Categories
อาหารสุขภาพ

สลัดไข่ต้ม เมนูอาหารคลีนโปรตีนสูง คุณประโยชน์มากมาย วัตถุดิบหลากหลายน่าทาน 

สลัดไข่ต้ม

สลัดถือเป็นเมนูอาหารคลีนชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพและคนลดน้ำหนักอย่างมาก จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผู้คนมากมาย ต่างให้ความสนใจกับสุขภาพกันทั้งนั้น ซึ่งเมนูนี้จะอุดมไปด้วยผักและผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานน้อย เมื่อเทียบกับอาหารที่ผ่านการปรุงรส แต่ในความเป็นจริงแล้วผลไม้หลายชนิดจะมีรสหวาน สามารถทำให้อ้วนได้ไม่แพ้อาหารปรุงรสเลย เพราะฉะนั้นคนลดน้ำหนักจึงต้องหลีกเลี่ยงผักผลไม้บางชนิด และเพิ่มโปรตีนด้วยอาหารประเภทอื่น ๆ นั่นจึงทำให้เมนู สลัดไข่ต้ม ได้ถือกำเนิดขึ้น 

รู้จัก สลัดไข่ต้ม เมนูคลีนเพิ่มโปรตีนง่าย ๆ พร้อมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อีกมากมาย

สลัดไข่ต้ม

อย่างที่ทราบกันว่า เมนูสลัด มักจะอุดมไปด้วยผักและผลไม้หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีธัญพืชอีกด้วย ทำให้อาหารชนิดนี้มีสารอาหารสำคัญอย่างวิตามิน แร่ธาตุและใยอาหาร หลายคนจึงนิยมทานเป็นอาหาร มื้อเช้าคลีน ๆ และเพิ่มโปรตีนด้วยไข่ต้มแทนเนื้อสัตว์ เมื่อนำผัก ผลไม้ ธัญพืช และไข่ต้มมารวมกัน จึงกลายเป็นเมนู สลัด ไข่ต้ม ในที่สุด ถือเป็นเมนู อาหารคลีน ที่เหมาะกับคนลดน้ำหนัก รวมทั้งคนทานมังสวิรัติก็สามารถทานได้ด้วย 

แนะนำสูตรการทำ สลัดไข่ต้ม ง่าย ๆ สำหรับคนรักสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก

สลัดไข่ต้ม

เมนู สลัด ที่มีไข่ต้มอาจไม่ได้ดูแปลกใหม่สำหรับคนทั่วไปนัก โดยเฉพาะคนรักสุขภาพและคนลดน้ำหนักจะรู้จักเมนูนี้เป็นอย่างดี เพราะถือเป็น อาหารคลีนแบบประหยัด ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำทานได้ สำหรับเมนูสลัดไข่ต้ม เราสามารถใช้ผักผลไม้และธัญพืชตามความชอบได้ จึงเป็นหนึ่งใน เมนูลดน้ำหนัก ยอดนิยมที่หลายคนนิยมทานกัน และการนำไข่ต้มเข้ามาเป็นส่วนประกอบก็เสมือนเป็นการเพิ่มโปรตีนให้กับสลัดด้วย ซึ่งเหมาะกับเมนู มื้อเช้าทำเอง อย่างมาก เพราะมีขั้นตอนการทำค่อนข้างง่าย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. ผักสลัด 5 ใบ
  3. กะหล่ำปลีม่วง 1/2 หัว
  4. แครอท 1 หัว
  5. มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก
  6. แอปเปิ้ลเขียว 1/2 ลูก
สลัดไข่ต้ม

ส่วนผสมน้ำสลัดคลีน

  1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ไขมัน 0%) 1 ถ้วย
  2. กระเทียมสับ 1 กลีบ
  3. มัสตาร์ด 3 หยด
  4. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  5. พริกไทยป่น (นิดหน่อย) 

วิธีทำ สลัด ไข่ ต้ม

สลัดไข่ต้ม
  1. ขั้นตอนแรกนำไข่ไก่ไปต้มจนสุก เสร็จแล้วแกะเปลือกออกและผ่าครึ่ง พักไว้ เด็ดใบของผักสลัดแยกออกจากกัน ต่อมานำกะหล่ำปลีม่วงมาหั่นหรือซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ 
  2. จากนั้นนำแครอทมาปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นเส้น ๆ ตามด้วยหั่นแอปเปิ้ลเขียวเป็นชิ้นเล็ก ๆ และหั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เสร็จแล้วจัดทุกอย่าง รวมถึงไข่ต้ม ลงจานให้สวยงาม
  3. ขั้นตอนต่อมาเตรียมทำน้ำสลัด โดยนำโยเกิร์ต กระเทียมสับ มัสตาร์ด น้ำมะนาวและพริกไทยป่น มาปั่นรวมกันจนละเอียด เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับสลัดไข่ต้ม 

เคล็ดลับการทำน้ำสลัดคลีนให้เหมาะกับคนลดน้ำหนัก ทานคู่กับ สลัดไข่ต้ม แล้วเข้ากันได้ดี

สลัดไข่ต้ม

ถึงแม้ว่าสลัดจะเป็น อาหารคลีนง่าย ๆ แต่สำหรับคนคุมน้ำหนักจะต้องให้ความสำคัญกับส่วนผสมของเมนูนี้กันด้วย โดยเฉพาะน้ำสลัดจำเป็นต้องเลือกสูตรคลีน เพื่อให้เหมาะกับคน ลดน้ำหนัก โดยเฉพาะ หากทำน้ำสลัดสูตรคลีนควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาลทุกชนิด แต่สามารถเพิ่มความหวานด้วยวัตถุดิบธรรมชาติอย่างมัสตาร์ดและน้ำผึ้งได้ เมื่อทานคู่กับ สลัด ไข่ต้ม แล้วจะเข้ากันได้ดี นอกจากนี้สารให้ความหวานดังกล่าวยังมีสรรพคุณดี ๆ อีกด้วย เหมาะกับการทำเป็นเมนู มื้อเช้าง่าย ๆ เลยทีเดียว 

อาหารคลีนทำง่าย แถมได้ประโยชน์ คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด

สลัดไข่ต้ม

ผักและผลไม้จะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุและใยอาหารหลายชนิด สำหรับคนลดน้ำหนักที่อยากทาน อาหารคลีนทำเอง ที่มีทั้งใยอาหารและโปรตีน สลัดไข่ต้มก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะไข่ต้มนั้นมีโปรตีนสูง หรือหากใครอยากทานเนื้อสัตว์ด้วยก็สามารถทำเป็น สลัด อกไก่ ไข่ ต้ม ได้เช่นกัน ส่วนใครที่ต้องการ มื้อเช้าแบบประหยัด ก็สามารถเลือกวัตถุดิบตามความสะดวกได้เลย นอกจากสลัดแบบธรรมดาแล้ว เรายังสามารถทำเป็น สลัด โรล ไข่ ต้ม ได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง เมนูอาหารที่เต็มไปด้วยความอร่อย และสารอาหารหลากหลายชนิด 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวานก็สามารถนำวัตถุดิบชนิดนี้มาใช้ได้ นอกจากรสสัมผัสที่มีความหวานมันกรุบกรอบแล้ว ยังเคี้ยวง่าย ไม่แข็งและไม่เหนียวด้วย ปัจจุบันสามารถหาทานได้ง่าย สำหรับเมนูอาหารที่ใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นวัตถุดิบหลัก หนึ่งในนั้นคือเมนู ไก่ผัดเม็ดมะม่วง เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยทานกันมาบ้างแล้ว ต้องบอกว่าการนำเนื้อไก่มาผัดกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นเข้ากันอย่างมาก 

ทำความรู้จัก ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ อาหารไทยยอดนิยม รสสัมผัสเยี่ยม อร่อยครบรส

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ ผัด มะม่วงหิมพานต์ เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่คนไทย คนจีนและชาวต่างชาติ เรียกว่าเป็น อาหาร ไทย อันมีที่มาจากอาหารตำรับเสฉวนที่ชื่อว่า “กงเป่าจีติง” รสชาติของ ไก่ผัด เม็ดมะม่วง หิมพานต์จะมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มและเผ็ด เรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียว สำหรับในประเทศไทยเมนูนี้ก็ถือเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี 

แจกสูตร ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ เมนูอร่อย ๆ แถมมีประโยชน์ ทำได้ง่าย ๆ

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ใครที่ยังไม่เคยทาน ไก่ ผัด เม็ด มะม่วง หิมพานต์ เราขอแนะนำให้ลองทานสักครั้งแล้วอาจจะทำให้ติดใจ หน้าตาของอาหารสามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะเต็มไปด้วยสีสันต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์อีกด้วย สำหรับใครที่อยากลองทำทานเองที่บ้าน เราก็มี สูตร ไก่ ผัด เม็ด มะม่วง หิมพานต์มาฝากด้วย มาดูกันว่าขั้นตอนการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วง เป็นอย่างไรบ้าง 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
  1. เนื้ออกไก่ 350 กรัม
  2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
  3. พุทราเชื่อม 100 กรัม
  4. พริกหวาน (แดง,เหลือง,เขียว) 70 กรัม
  5. พริกชี้ฟ้าแห้ง 20 กรัม
  6. หอมใหญ่ 50 กรัม
  7. ต้นหอม 30 กรัม
  8. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  9. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  11. เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
  13. น้ำมันสำหรับผัด/ทอด 

วิธีการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อนการปรุง เริ่มจากหั่นพริกชี้ฟ้าแห้งเป็นท่อนและนำเม็ดออก ต่อมาหั่นต้นหอมเป็นท่อน ๆ ส่วนหอมใหญ่ให้หั่นเต๋า และหั่นพริกหวานทั้ง 3 สี เป็นชิ้นขนาดปานกลาง
  2. นำอกไก่มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้ ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไปเยอะ ๆ ใช้ไฟกลาง หลังจากน้ำมันเริ่มเดือดแล้วนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปทอดให้พอมีสีเหลือง 
  3. เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันนำพริกชี้ฟ้าแห้งลงไปทอดด้วยไฟอ่อนให้มีกลิ่นหอม เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน นำอกไก่มาคลุกกับแป้งสาลี จากนั้นนำไปทอดในกระทะด้วยไฟกลาง 
  4. เมื่อทอดจนสุกแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันต่อมาทอดพริกหวานและหอมใหญ่ด้วยไฟแรงให้พอสุกเล็กน้อย เสร็จแล้วปิดแก๊สและตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน
  5. ขั้นตอนการผัด เริ่มจากการทำน้ำซอส ใส่ซีอิ๊วขาวลงในกระทะ ตามด้วยซอสหอยนางรม เหล้าจีนและน้ำตาลทราย จากนั้นเปิดแก๊สโดยใช้ไฟกลาง คนส่วนผสมให้เข้ากันและเคี่ยวจนมีความข้น
  6. เมื่อเคี่ยวน้ำซอสจนข้นได้ที่แล้ว ใส่อกไก่ พริกหวาน หอมใหญ่ พริกชี้ฟ้าแห้ง พุทราเชื่อมและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป 
  7. ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันสักระยะ จากนั้นใส่ต้นหอมลงไปและผัดให้เข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ เสร็จแล้วปิดแก๊สและตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย 

ทริคเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทอดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สำหรับเมนู ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นวัตถุดิบหนึ่งที่สามารถนำมาทำเป็น เมนู อาหาร ไทย ได้ทั้งคาวและหวาน แต่หากเป็นเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมื่อนำลงไปทอดในน้ำมันแล้วต้องหมั่นคนอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้มีสีเหลืองเท่า ๆ กันทุกเม็ด หากไม่คนจะทำให้เม็ดมะม่วงที่ติดอยู่ตรงก้นกระทะเป็นสีเข้มได้ สำหรับระยะเวลาการทอดนั้นไม่นานนัก เพียงแค่ทอดให้มีสีเหลืองก็ถือว่าใช้ได้แล้ว เพราะสุดท้ายต้อง ผัด เม็ด มะม่วง รวมกับไก่และส่วนผสมอื่น ๆ ของเมนู ไก่ ผัดเม็ดมะม่วง อีกครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องทอดให้สุกมาก 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมนูอาหารที่มีรสสัมผัสยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมนู ผัด ไก่ เม็ด มะม่วง หิมพานต์เป็นเมนูอาหารที่มีหน้าตาน่าทานมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยและเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เรียกว่าเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่เหมาะแก่การทำให้คนในครอบครัวทานอย่างมาก นอกจากเนื้อไก่ที่มีโปรตีนสูงแล้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไก่ผัดเม็ดมะม่วงเป็นหนึ่งในเมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ ที่ต้องลอง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

รู้จักเมนู ต้มกะทิ สายบัว ปลาทู อาหารไทยโบราณที่ควรอนุรักษ์ พร้อมแจกสูตรการทำง่าย ๆ 

ต้มกะทิ สายบัว

สายบัวเป็นวัตถุดิบชนิดหนึ่งที่คนไทยในอดีตนิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะเมนูแกงต่าง ๆ จะนิยมใช้สายบัวเป็นวัตถุดิบหลัก เช่นเดียวกับเมนู ต้มกะทิ สายบัว ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยโบราณที่ยังคงหาทานได้ในปัจจุบัน แต่การจะหาร้านที่ปรุงได้ถูกปากถูกใจอาจเป็นเรื่องยาก เพราะสูตรการทำในปัจจุบันจะแตกต่างจากในอดีตอยู่พอสมควร ฉะนั้นการทำทานเองจึงเป็นสิ่งที่น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี 

ต้มกะทิ สายบัว เมนูแกงไทยโบราณที่น่าลอง อร่อยและมีดีกว่าที่คิด

ต้มกะทิ สายบัว

แกงสายบัว ใส่กะทิ เป็นอาหารประเภทแกงของไทยที่ได้รับความนิยมมากในอดีต สำหรับรสชาติของอาหารชนิดนี้จะมีรสเค็มจากปลาทู และรสหวานมันจากกะทิ เรียกได้ว่าเป็น อาหาร ไทย ที่ใช้เครื่องปรุงค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังมีสูตรเครื่องแกงแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากคุณอยากจะทำเมนู ต้มกะทิสายบัว ทานเอง แม้ว่าจะเคยเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ก็ตาม แต่ในปัจจุบันสูตรการปรุงอาจเปลี่ยนไปจากเดิม 

เผยสูตร ต้มกะทิ สายบัว ปลาทู ตามแบบฉบับคนโบราณ ทำทานในยุคปัจจุบันได้ง่าย ๆ

ต้มกะทิ สายบัว

เมื่อเทียบกับเมนูแกงอื่น ๆ ต้องบอกว่า แกง สายบัว ใส่ ปลา ทู เป็นหนึ่งในเมนูที่ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงน้อยมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะธรรมดาเสมอไป จัดเป็นอาหารไทยโบราณที่มีกลิ่นหอมของกะทิ มีรสหวานมันและเค็ม กลมกล่อม อาจไม่ใช่เมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นหอมของกะทิก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย มาดูกันว่าสูตรการทำต้มกะทิ สายบัว ใส่ปลาทู จะมีวิธีทำง่ายเพียงใด 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. สายบัว (หั่นท่อนยาว 2 นิ้วครึ่ง) 500 กรัม
  2. มะดัน/ตะลิงปลิง 2 ลูก
  3. ปลาทูนึ่ง 2-3 ตัว
  4. กะทิกล่อง 1,000 มิลลิลิตร
  5. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนชา
  6. เกลือ 2 ช้อนชา
ต้มกะทิ สายบัว

ส่วนผสมเครื่องแกง

  1. หอมแดง 1/2 ถ้วย
  2. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีการต้มกะทิสายบัวปลาทู

ต้มกะทิ สายบัว
  1. ขั้นตอนแรกในการทำเมนูต้มกะทิสายบัวปลาทูเริ่มทำเครื่องแกง นำหอมแดงมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปตำรวมกันกับกะปิและพริกไทยป่น ไม่ต้องตำให้ละเอียดมาก เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย พักไว้
  2. ขั้นตอนต่อมาให้ต้มกะทิด้วยไฟแรงจนเดือด จากนั้นให้ใส่เครื่องแกงลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตามด้วยการปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลปี๊บ
  3. เมื่อกะทิเริ่มเดือด จากนั้นให้ใส่สายบัวลงไปและกดให้จมน้ำกะทิ ต่อมาใส่มะดันหรือตะลิงปลิงลงไป ต้มให้สุกพร้อมกับสายบัว
  4. เตรียมปลาทูนึ่งสำหรับขั้นตอนต่อไป โดยเริ่มจากการตัดหางปลาทูออกเล็กน้อย และใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนสุกและปิดแก๊ส ถือเป็นอันเสร็จสิ้นเมนูอาหารไทยโบราณ

การเลือกกะทิให้เหมาะสม ช่วยให้เมนู ต้มกะทิ สายบัว หอมอร่อยและกลมกล่อมแบบสูตรดั้งเดิม

ต้มกะทิ สายบัว

วิธี แกง สายบัว ใส่ ปลา ทู ให้อร่อยตามแบบสูตรดั้งเดิม จำเป็นต้องเลือกใช้วัตถุดิบให้เหมาะสม โดยเฉพาะการเลือกกะทิ ในอดีตเมนูนี้ถือเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ซึ่งจะใช้กะทิสดในการปรุง แต่ทว่าในปัจจุบันการใช้กะทิสำเร็จรูปนั้นช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการทำอาหารได้มากขึ้น แต่เราควรเลือกกะทิสำเร็จรูปที่ทำจากกะทิแท้ 100% เพราะดีต่อสุขภาพและให้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติอีกด้วย เมื่อนำมาทำเมนู ต้มกะทิสายบัว แล้วจะได้รสชาติใกล้เคียงกับสูตรดั้งเดิมมากขึ้น 

ต้มกะทิสายบัว ปลาทู เมนูแกงที่มีรสเปรี้ยวแฝงอยู่เล็กน้อย ตัดกับรสเค็มหวานมันได้ดี

ต้มกะทิ สายบัว

ทุกวันนี้เรายังสามารถพบเห็นเมนู แกง สายบัว ตามร้านอาหารทั่วไปได้บ้าง แต่มีน้อยนักที่จะปรุงรสชาติออกมาได้ใกล้เคียงกับสูตรโบราณ เนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างนั้นหายาก เดิม ต้ม สายบัว กะทิสูตรโบราณจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งได้ความเปรี้ยวจากมะดัน แต่ในปัจจุบันจะหาได้ยากขึ้น ผู้ที่ทำเมนูนี้ขายจึงไม่ได้ใช้วัตถุดิบดังกล่าว ส่งผลให้ เมนู อาหาร ไทย ชนิดนี้มีรสชาติต่างจากอดีต ทั้งนี้เราสามารถใช้ตะลิงปลิงแทนมะดันได้ หรือถ้าหากไม่มีก็ไม่ต้องใส่ เพราะต้มกะทิ สายบัวก็มีความอร่อยในตัวอยู่แล้ว

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ไก่แช่เหล้า เมนูอาหารพื้นบ้านของจีน ทานคู่กับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ทำได้ง่าย ๆ สไตล์ร้านอาหารจีน 

ไก่แช่เหล้า

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าอาหารต่างชาติหลาย ๆ เมนูได้รับความนิยมในประเทศไทย แม้ว่าบางเมนูจะเป็นอาหารพื้นบ้านก็ตาม แต่ทว่ารสสัมผัสที่ถูกปากคนไทยก็สามารถทำให้กลายเป็นอาหารยอดนิยมได้ไม่ยาก โดยเฉพาะอาหารจีนหลาย ๆ เมนูที่มีรสชาติอร่อยและหน้าตาน่าทาน มักจะได้รับความนิยมในไทย และถ้าหากนึกถึงอาหารจีนพื้นบ้านที่เรามักจะเห็นตามโต๊ะจีน หนึ่งในนั้นคงจะขาดเมนู ไก่แช่เหล้า ไปไม่ได้ 

รู้จักเมนูอาหารจีนพื้นบ้านอย่าง ไก่แช่เหล้า ทำไมถึงได้รับความนิยมในประเทศไทย

ไก่แช่เหล้า

ไก่ แช่เหล้า ถือเป็นอาหารพื้นบ้านของจีนที่ได้รับความนิยมในไทย โดยเฉพาะในภัตตาคารอาหารจีน เรียกได้ว่า เมนูอาหารจีน นี้เป็นที่นิยมและขึ้นชื่อมากทีเดียว ต้องบอกว่า วัฒนธรรมอาหารจีน และอาหารฝรั่งจะนิยมนำเหล้ามาเป็นส่วนผสมของอาหาร จุดประสงค์อาจไม่ได้ต้องการทำให้มึนเมา แต่เป็นเพียงการเพิ่มรสชาติให้อาหารอร่อยขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้รสสัมผัสแตกต่างจากอาหารทั่วไปอีกด้วย เช่นเดียวกับเมนู ไก่ แช่เหล้า ทั้งนี้เหล้าบางชนิดจะเป็นยาที่ช่วยบำรุงร่างกายได้ 

แจกสูตร ไก่แช่เหล้า เนื้อนุ่ม ๆ รสกลมกล่อม มาพร้อมกลิ่นหอมของเหล้าจีน

ไก่แช่เหล้า

การนำไก่มาแช่เหล้าไม่เพียงแค่จะช่วยให้รสชาติอร่อยขึ้นเท่านั้น แต่ยังทำให้รสสัมผัสแตกต่างจากไก่ทั่วไปด้วย หลังจากถูกหมักด้วยเหล้าและส่วนผสมอื่น ๆ แล้วจะทำให้เนื้อไก่นุ่มละมุนมากขึ้น จึงจะเห็นได้ว่า อาหารจีน หลาย ๆ เมนูจะนิยมนำเหล้ามาเป็นส่วนผสม สำหรับใครที่อยากทำเมนูดังกล่าว เรามี สูตรไก่แช่เหล้า แบบง่าย ๆ มานำเสนอด้วย บอกเลยว่าเป็นสูตรที่มีความใกล้เคียงกับร้านอาหารจีน ไปดูกันว่าขั้นตอนการทำไก่แช่เหล้า จะเป็นอย่างไรบ้าง 

ส่วนผสมสำหรับต้มไก่

  1. สะโพกไก่ติดน่อง 1 กิโลกรัม
  2. ขิงหั่น 4 แว่น
  3. ต้นหอม 3 ต้น
  4. เกลือ 1 ช้อนชา
  5. น้ำเปล่าสำหรับต้มไก่

ส่วนผสมสำหรับแช่ไก่

  1. เหล้าจีน 100 มิลลิลิตร
  2. เหล้าบ๊วย 50 มิลลิลิตร
  3. น้ำเปล่า 1 ลิตร
  4. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ 2 ช้อนชา
  7. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  8. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  9. ขิงหั่น 5 แว่น
  10. ต้นหอม 4 ต้น
ไก่แช่เหล้า

ส่วนผสมน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

  1. เต้าเจี้ยว 5 ช้อนโต๊ะ
  2. น้ำส้มสายชู 3 ช้อนโต๊ะ
  3. น้ำอุ่น 2 ช้อนโต๊ะ
  4. ซีอิ๊วดำหวาน 1/2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  6. พริกขี้หนูสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  7. กระเทียมสับ 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ขิงสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักชีสับ 1 ต้น 

วิธีทำไก่แช่เหล้า

ไก่แช่เหล้า
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมต้มไก่ เริ่มจากต้มน้ำให้เดือดจัดด้วยไฟแรง ใส่เกลือลงไป นำขิงและต้นหอมมาทุบพอหยาบแล้วใส่ลงไป ตามด้วยสะโพกไก่ติดน่องที่เตรียมไว้ ต้มต่อไปเรื่อย ๆ รอจนเดือดอีกครั้ง
  2. เมื่อน้ำเดือดแล้วให้ต้มต่ออีก 5 นาที หลังจากนั้นพลิกไก่กลับด้านให้สุกอย่างทั่วถึง ในระหว่างนี้ให้ปรับเป็นไฟอ่อน และต้มต่ออีกประมาณ 15-20 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดของเนื้อไก่ เสร็จแล้วปิดแก๊สและนำไก่มาน็อคในน้ำเย็น
  3. ขั้นตอนต่อมาเตรียมส่วนผสมแช่ไก่ เริ่มจากตั้งกระทะ ใช้ไฟกลาง ใส่น้ำมันงาลงไป ตามด้วยต้นหอมทุบและขิง ผัดให้มีกลิ่นหอม จากนั้นเทเหล้าจีนและเหล้าบ๊วยลงไป ต้มจนเดือด
  4. ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เกลือ ผงปรุงรสและน้ำเปล่า ต้มต่อจนเดือด เสร็จแล้วปิดแก๊สและพักทิ้งไว้ให้เย็น นำไก่ต้มลงไปแช่ในส่วนผสมที่ทำเมื่อสักครู่ จากนั้นนำไปแช่ในตู้เย็นอย่างน้อย 12 ชั่วโมง หรือ 1 คืน
  5. ต่อมาเตรียมทำน้ำจิ้ม เริ่มจากเตรียมถ้วยน้ำจิ้ม ใส่กระเทียมสับ พริกขี้หนูสับและขิงสับลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันและบี้เล็กน้อยเพื่อให้มีกลิ่นหอม 
  6. ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูและน้ำตาลทราย ใส่น้ำอุ่นลงไปแล้วคนให้เข้ากัน ต่อมาใส่เต้าเจี้ยวและซีอิ๊วดำหวาน ปิดท้ายด้วยผักชีสับ เสร็จแล้วคนให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดี
  7. นำไก่ที่แช่ในตู้เย็นไว้จนครบ 1 คืน มาเลาะกระดูกออกให้หมด จากนั้นนำเนื้อไก่มาหั่นเป็นชิ้น ๆ จัดใส่จาน ราดด้วยน้ำไก่แช่เหล้า เสิร์ฟคู่กับน้ำจิ้มที่เตรียมไว้ ถือเป็นอันเสร็จ 

เทคนิคการเลือกไก่ให้เหมาะกับเมนู ไก่แช่เหล้า ช่วยให้ปรุงสุกได้ง่ายขึ้น

ไก่แช่เหล้า

การเลือกวัตถุดิบให้เหมาะสมกับการทำเมนูนั้น ๆ ย่อมมีความสำคัญอยู่ไม่น้อย แม้ว่าเครื่องปรุงหรือส่วนผสมต่าง ๆ จะเป็นตัวชูรสชาติก็ตาม แต่ทว่าวัตถุดิบหลักก็ต้องดีด้วย จึงจะช่วยให้รสสัมผัสดีขึ้นได้ สำหรับไก่ที่จะนำมาทำเมนู ไก่แช่เหล้าจีน ควรเป็นเนื้อไก่ที่ไม่เย็นจัดและแข็งจนเกินไป เพราะจะต้มให้สุกได้ยาก แนะนำให้เลือกไก่อุณหภูมิห้องจะดีกว่า สำหรับ เมนูอาหารจีนโบราณ เมนูนี้ เราควรเลือกไก่ส่วนที่มีเนื้อเยอะ ๆ เพราะถ้าปรุงเสร็จแล้วก็จะเลาะกระดูกออกให้หมด 

ไก่ แช่เหล้า เมนูอาหารจีนทำง่าย รสชาติอร่อย หอมกลิ่นเหล้า ลองแล้วจะติดใจ

ไก่แช่เหล้า

อย่างที่ทราบว่า เมนูไก่แช่เหล้า เป็นอาหารจีนพื้นบ้านที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย สำหรับสูตรที่เราแนะนำไปนั้นจะใช้เหล้าจีนและเหล้าบ๊วยเป็นส่วนผสม แต่ถ้าหากใครอยากจะใช้เหล้าชนิดอื่นก็ทำได้เช่นกัน ทั้งนี้จะต้องเป็นเหล้าที่เหมาะกับการปรุงอาหารด้วย สำหรับภัตตาคารอาหารจีน เมนูไก่แช่เหล้านั้นขึ้นชื่อมากพอสมควร หากใครชอบทานอาหารจีนก็คงพอจะทราบได้ว่าเมนูนี้เป็นหนึ่งใน อาหารจีนที่นิยม ในไทยอย่างกว้างขวาง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

ยำปลากระป๋อง สูตรคลีน เมนูลดน้ำหนักแบบประหยัด เนื้อปลาคุณภาพ โซเดียมและไขมันต่ำ 

ยำปลากระป๋อง

ปลากระป๋องถือเป็นอาหารประเภทหนึ่งที่คนไทยนิยมนำมาทำอาหาร โดยส่วนมากจะพบว่ามีการนำปลากระป๋องไปทำเป็นเมนูแกง ผัดและยำ ซึ่งเป็นส่วนประกอบหลักที่สามารถเข้ากับอาหารชนิดอื่น ๆ ได้ ด้วยความที่ปลากระป๋องเป็นผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูป ทำให้ง่ายต่อการนำมาทำเป็นเมนูต่าง ๆ นั่นจึงเป็นสาเหตุที่หลายคนนิยมทานปลากระป๋อง นอกจากนี้ยังมีราคาถูกอีกด้วย และถ้าหากกล่าวถึงเมนูปลากระป๋องยอดนิยมก็คงหนีไม่พ้นเมนู ยำปลากระป๋อง อย่างแน่นอน 

ยำปลากระป๋อง คลีน เมนูอาหารต้นทุนต่ำ ทำทานได้ทุกมื้อ เหมาะกับคนคุมน้ำหนัก

ยำปลากระป๋อง

หากญี่ปุ่นมีเมนูจากปลาทะเลอย่าง ซาซิมิ ไทยเราก็มีเมนูปลาทะเลอย่างปลากระป๋องเช่นกัน อาจจะดูแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่ปลาทะเลแทบทุกชนิดล้วนอุดมไปด้วยโปรตีน ดังนั้นจึงสามารถนำมาทำเป็น อาหารคลีน ได้ไม่ยาก แต่จำเป็นต้องเลือกให้ดี โดยเฉพาะปลากระป๋องถือเป็นอาหารสำเร็จรูปที่ขึ้นชื่อว่ามีโซเดียมสูง ฉะนั้นก่อนจะทำเมนู ยำ ปลากระป๋อง ทานเอง คุณต้องเลือกปลากระป๋องสูตรโซเดียมต่ำแต่มีโปรตีนสูง หากเลือกให้เหมาะกับคนลดน้ำหนักแล้วก็จะสามารถทานเป็น มื้อเย็นง่าย ๆ ได้อีกด้วย 

สูตร ยำปลากระป๋อง แบบคลีน ๆ เนื้อปลาไม่เละ ใช้เครื่องปรุงน้อย แต่รสชาติยังคงอร่อยแซ่บ

ยำปลากระป๋อง

หลายคนคงจะเคยได้ยินว่าอาหารกระป๋องเป็นอาหารที่มีโซเดียมสูง จึงไม่เหมาะกับคนลดน้ำหนัก และคนส่วนใหญ่จะนิยมทาน เมนูอกไก่ กันมากกว่า เพราะมีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ แต่ในความเป็นจริงแล้วยังมีปลากระป๋องบางรสหรือบางยี่ห้อที่มีปริมาณโซเดียมต่ำ เพราะฉะนั้นเรายังสามารถนำปลากระป๋องมาทำเป็น เมนูลดน้ำหนัก ได้ เพียงแค่ต้องเลือกใช้ให้เหมาะสม สำหรับใครที่กำลังหาเมนู อาหารคลีนแบบประหยัด ทำทานเองที่บ้านได้ไม่ยาก เราขอแนะนำ เมนูยำปลากระป๋อง บอกเลยว่าเป็นเมนูที่อร่อยและทำง่ายมาก ๆ 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ยำปลากระป๋อง
  1. ปลากระป๋องโรซ่า (ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ) 1 กระป๋อง
  2. พริกขี้หนู 3 เม็ด
  3. หอมแดง 1 หัว
  4. ตะไคร้ 1 ต้น
  5. มะนาว 1/2 ซีก
  6. ผักเคียงตามชอบ 

วิธีการทำยำปลากระป๋อง

ยำปลากระป๋อง
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบให้พร้อม โดยเริ่มจากการนำตะไคร้ หอมแดงและพริกขี้หนู มาล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วนำวัตถุดิบทั้งหมดมาหั่นซอยให้มีขนาดเล็ก เตรียมไว้ เทปลากระป๋องลงในภาชนะ 
  2. จากนั้นตักเนื้อปลาแยกออก เหลือไว้เพียงแค่น้ำปลากระป๋อง เสร็จแล้วใส่ตะไคร้ หอมแดงและพริกขี้หนูที่เตรียมไว้ลงไปผสมกับน้ำปลากระป๋อง คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปรุงรสด้วยการบีบมะนาวลงไปเล็กน้อย 
  3. จากนั้นคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง ขั้นตอนการจัดจาน นำเนื้อปลากระป๋องมาจัดวางใส่ถ้วยหรือจาน จากนั้นราดน้ำปลากระป๋องลงไป เสิร์ฟพร้อมกับผักเคียง เพียงเท่านี้ก็ถือเป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน 

เทคนิคเลือกปลากระป๋องให้เหมาะกับเมนู ยำปลากระป๋อง สูตรคลีน ลดน้ำหนักได้อย่างเห็นผล

ยำปลากระป๋อง

ถึงแม้ว่า อาหารคลีนทำเอง จะเป็นเมนูที่เราปรุงด้วยตัวเอง แต่การใช้ผลิตภัณฑ์อาหารสำเร็จรูปอย่างปลากระป๋องเข้ามาเป็นส่วนผสมจะทำให้เราควบคุมปริมาณไขมันและโซเดียมได้ยากขึ้น ฉะนั้นหากใครจะทำเมนู ยำ ปลากระป๋อง แบบคลีน ๆ แนะนำให้เลือกปลากระป๋องที่มีโซเดียมต่ำ ซึ่งสามารถดูรายละเอียดต่าง ๆ ได้ที่บรรจุภัณฑ์ วิธีนี้จะช่วยให้เราทราบว่าปลากระป๋องแบบไหนที่เหมาะกับเมนู มื้อเย็นไม่อ้วน รวมถึงมื้ออื่น ๆ ที่ต้องควบคุมปริมาณไขมันและโซเดียมด้วย 

ยำปลากระป๋องสูตรคลีน และสูตรทั่วไป แตกต่างกันอย่างไร

ยำปลากระป๋อง

ซา ชิมิ แต่ละสูตรใช้ปลาแตกต่างกันฉันใด ยำปลากระป๋องแต่ละสูตรก็ใช้ปลาไม่เหมือนกันฉันนั้น ต้องบอกว่าเมนูยำปลากระป๋องสูตรคลีนและสูตรทั่วไปนั้นจะแตกต่างกันตรงที่ตัวปลากระป๋องและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ใช้ปรุง หากเป็นสูตรคลีนสำหรับคน ลดน้ำหนัก จะนิยมใช้ปลากระป๋องที่มีโซเดียมและไขมันต่ำ นอกจากนี้จะไม่เน้นใส่เครื่องปรุงเยอะด้วย ในขณะที่สูตรทั่วไปจะไม่จำกัดการเลือกประเภทของปลากระป๋องและวัตถุดิบที่ใช้ปรุง จะเห็นได้ว่าแม้แต่ อาหารคลีนง่าย ๆ เราก็ยังต้องให้ความสำคัญกับวัตถุดิบทั้งหมดที่นำมาปรุง 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

แจกสูตร ไข่เจียวกุ้ง คลีน เมนูอาหารเพื่อสุขภาพที่คนลดน้ำหนักทานได้อย่างสบายใจ 

ไข่เจียวกุ้ง

ไข่เจียวเป็นเมนูอาหารง่าย ๆ ที่ใครก็สามารถทำทานเองได้ไม่ยาก เพราะใช้วัตถุดิบน้อยเมื่อเทียบกับเมนูอื่น ๆ นอกจากนี้ไข่เจียวยังมีหลายแบบอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นไข่เจียวหมูสับ ไข่เจียวกุ้ง ไข่เจียวชะอม และไข่เจียวทรงเครื่อง จะเห็นได้ว่าวัตถุดิบหลักก็ยังคงเป็นไข่เช่นเดิม แต่สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือส่วนผสมต่าง ๆ ซึ่งเราสามารถเลือกได้ตามความชอบ สำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักก็สามารถทอดไข่เจียวแบบคลีน ๆ ทานเองได้เช่นกัน เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารสุขภาพ ใครที่อยู่ในช่วงควบคุมน้ำหนัก ทำทานกันได้อย่างสบายใจได้เลยล่ะ

ไข่เจียวกุ้ง เมนูอาหารคลีนง่าย ๆ ใช้วัตถุดิบน้อย ทานมื้อไหนก็อิ่มอร่อยได้เช่นกัน

ไข่เจียวกุ้ง

ไข่เจียว กุ้ง สด เป็นเมนูอาหารประเภททอดที่ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะมีวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ แถมยังใช้วัตถุดิบน้อยอีกด้วย จึงเหมาะกับผู้ที่อยากทาน อาหารคลีนง่าย ๆ ในราคาประหยัด แม้ว่าจะเป็นอาหารประเภททอดและดูเหมือนว่าจะไม่เหมาะกับคน ลดน้ำหนัก แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าคนที่กำลังคุมน้ำหนักจะทานไม่ได้ เนื่องจากไขมันที่เราจะได้รับนั้นขึ้นอยู่กับน้ำมันที่ใช้เป็นหลัก ซึ่งในปัจจุบันมีน้ำมันหลายชนิดที่เป็นสูตรไขมันต่ำ เพราะฉะนั้นคนลดน้ำหนักไม่ต้องกังวลเลยว่าจะทานเมนู ไข่เจียว กุ้ง ไม่ได้ 

แนะนำสูตร ไข่เจียวกุ้ง คลีน สำหรับคนรักสุขภาพและคุมน้ำหนัก ทานมื้อไหนก็ไม่รู้สึกผิด

ไข่เจียวกุ้ง

สำหรับคนรักสุขภาพและคนที่กำลังคุมน้ำหนัก คุณสามารถทำ อาหารคลีนแบบประหยัด ทานเองที่บ้านได้แบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องเสียเวลาออกไปข้างนอก เพียงแค่มีวัตถุดิบหลักอย่างไข่ไก่หรือไข่เป็ด และกุ้งสด ก็สามารถลงมือทำได้แล้ว ทั้งนี้คุณจะต้องเลือกใช้น้ำมันให้เหมาะกับ เมนูลดน้ำหนัก ด้วย ต้องบอกว่าเมนูไข่เจียวกุ้ง นั้นเป็นเมนูที่สามารถทำทานได้ทุกมื้อเลย ใครที่ต้องการเมนูมื้อเช้า มื้อเที่ยง หรือแม้แต่ มื้อเย็นไม่อ้วน ก็สามารถทำเมนูนี้แบบคลีน ๆ ได้เลย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ไข่เจียวกุ้ง
  1. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  2. กุ้งสด 4 ตัว
  3. พริกเขียว (หั่น) 1 เม็ด
  4. พริกไทยป่น 1 1/2 ช้อนชา
  5. ต้นหอม (ซอย) 1 ต้น
  6. ผักชี (ซอย) 1 ต้น
  7. น้ำมันมะกอก

วิธี ทำ ไข่เจียว กุ้ง

ไข่เจียวกุ้ง
  1. ขั้นตอนแรกนำกุ้งสดมาแกะเปลือกและเอาเส้นดำออก จากนั้นนำไปล้างทำความสะอาดแล้วพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ ต่อมานำพริกเขียวมาหั่นเป็นท่อน ๆ ซอยต้นหอมและผักชี เสร็จแล้วพักไว้
  2. ขั้นตอนต่อมาตอกไข่ใส่ถ้วย ใส่กุ้งสดลงไป ตามด้วยพริกเขียว พริกไทยป่น ต้นหอมและผักชี ตีไข่ให้แตกและเข้ากับส่วนผสมทั้งหมด
  3. ตั้งกระทะแล้วฉีดสเปรย์น้ำมันมะกอกลงไปให้ทั่วก้นกระทะ เปิดไฟกลาง เมื่อน้ำมันร้อนได้ที่แล้วเทไข่ลงไปทอด ทอดให้สุกทั้งสองด้าน เสร็จแล้วปิดแก๊สและนำไข่จัดใส่จาน ถือเป็นอันเสร็จพร้อมรับประทาน 

เคล็ดลับทอด ไข่เจียวกุ้ง แบบคลีน ๆ ดีต่อสุขภาพในระยะยาว อิ่มอร่อยได้สไตล์คนลดน้ำหนัก

ไข่เจียวกุ้ง

การทอด ไข่เจียว กุ้ง แบบคลีน ๆ ให้เหมาะกับคนลดน้ำหนักสามารถทำได้ไม่ยาก เพียงแค่เลือกใช้น้ำมันมะกอกแบบสเปรย์ที่สามารถทนความร้อนได้สูงในการทอด โดยตั้งกระทะให้ร้อนแล้วฉีดน้ำมันลงไป จากนั้นนำไข่ลงไปทอด วิธีนี้สามารถใช้กับเมนู มื้อเช้าคลีน ๆ รวมถึงมื้ออื่น ๆ ของคุณได้เช่นกัน ซึ่งการใช้น้ำมันแบบสเปรย์จะทำให้คุณควบคุมปริมาณของน้ำมันได้ง่ายกว่า จึงเหมาะกับการทำเมนูไข่เจียวกุ้งและเมนู อาหารคลีน อื่น ๆ ที่ต้องใช้น้ำมันเป็นส่วนประกอบ 

ไข่เจียว กุ้ง เมนูอาหารคลีนง่ายแสนง่าย ใครทำก็อร่อยได้ทั้งนั้น

ไข่เจียวกุ้ง

หลายคนที่กำลังลดน้ำหนักอาจจะมองข้ามเมนูไข่เจียวไป เพราะคิดว่าการลดน้ำหนักจะต้องหลีกเลี่ยงอาหารทอด แต่จริง ๆ แล้วเมนูไข่เจียวถือเป็นเมนู อาหารคลีนทำเอง ง่าย ๆ ที่สามารถลดไขมันได้ด้วยการเลือกใช้น้ำมัน อีกทั้งยังสามารถทำทานได้ทุกมื้อด้วย ไม่เพียงแค่มื้อเช้าและมื้อเที่ยงเท่านั้น หากคุณต้องการอาหาร มื้อเย็นง่าย ๆ แบบคลีน ๆ เมนู ไข่เจียว กุ้ง ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่สามารถทำทานได้ ทั้งนี้ใครอยากจะทอดไข่เจียวกุ้งแบบธรรมดาหรือจะทำเป็น ไข่เจียว กุ้ง สับ ก็ได้เช่นกัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

เห็ดย่าง ซีอิ๊ว เมนูอาหารเพื่อสุขภาพรสเด็ด สำหรับคนชอบทานเห็ด ที่ใคร ๆ ก็ทานได้ 

เห็ดย่าง

เห็ดถือเป็นอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง โดยเห็ดจะมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ส่วนใหญ่ที่นิยมนำมาประกอบเป็นเมนูอาหารต่าง ๆ มักจะเป็นเห็ดหอม เห็ดออรินจิ เห็ดชิเมจิ และเห็ดเผาะ ทั้งนี้ยังมีเห็ดอีกหลายชนิดที่ไม่ได้กล่าวถึง เรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบชั้นยอดที่ให้สารอาหารไม่น้อยเลย นอกจากจะนำมาทำอาหารอร่อย ๆ ได้แล้ว เห็ดยังเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาทำเป็นเมนูคลีนลดน้ำหนักได้ด้วย อย่างเช่น เห็ดย่าง ถือเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

รู้จักเมนู เห็ดย่าง ซีอิ๊ว อาหารคลีนสำหรับคนรักสุขภาพ และคนลดน้ำหนัก

เห็ดย่าง

การนำเห็ดมาย่างกับซีอิ๊วเป็นวิธีทำอาหารที่ง่ายมาก ๆ หากใครที่กำลัง ลดน้ำหนัก แล้วไม่รู้จะกินอะไรดี เมนูนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย เพราะวัตถุดิบหลักมีเพียงแค่เห็ดเท่านั้น ซึ่งคุณสามารถใช้เห็ดชนิดใดก็ได้ที่เหมาะกับเมนู อาหารคลีน โดยเฉพาะ ทว่าส่วนมากจะนิยมทำเป็นเมนู เห็ด ออ ริน จิ ย่าง หรือจะใช้เห็ดชนิดอื่นก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแต่ละคน ทั้งนี้การทำ เห็ดย่าง ทานเองก็ควรจะคำนึงถึงปริมาณของส่วนผสมอื่น ๆ ให้ดีด้วย 

แจกสูตร เห็ดย่าง ซีอิ๊ว จากเห็ดออรินจิ อาหารคลีนง่าย ๆ ทำได้ไม่ยาก

เห็ดย่าง

สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักและอยากจะทาน มื้อเช้าง่าย ๆ ด้วยเมนูที่ทำจากเห็ดออรินจิ การนำเห็ดมาย่างก็น่าจะเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้ว เรียกว่าเป็น อาหารคลีนแบบประหยัด ที่ใช้วัตถุดิบน้อยมาก ๆ แต่ในเรื่องของรสชาติและกลิ่นหอมนั้นถือว่าไม่ธรรมดาเลย หากใครที่ชื่นชอบการทานเห็ดอยู่แล้วก็คงจะทานได้ไม่ยาก ถือเป็น เมนูลดน้ำหนัก ที่ใช้เวลาทำไม่นาน มาดูกันเลยว่าเมนู เห็ด ย่าง ซีอิ๊วจากเห็ดออรินจิมีวิธีทำอย่างไรบ้าง 

วัตถุดิบและส่วนผสม เห็ดย่างซีอิ๊ว

เห็ดย่าง
  1. เห็ดออรินจิ 8 ดอก
  2. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  3. ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  6. งาขาวคั่ว/งาดำคั่ว
  7. น้ำมันมะกอก 

วิธีการทำ เห็ดย่างซีอิ๊ว

เห็ดย่าง
  1. ขั้นตอนแรกนำน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำผึ้งและพริกไทยป่นมาผสมให้เข้ากัน เสร็จแล้วพักไว้ นำเห็ดออรินจิที่ล้างทำความสะอาดแล้วมาผ่าครึ่ง จากนั้นใช้มีดบั้ง เตรียมไว้
  2. ตั้งกระทะสำหรับย่างเห็ด ทาน้ำมันมะกอกลงไปให้ทั่วก้นกระทะเล็กน้อย จากนั้นนำเห็ดออรินจิลงไปย่างด้วยไฟกลาง ในระหว่างนี้หมั่นพลิกเห็ดกลับด้านไปมาเพื่อป้องกันไม่ให้ไหม้
  3. เมื่อย่างเห็ดจนเริ่มสุกแล้ว ราดน้ำซีอิ๊วลงไปบนเห็ดทั้งสองด้าน ย่างจนสุกได้ที่แล้วนำมาจัดใส่จาน โรยหน้าด้วยงาขาวและงาดำคั่ว ตกแต่งด้วยใบผักชีเล็กน้อย ถือเป็นอันเสร็จ 

เคล็ดลับการปรุง เห็ดย่าง ซีอิ๊วให้มีรสชาติกลมกล่อมแบบคลีน ๆ เหมาะกับการลดน้ำหนัก

เห็ดย่าง

แม้ว่าจะเป็น อาหารคลีนง่าย ๆ ที่ทำเองได้ไม่ยาก แต่ถ้าหากเราปรุงรสชาติให้เข้มข้นมากเกินไปก็อาจจะไม่ใช่อาหารลดน้ำหนักได้ สำหรับใครที่อยากทานเห็ดออรินจิย่างซีอิ๊วเป็นเมนู อาหารเช้าลดน้ำหนัก ควรปรุงรสแค่พอประมาณ รสชาติจะต้องไม่เค็มและหวานเกินไป ทั้งนี้ปริมาณของเครื่องปรุงจะต้องสัมพันธ์กับขนาดของวัตถุดิบด้วย เพราะเห็ดย่างของแต่ละคนจะมีขนาดไม่เท่ากัน 

แนะนำวิธีย่างเห็ดเองแบบง่าย ๆ ตามความสะดวก ทำแบบไหนได้บ้าง 

เห็ดย่าง

จริง ๆ แล้วการย่างเห็ดนั้นมีอยู่หลายวิธี หากใครต้องการทำ อาหารเช้าง่าย ๆ ในเวลาที่จำกัด แต่ไม่มีเตาหรือวัสดุสำหรับย่าง การนำเห็ดมาย่างบนกระทะก็น่าจะเป็นอะไรที่ง่ายที่สุดแล้ว หรือถ้าหากใครอยากลองวิธีอื่นก็ได้เช่นกัน อย่างเช่นการทำ เห็ด ย่าง เสียบ ไม้ แล้วย่างบนเตาถ่าน ถือเป็นวิถีดั้งเดิมที่คนโบราณนิยมทำกันมานาน เรียกว่าเป็น อาหารคลีนทำเอง ที่สามารถทำได้ง่ายมาก ๆ 

เห็ดย่างซีอิ๊ว เมนูอาหารลดน้ำหนักง่าย ๆ ที่ต้องควบคุมปริมาณส่วนผสมให้ดี

เห็ดย่าง

หากเป็นเมนูเห็ดย่างทั่วไปที่เน้นรสชาติอร่อยเป็นหลัก เราอาจจะนึกถึงเมนู เห็ด ออ ริน จิ ย่าง เนย หรือ เบคอน พัน เห็ด เสียบ ไม้ แต่ถ้าหากเป็นเมนูอาหารเพื่อสุขภาพ การนำเห็ดมาย่างนั้นจะต้องควบคุมเครื่องปรุงหรือส่วนผสมอื่น ๆ ให้ดี โดยเฉพาะเครื่องปรุงที่ให้รสหวานและรสเค็ม จำเป็นต้องกำหนดให้อยู่ในระดับพอดี อย่างไรก็ตามเมนูเห็ดย่าง ถือเป็นอาหารที่ให้พลังงานค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับเมนูอื่น ๆ หากใครอยากทาน อาหารเช้าคลีน ๆ เมนูนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

รวม 5 เมนู อาหาร เจ 7 11 รสชาติอร่อย ทานง่าย แถมยังได้ประโยชน์ 

อาหาร เจ 7 11

ในปัจจุบันอาหารเจหาทานได้ค่อนข้างง่าย หากใครไม่สะดวกทำทานเองก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านอาหารทั่วไปในเทศกาลกินเจ นอกจากนี้ยังมีขายในร้านสะดวกซื้อ7-11อีกด้วย จึงทำให้การกินเจในปัจจุบันเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกสบายอย่างมาก สำหรับบทความนี้เราขอนำเสนอ 5 เมนู อาหาร เจ 7 11 ที่น่าสนใจ รสชาติอร่อยใช้ได้ แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย 

5 เมนู อาหาร เจ 7 11 หน้าตาน่าทาน รสชาติอร่อย ลองแล้วต้องติดใจ

อาหาร เจ 7 11

อาหาร เจ คือ อาหารที่เน้นผักและโปรตีนจากพืชผัก จึงอาจไม่เหมาะกับผู้ที่ชอบกินเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่ชอบกินผักเลยอาจเป็นเรื่องยากที่จะกินเจ อย่างไรก็ตามยังมีอาหารเจบางเมนูที่มีรสชาติอร่อยแม้ไม่มีเนื้อสัตว์ แถมยังมีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย ซึ่งอาหารประเภทนี้สามารถหาซื้อได้ที่ร้านสะดวกซื้อ มาดูกันว่า อาหาร เจ7 11 ที่มีรสชาติอร่อยและน่าลองจะมีเมนูไหนบ้าง 

อาหาร เจ 7 11
  1. ผัดหมี่ฮ่องกงเจ

ผัดหมี่ฮ่องกงเป็นอาหารที่ขึ้นชื่ออยู่แล้ว แต่ในเวอร์ชั่นอาหารเจ หลายคนอาจสงสัยว่าจะมีรสชาติเป็นอย่างไร จริง ๆ แล้วเมนูนี้มีการใช้โปรตีนเกษตรเข้ามาเป็นส่วนประกอบด้วย ใครที่กำลังมองหา เมนู เจ 9 วัน ขอแนะนำเมนูนี้ให้เป็นหนึ่งในเมนูเจที่อยู่ในลิสต์ เพราะเป็นผัดหมี่ที่มีรสสัมผัสเหนียวนุ่ม ผ่านการผัดซอสจนมีรสชาติกลมกล่อม นอกจากโปรตีนเกษตรแล้วก็ยังมีผักต่าง ๆ อีกด้วย โดยรวมถือเป็น อาหารเจ 7 11 ที่น่าทานมาก ๆ 

อาหาร เจ 7 11
  1. ข้าวผัดห้าเซียนเจ

หากใครที่ชอบทานข้าวผัดต้องไม่พลาดกับเมนูนี้ กินเจทั้งทีต้องมีเมนูที่ตัวเองชอบบ้าง สำหรับข้าวผัดห้าเซียนเจนี้จะเป็น อาหารเจ ที่ใช้ข้าวหอมมะลิเป็นวัตถุดิบหลัก นอกจากนี้ยังมีแครอท เผือก เห็ดหอม ถั่วลันเตา และแปะก๊วย ซึ่งคำว่าห้าเซียนก็มาจากผัก 5 ชนิดนี้เอง ถือเป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับอาหาร เจ 7-11 ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว โดยหน้าตาของเมนูนี้ก็น่ารับประทานอยู่แล้ว สำหรับคนที่ชอบทานข้าวผัดน่าจะถูกใจอยู่ไม่น้อย 

อาหาร เจ 7 11
  1. ไก่ป๊อบเจทอดคั่วพริกเกลือ

แม้ว่าชื่อเมนูนี้จะมีคำว่าไก่ แต่ทว่าเป็นเมนูไก่เจที่ใช้โปรตีนเกษตร ผ่านการปรุงด้วยน้ำมันถั่วเหลือง น้ำตาลทราย เครื่องปรุงรส ซีอิ๊วขาว พริกป่นและพริกไทย เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเรื่องรสชาติเลย เชื่อว่าคนทั่วไปทานได้แน่นอน เพราะเนื้อสัมผัสไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะทานเล่นหรือทานกับข้าวก็ได้เช่นกัน จะเรียกว่าเป็นเมนู กับข้าว เจ ก็คงไม่ผิดนัก สำหรับใครที่ชอบทานไก่ทอด เมนู อาหาร เจ นี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ไม่น้อย 

อาