ 1 ถ้วย
  3. ยี่หร่าป่น 5 กรัม
  4. ผักชีซอย 1 ช้อนชา
  5. บุนดี้ (Boondi) 2 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือและพริกป่นสำหรับปรุงรสอย่างละเล็กน้อย

สัดส่วนและส่วนผสมน้ำจิ้ม

  1. ใบสะระแหน่ 1 ถ้วย
  2. ผักชีซอย 1 ถ้วย
  3. พริกขี้หนู ¼ ถ้วย
  4. น้ำเปล่า ½ ถ้วย
  5. น้ำมะนาว 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ
  7. ผักชีซอยและบุนดี้อย่างละเล็กน้อย
ปารี ปูรี

ขั้นตอนในการทำปารีปูรี (Pari Puri)

ขั้นตอนในการ ทำปารี ปูรี อาหารว่างสตรีทฟู้ดข้างทางของอินเดียเป็นอาหารที่ทำง่ายอย่างหนึ่งและเป็นของว่างยอดนิยมที่ขึ้นชื่อว่าอร่อยที่สุดจนดังเข้ามาถึงประเทศไทยเลยนั่นเองค่ะ ปัจจุบันอาหารว่างชนิดนี้มีแผ่นแป้งสำเร็จรูปวางขายทั่วไปตามช็อปต่างๆ รวมถึงผงปานีด้วยด็มีเช่นเดียวกันเรียกได้ว่าเป็นของว่างทำง่าย ทานง่ายจริงๆค่ะในเมนูนี้แนะนำให้ได้ลองทำทานกันจริงๆเลยจ้าอยากให้ลอง อาหารอินเดีย ยอดนิยมที่ดังจนมีขายทั่วไปได้ลองมาทำทานง่ายๆที่บ้านโดยไม่จำเป็นต้องไปต่อคิวซื้อที่อื่นเลยจ้าขั้นตอนการทำสามารถทำได้ดังนี้

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  • เจาะปูรีให้เป็นรูตรงกลาง พักไว้
  • ผสมมันบดกับยี่หร่า เกลือ และพริกป่นคนให้เข้ากัน แล้วใช้ส้อมตะกุยจนเป็นก้อนเล็ก ๆ ตักใส่ปูรีที่เจาะไว้ ตามด้วยผักชีซอยและบุนดี้
  • ทำน้ำจิ้มโดยปั่นสะระแหน่ผักชีและพริกให้ละเอียดกรองเอาแต่น้ำใส่ถ้วยไว้เติมน้ำลงไปปรุงด้วยน้ำมะนาว
    และเกลือ ตกแต่งด้วยผักชีซอยและบุนดี้เสิร์ฟพร้อมปูรีที่เตรียมไว้
ปารี ปูรี

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/

Categories
สูตรอาหาร

แกงกุรุหม่า (Chicken Korma) อาหารอินเดียสูตรเข้มข้น

แกงกุรุหม่า

สำหรับแกงเข้มข้นของอินเดียที่จะนำเสนอวันนี้คือ แกงกุรุหม่า เป็นแกงที่มีต้นกำเนิดมาจากอินเดียตอนใต้ แต่ปัจจุบันอาหารชนิดแกงแบบแกงกุรุหม่านั้นได้ถูกดัดแปลงให้เป็นความอร่อยไร้ที่ติโดยชาว อินเดียตอนเหนือ นั่นเองค่ะสำหรับแกงกุรุหม่านั้นจะค่อนข้างทำได้ยากหน่อยไม่ใช่ยากจากวิธีการทำ แต่ยากจากการรอคอยอาหารนั่นเองเพราะแกงกุรุหม่านั่นจะเน้นไปทางการเคี่ยวเนื้อและผักจนเปื่อยนุ่มเข้าที่ ถ้าหากจะเปรียบเหมือนอาหารไทยบ้านเราก็จะเป็น ต้มฉับฉ่ายนั่นเองค่ะแต่ในแกงกุรุหม่านั้นค่อนข้างจะมีกลิ่นหอม หอมมันจากเครื่องเทศ และจากธญพืชที่บดและทำการใส่ลงไปตุ๋นต้มด้วยนั่นเองค่ะ ในกรณีทำอาหารชนิดนี้ต้องทำเป็นหม้อใหญ่ๆเลยค่ะเพราะกว่าจะได้กินใช้เวลานานพอสมควรโดย อาหารอินเดีย ชนิดนี้จะค่อนข้างจะใช้เวลาทำนานและส่วนใหญ่จะใช้เนื้อ แพะ แกะ ในการตุ๋นต้มแต่ถ้าหากเป็นเนื้อวัวหรือไก่ตามบ้านเราก็สามารถตุ๋นต้มแบบย่นเวลาลงได้เพราะเนื้อของเค้าจะไม่เหนียวเหมือนเนื้อ แพะ และ แกะนั่นเองค่ะโดยส่วนใหญ่แกงกุรุหม่าถ้าอยากให้อร่อยสมใจแบบต้นตำหรับจะต้องใช้เนื้อแพะ หรือเนื้อแกะในการตุ๋นจากนั้นการตุ๋นก็จะใช้น้ำน้อยๆค่อยๆทำการเคี่ยวส่วนผสม จนเข้ากันดีจึงจะเติมน้ำและหรี่ไฟจากนั้นก็ทำการตุ๋นต้มจนสุกและเปื่อยดีนั่นเองค่ะ ในขั้นตอนการทำอาหารชนิดนี้ไม่ยุ่งยากอย่างที่คิดและเราก็มี สูตรอาหาร อร่อยๆแบบต้นฉบับชาวอินเดียเหนือมาฝากสำหรับคนชอบทานแกงกุรุหม่าแล้วค่ะ สามารถติดตามสูตรอาหารหรือขั้นตอนการทำอาหารได้ที่ด้านล่างนี้เลยจ้า

แกงกุรุหม่า

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ แกงกุรุหม่า (Chicken Korma)

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำแกงกุรุหม่า นั้นต้องบอกไว้ก่อนเลยนะคะว่าเป็นอะไรที่เตรียมได้ไม่ยากแต่ต้องเข้าให้ถูกที่ขายหรือช็อปต่างๆที่มีของ ของชาวอินเดียขายค่ะเพราะแกงกุรุหม่าที่เราจะทำเค้าจะมีกลิ่นโดยเฉพาะของเขาทำให้เขาต้องหนักไปทาง เครื่องเทศ มากๆและหนักไปทางการเคี่ยวการตุ๋นต้มนั่นเองค่ะวัตถุดิบหาได้ไม่ยากขั้นตอนในการทำก็เช่นกันค่ะเพราะอาหารชนิดนี้แม้จะเป็นอะไรที่ทำได้ง่ายแต่เครื่องในการทำอาหารชนิดนี้ก็ต้องครบเช่นเดียวกันค่ะไม่ฉะนั้นจะทำให้อาหารมีรสสัมผัสที่แตกต่างและไม่คล้ายคลึงกันเลยจ้า สามารถติดตามสูตรอาหารได้เลยที่ด้านล่างนี้ค่ะ

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. เนื้อไก่,หมู,เนื้อวัว,แพะ,แกะ 1 กิโลกรัม
  2. นมสดรสจืด 2 ถ้วยตวง
  3. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วยตวง
  4. มันฝรั่งหั่นเต๋าใหญ่ 2-3 หัว
  5. เนย 5 ช้อนโต๊ะ
  6. ผงเครื่องแกงกุรุหม่า 3 ช้อนโต๊ะ
  7. หอมหัวใหญ่หั่นเต๋าใหญ่ 3 หัว
  8. หอมแดงซอย ¼ ถ้วยตวง
  9. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ใบกระวาน 4-5 ใบ
  11. ขิงแก่สับ 1 ช้อนโต๊ะ
  12. เกลือ 1 ½ ช้อนชา
  13. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  14. หอมแดงเจียว 4 ช้อนโต๊ะ
แกงกุรุหม่า

ขั้นตอนและวิธีกาทำแกงกุรุหม่า (Chicken Kurma)

ขั้นตอนและวิธีการทำ แกงกุรุหม่า สำหรับทริคในการทำเมนูอาหารอินเดียชนิดนี้ค่อยข้างมีหลากหลายเพราะอาหารชนิดนี้แม้จะมีเครื่องเทศมากมายแค่ก็ไม่ใช่อุปสรรคอะไรเลย โดยปัจจุบันแกงกุรุหม่าเป็นอาหารที่ดังไปทั่วเอเชียและคนรู้จักแกงชนิดนี้ก็ต่างพากันอยากที่ทานจึงมีเครื่องแกงสำเร็จรูปว่างขายตามซูเปอร์มาเก็ตทั่วไปและตามร้านค้าทั่วไปนั่นเองค่ะ สำหรับอาหารชนิดนี้นอกจากเรื่องของเครื่องเทศแล้วเค้ายังคงมีวิธีกาทำที่ทำให้อาหารหน้าทาน อร่อย กลมกล่อมโดยการ เคี่ยวแกงกุรุหม่า ให้เกิดน้ำจากเนื้อสัตว์และผักออกมาจึงทำให้อาหารชนิดนี้ได้ความอร่อยนัวลงตัวแบบทีไม่จำเป็นจะต้องปรุงเครื่องปรุงรสเพิ่มมากมายอะไรเลยค่ะ สามารถจัดทำอาหารได้ตามขั้นตอนการทำอาหารด้านล่างนี้เลยค่ะ

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. สับเนื้อสัตว์เป็นชิ้นใหญ่ หมักกับโยเกิร์ต ผงเครื่องเทศกุรุหม่า 2 ช้อนโต๊ะ และ เกลือ 1/2 ช้อนชา นำไปแช่เย็นทิ้งไว้ค้างคืน
  2. ใส่เนยกี ลงในหม้อ นำไปตั้งไฟกลาง รอให้ร้อน ใส่หอมเล็ก กระเทียม และขิง ลงผัดให้หอม ใส่ไก่ลงผัดจนผิวนอกเหลือง ตามด้วยผงกุรุหม่าที่เหลือ ใส่หอมใหญ่ มันฝรั่ง และใบกระวานลงผัดให้เข้ากัน
  3. เติมนมสดลงไป หรี่ไฟอ่อน เคี่ยวจนเนื้อสัตว์นุ่ม ปรุงรสด้วยเกลือ และน้ำตาล เพื่อให้รสกลมกล่อม ชิมรสตามชอบ (อย่าให้หวานเกินไป)
  4. ตักแกงใส่ชาม โรยหอมเจียว เสิร์ฟพร้อมโรตีหรือข้าวสวย

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/

Categories
สูตรอาหาร

ทิกก้า มาซาล่า (Chicken masala) อาหารอินเดียสุดแซ่บ

ทิกก้า มาซาล่า

สำหรับเมนูอาหารอินเดียชนิดนี้ที่เรายกตัวอย่างให้คุณได้ลองทำตามที่บ้านคือเมนู ทิกก้า มาซาล่า ถือเป็นเมนูอาหารยอดฮิตของชาวอินเดียอีกหนึ่งเมนูที่มีลักษณะคล้ายกับบัตเตอร์ชิกเก้นแต่ทิกก้า มาซาล่า จะมีรสชาติที่เผ็ดเค็มมันมากกว่าบัตเตอร์ชิกเก้นนั่นเอง สำหรับ อาหารอินเดีย ชนิดนี้จะถูกปากคนในประเทศไทยค่อนข้างมากเพราะมีรสชาติจัดจ้านอร่อยดุดันนั่นเอง โดยอาหารชนิดนี้จะมีลักษณะการกินแต่หลากหลายหากเป็นคนไทยอาจจะนำมาคลุกข้าวกินได้แต่ถ้าหากเป็นคนอินเดีย อาจจะนำมาทานกับแป้งนานหรือใช้ทานเป็นแกงทานร่วมกับอาหารอื่นๆในวงข้าวของเค้าเองก็สามารถทายได้หลากหลายเช่นกัน โดยทิกก้า มาซาล่า เค้าจะมีรสสัมผัสที่อร่อยปัจจุบันจึงมีจัดจำหน่ายที่ประเทศไทย ตามซูปเปอร์มาเก็ตและตามร้านสะดวกซื้อทั่วไปจึงเป็นอาหารที่อยากนำมาเผยแพร่ให้ผู้ที่ชอบทานได้ลองทำทานเองง่ายๆที่บ้าน โดยไม่ต้องขับรถไปซื้อไกลบ้านหรือนั่งเครื่องมากินต้นตำหรับที่อินเดียค่ะ เพียงคุณเปิดสูตรอาหารของเราก็สามารถทำอาหารให้เสร็จสมบูรณ์ได้ง่ายๆด้วยมือของเราเลยจ้า สามารถติดตาม สูตรอาหารง่ายๆ ได้เลยที่ด้านล่างนี้

ทิกก้า มาซาล่า

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ทิกก้า มาซาล่า

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการ ทำทิกก้า มาซาล่า เป็นอะไรที่มีขั้นตอนการเตรียมที่ค่อนข้างยุ่งยากเพราะอาหารชนิดนี้เป็นอาหารของอินเดีย และแน่นอนว่าอาหารอินเดียมักจะมีการใช้เครื่องเทศหนักมาก ยิ่งเป็นอาหารชนิดนี้ยิ่งเป็นอะไรที่ต้องเข้มข้น เผ็ด เค็ม และมันมากๆเพราะเป็นรสชาติอาหารแบบต้นตำหรับของเค้านั่นเองค่ะ สำหรับอาหารชนิดนี้แม้จะเป็นอาหารอินเดียที่ค่อนข้างหาเครื่องเทศยากแต่แน่นอนว่าไม่เกินความสามารของผู้อยากทานแน่นอนค่ะเพราะ สมัยนี้เป็นสมัยใหม่การที่จะหา เครื่องเทศนอกนอกจากจะหาได้ตามร้านสะดวกซื้อหรือตาม ซูปเปอร์มาเก็ต แล้วยังสามารถหาได้ตามอินเตอร์เน็ตตามร้านสะดวกซื้อบนออนไลน์ทั่วไปก็สามารถหาได้เช่นกันค่ะ ทำให้การหาวัตถุดิบค่อนข้างง่ายขึ้นไปอีกมากและทำให้การทำอาหารอินเดียชนิดนี้เป็นการหา เครื่องเทศ ได้ง่ายอีกด้วยค่ะสามารถติดตามสูตรอาหารได้ง่ายๆตามด้านล่างนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. ผงมะสล่า 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  2. เนื้ออกไก่ลอกหนัง (หั่นเต๋า) 1.5 ปอนด์ หรือประมาณ 680 กรัม
  3. น้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ผงพริกปาปริก้า 1+1/2 ช้อนชา
  5. กระเทียม (ปอกเปลือก) 4 กลีบ
  6. พริกป่นคาเยน 1/4 ช้อนชา
  7. ขิง (ปอกเปลือก) 1+1/2 นิ้ว
  8. หอมใหญ่ (ปอกเปลือก) 1/2 ลูกใหญ่
  9. เนื้อมะเขือเทศบด 1 กระป๋อง (ประมาณ 28 ออนซ์)
  10. ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย
  11. น้ำเลมอน 1 ช้อนโต๊ะ
  12. กรีกโยเกิร์ต 1/2 ถ้วย
  13. พริกป่นคาเยน 1/4 ช้อนชา
  14. ข้าวหอมมะลิหรือข้าวมาสมาติ หุงสุก
ทิกก้า มาซาล่า

ขั้นตอนและวิธีการทำทิกก้า มาซาล่า (Chicken masala)

สำหรับขั้นตอนและวิธีการทำทิกก้า มาซาล่า นั้นอาจมีวิธีการทำที่ค่อนข้างใช้เวลาในการเคี่ยวเล็กน้อย การเคี่ยวไม่ใช่การเคี่ยวเนื้อสัตว์แต่อย่างไร แต่เป็นการเคี่ยวน้ำซุปให้เกิดความหนืดความเข้มข้นของเครื่องเทศนั่นเองค่ะการเคี่ยวถ้าใช้เวลาจริงๆอย่างเก่งก็จะไม่ต่ำกว่า 20-30 นาทีค่ะแต่แน่นอนว่าอาหารชนิดนี้ไม่ได้มีความยากเย็นอะไรเพียงคุณสามารถทำการเตรียมเครื่องเทศให้ครบครันเพียงเท่านี้ก็สามารถทำ อาหารแสนอร่อย ของเราออกมาได้หน้ารับประทานมากๆเลยทีเดียวจ้าแนะนำให้ลองทำทานที่บ้านง่ายๆดูได้เลยตามขั้นตอนการทำอาหารที่ด้านล่างนี้

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. ทำความสะอาดเนื้อไก่
  2. หมักด้วย เครื่องเทศแทนโดริ ¼ ถ้วย, โยเกิร์ต 50 มิลลิลิตร, ผงพริกแคชเมียร์, น้ำเลมอน 1 ช้อนชาและน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ ประมาณ 3-4 ชั่วโมง
  3. หลังจากหมักแล้วให้นำเข้าอบในเตาอบที่ความร้อน 180 องศา 20 นาที หรือย่างบนกระทะจนกระทั่งสุกดี จึงนำจัดใส่จาน พักไว้
  4. ใส่เนยลงในกระทะเมื่อกระทะร้อนให้เติมอบเชย, กระวานดำและกระวานเขียว จากนั้นจึงเติมหอมใหญ่, จินเจอร์ การ์ลิค เพสท์ และ ผัดจนหอมใหญ่สุก
  5. เติมเนื้อมะเขือเทศ, เกลือ, ผงพริก, กาแรม มาซาลา, ผงผักชี ผัดต่อประมาณ 15-20 นาที
  6. เติมไก่ที่สุกแล้วและปิดท้ายด้วยครีมและเกลือ คนต่อเล็กร้อนและนำเสิร์ฟ

เว็บพนันออนไลน์ เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝากถอนอัตโนมัติ

Categories
สูตรอาหาร

บัตเตอร์ชิกเก้น (Butter Chicken) อาหารอินเดียยอดนิยม

บัตเตอร์ชิกเก้น

ถ้าพูดถึงอาหารที่นิยมในอินเดียต้องยกให้เป็นเมนู บัตเตอร์ชิกเก้น (Butter chicken) ซึ่งแต่ก่อนบัตเตอร์ชิกเก้น เป็นเมนูนิยมมากๆของชาวอินเดีย เพราะมีรสชาติที่ไม่จัดจ้านมากจนเกินไปสามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นในปัจจุบันบัตเตอร์ชิกเก้น กลับเป็นเมนูที่ดังมากๆทั่วประเทศ และเป็นเมนูดังถึงขนาดที่ติดในสตรีทฟู้ด หรือตามร้านอาหารภัตตาคารต่างๆ ซึ่งเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นเป็นเมนูที่มีรสชาติอ่อนจะอ่อนไปทางเผ็ดอ่อนไปทางเค็ม แต่จะมีความมันความหวานเข้ามาแทนจึงทำให้เมนูนี้ เป็นเมนูที่เด็กก็สามารถทานได้ผู้ใหญ่ก็ทานดี และติดอันดับใน เมนูอาหารนิยม ในเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นนั้น จะเป็นอาหารที่ทานแล้วได้รับความอร่อยทานเพลินเนื่องจากมีความมันความหวานความนัว ที่ลงตัวความมันนั้นจะได้มาจากการใช้เนยและการใช้มะม่วงหิมพานต์ในการประกอบอาหาร ส่วนความหอมและความละมุนจะได้มาจากเครื่องเทศของชาวอินเดีย ที่ทั้งหอมลงตัว และอร่อยสุดขั้วไปเลย สำหรับในเมนูอาหารนิยมวันนี้เราได้คิดค้น สูตรอาหาร ที่เราคิดว่าจะเป็นอาหารที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทานได้ทุกเพศทุกวัยและมีรสชาติที่อร่อยละมุนลงตัวและมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป ไม่เป็นปัญหาสำหรับมือใหม่หัดทำอาหารเลย และวัตถุดิบที่ใช้สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปหรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตามช็อปต่างๆที่ขายของอินเดีย สำหรับเมนูนี้ ส่วนใหญ่อาจจะหาซื้อได้ค่อนข้างยากอาจจะเป็นในเรื่องของเครื่องเทศของอินเดีย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปเพราะปัจจุบันมีร้านค้าทั่วไปหรือซูเปอร์มาร์เก็ตได้ลงของ ของชาวอินเดียอาจจะเป็นในเรื่องของเครื่องเทศ เรื่องของวัตถุดิบจากหลักๆของชาวอินเดียนั่นเอง สำหรับเมนูนี้ถือเป็น อาหารจานเด็ด ที่อยากให้ทุกคนได้ลองทำทานที่บ้านง่ายๆกับครอบครัวได้เลยค่ะรับรองว่าคุ้มค่าแก่การทำแน่นอนจ้าในเมนูนี้ สามารถติดตามสูตรอาหารง่ายๆได้เเล้วที่ด้านล่างนี้เลยจ้า

บัตเตอร์ชิกเก้น

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ บัตเตอร์ชิกเก้น (Butter Chicken)

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเมนู บัตเตอร์ชิกเก้น นั้นในเมนูนี้ค่อนข้างที่จะใช้วัตถุดิบมาก ถึงมากที่สุด เนื่องจากเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นเป็นเมนูที่ต้องการความละมุน ความหอม ความมัน จึงทำให้เมนูนี้อาจจะต้องใช้วัตถุดิบที่มากพอสมควรแต่รับรองได้ว่า หากทำเมนูนี้เสร็จแล้ว คุณจะลืมการเตรียมวัตถุดิบ ที่ทำให้คุณปวดหัวเลยทีเดียว สำหรับอาหารชนิดนี้ เป็นอาหารเฉพาะเจาะจงในเรื่องของเครื่องเทศ ทำให้จำเป็นที่จะต้อง ใช้วัตถุดิบหลากหลาย นั่นเอง

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. เนื้อไก่หั่นพอดีคำ 800 กรัม
  2. กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ขิงแก่บด 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทยดำ ½ ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ

สัดส่วนและส่วนผสมซอส

  1. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  2. เนยจืด 5 ช้อนโต๊ะ
  3. หอมใหญ่สับหยาบ 1 ลูก
  4. กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ขิงแก่บด 1 ช้อนโต๊ะ
  6. Garam masala 1 ช้อนโต๊ะ
  7. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ยี่หร่า 1 ช้อนชา
  9. ขมิ้น 1 ช้อนชา
  10. มะเขือเทศสับหยาบ 400 กรัม
  11. มะม่วงหิมพานต์ ½ ถ้วยตวง
  12. เกลือ ¼ ช้อนชา
  13. พริกไทยดำ ¼ ช้อนชา
  14. น้ำ 1 ถ้วย
  15. ผักชี 1 ต้น
  16. วิปปิ้งครีม ½ ถ้วยตวง
บัตเตอร์ชิกเก้น

ขั้นตอนและวิธีการทำ “บัตเตอร์ชิกเก้น” (Butter Chicken)

สำหรับขั้นตอนการทำ บัตเตอร์ชิกเก้น แม้จะเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบและเครื่องเทศมากมาย แต่ก็เป็นอาหารที่มีขั้นตอนวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากเลย รับรองได้ว่าอาหารชนิดนี้เป็น อาหารทำง่าย ที่อยากแนะนำให้คุณได้ลองทำทานที่บ้านง่ายๆกับครอบครัวได้เลย ตามขั้นตอนวิธีการทำด้านล่างนี้

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. หมักไก่โดยผสมเนื้อไก่ กระเทียม ขิง เกลือสมุทร พริกป่นละเอียด และพริกไทยดำป่นในอ่างผสม นวดให้เข้ากันกับเนื้อไก่ หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 15-20 นาที
  2. ตั้งกระทะน้ำมันมะกอกบนไฟกลาง นำไก่ลงผัดในกระทะให้สีสวยและสุกประมาณ 80% ตักไก่ขึ้นใส่ถ้วย พักไว้
  3. ในกระทะใบเดิมที่ผัดไก่บนไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกและเนย 2 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ ใส่หอมใหญ่ลงผัด ตามด้วยกระเทียม ขิง การัมมาซาล่า พริกป่นละเอียด ยี่หร่าและขมิ้น ลดเป็นไฟ่อ่อนผัดจนหอมเครื่องเทศ ใส่มะเขือเทศและเม็ดมะม่วงลงผัดพอหอม ปรุงรสด้วยเกลือสมุทรและพริกไทยดำ เติมน้ำและผักชี ปิดฝาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 15 นาทีจนทุกอย่างสุกนุ่ม
  4. นำซอสไปปั่นให้ละเอียด แล้วกรองออกกากออก เทซอสใส่ลงกลับลงในกระทะ ตั้งบนไฟกลางค่อนอ่อน ใส่ไก่ที่ทอดไว้กลับลงไป ปิดฝาเคี่ยวต่ออีก 10 นาทีจนทุกอย่างเข้ากันดี จึงใส่วิปปิ้งครีม และเนยที่เหลือคนให้เข้ากัน ปิดไฟ
  5. จัดเสิร์ฟโดยตักบัตเตอร์ชิกเก้นใส่จาน แต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีมและใบผักชี เสิร์ฟกับขนมปังพิตต้า โรตีทอดกรอบ มะนาว และซาวร์ครีม

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) สูตรต้นตำหรับแท้

ข้าวหมกไก่อินเดีย

สำหรับอาหารที่มีรสชาติอร่อย หอม มัน เข้มข้นต้องยกให้เป็นเมนู ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) ข้าวหมกไก่ของอินเดียนั้นจะแตกต่างจากของอิสลามหรือแตกต่างจากที่เราเคยซื้อทานตามบ้านเรา เนื่องจากข้าวหมกไก่อินเดีย เค้าจะมีความหอม มัน รสชาติเข้มข้นมากกว่าซึ่งการทำข้าวหมกไก่อินเดียจะมีวิธีการทำที่ค่อนข้างแตกต่างออกไปจากที่เราเคยทาน มีความหอมของเครื่องเทศ ความเผ็ดหอมมันมากขึ้นทำให้ข้าวหมกไก่อินเดียขึ้นแท่นเป็น อาหารจานโปรด ของหลายๆคนเลยทีเดียวส่วนเรื่องของขั้นตอนการทำ ก็ค่อนข้างใช้เวลาทำพอสมควรกว่าจะทำการหุงข้าวหรือการหมักไก่เสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร แต่รับรองได้ว่าเมื่ออาหารจานเด็ดจานนี้เสร็จออกมาก็จะทำให้อาหารหน้ารับประทานมากจนลืมความยากในการทำไปเลยทีเดียวค่ะ สำหรับการทำอาหารอินเดียขึ้นชื่อว่าเป็นชาวอินเดีย เค้าก็ค่อนข้างจะมีสูตรในการทำหรือการใช้วัตถุดิบที่หลากหลายที่คนอินเดียนั้นคิดว่าเค้าเองจะทำให้อาหารหอมอร่อยนั่นเองค่ะ ในการทำอาหารอินเดียวันนี้ทางเราได้จัดเตรียม สูตรอาหาร อร่อยไว้ให้ได้ลองทำทานกันง่ายๆได้แล้วที่นี่เลยค่ะ การจัดเตรียมวัตถุดิบและขั้นตินการทำสามารถติดตามได้ที่ด้านล่างนี้ค่ะ

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani)

ข้าวหมกไก่อินเดีย

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) นั้นถ้าหากเป็นเรื่องของไก่เราสามารถเลือกซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปส่วนเนื้อไก่ที่ใช้ทำเราจะใช้ส่วนไหนก็ได้ที่ชื่นชอบ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของ เครื่องเทศ ก็จะสามารถหาซื้อได้ง่ายๆตามซูปเปอร์มาเก็ตที่ขายของของอินเดีย เพราะจะทำให้ได้ของมาใช้แบบครบครันนั่นเองค่ะ วัตถุดิบที่ใช้จำเป็นต้องใช้แบบที่ไม่สามารถจะขาดได้สักชนิดเพราะข้าวหมกไก่ของอินเดียจำเป็นอย่างมากที่จะต้องครบเครื่องถึงพริกถึงขิงจนเกิดเป็นความหอมแบบผสมผสานกัน ทำให้ข้าวหมกไก่ชนิดนี้ใช้ วัตถุดิบแบบต้นฉบับ อินเดียจริงๆจึงจะได้เป็นต้นตำหรับแท้จากอินเดียเลยจ้า การทานอาหารชนิดนี้ทำได้ง่ายด้วยการจัดเตรียมวัตถุดิบได้ง่ายๆเลยดังนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. อกไก่ หรือส่วนอื่นตามชอบ 4 ชิ้นใหญ่
  2. หัวหอมแดงสับ 1 หัว
  3. โยเกิร์ตครึ่งถ้วย
  4. เนย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ผง Biryani 1 กล่อง
  6. เปลือก Cinemon (อบเชย) 1 ชิ้น
  7. พริกป่น india 1 ช้อนโต๊ะ
  8. Black Mastard (เมล็ดมัสตาร์ดดำ) 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักชีใช้โรยหน้า
  10. พริกแห้งใหญ่ 2 ลูก
  11. ข้าวบาสมาติ 2 ถ้วย
  12. มะเขือเทศสับ 1 ลูก
  13. พริกเขียวสด 5-6 เม็ด

ขั้นตอนและวิธีการทำข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani)

สำหรับขั้นตอนและวิธีการทำข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) แม้ข้าวหมกไก่ชนิดนี้จะมีเครื่องเทศมากมายหรือเรียกให้ถูกคือหนักเครื่องเทศมาก และใช้เวลาในการประกอบอาหาพอสมควร แต่ใดๆอาหารชนิดนี้เมื่อเสร็จสมบูรณ์จัดจานมาแล้วอาหารชนิดนี้ถือเป็น อาหารรสเด็ด ที่ไม่เพียงแต่มีรสเด็ดจากการหมักไก่ให้เข้าเครื่องเพียงอย่างเดียว แม้แต่ตัวข้าวของเค้าเองก็เป็นอะไรที่อร่อยสมกับเป็นข้าวหมกไก่จริงๆค่ะ เมื่อมสถึงขั้นการทำอาหารทางเราเองก็แอบมีสูตรลับๆแบบต้นตำหรับมาฝากสำหรับคนชอบทานอาหารอินเดียได้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านได้เลยค่ะ สามารถติดตามขั้นตอนการทำได้เลยที่ด้านล่างนี้

ข้าวหมกไก่อินเดีย

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. เนื้อไก่ หมักกับเครื่องเทศทั้งหมดแล้วหมักทิ้งไว้ 30 นาทีอย่างต่ำ
  2. ไก่ที่หมักแล้ว ผสมโยเกิร์ต คลุกให้เข้ากัน
  3. นำหอมสับลงไปผัดกับเนยจนหอมแล้วเริ่มเป็นสีทอง
  4. นำไก่ลงไปผัด ใส่พริกแห้ง ใส่มะเขือเทศลงไป
  5. เติมน้ำลงไป ผัดต่อจนไก่สุก
  6. ข้าวบาสมาติ ซาวน้ำและแช่น้ำทิ้งใว้สัก 15 นาที ให้ข้าวเริ่มอุ้มน้ำ
  7. ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ทาน้ำมันใว้ที่ก้นหม้อหุงข้าวนิดหน่อย กันข้าวและไก่ติด ตักเนื้อไก่ที่สุกแล้ววางลงไป
  8. วางข้าวลงไปทับไก่
  9. เทน้ำผัดทั้งหมดลงไป ใส่เปลือก ซิเนม่อนลงไป
  10. กดปุ่มหุง พอข้าวสุก เปิดฝาใส่พริกสดลงไป แล้วคุ้ยข้าวขึ้นมาให้ทั่วกันจากนั้นปิดฝาพักทิ้งไว้เป็นอันใช้ได้
  11. ตักข้าวใส่จานวางท็อปด้วยไก่เป็นอันพร้อมรับประทาน

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด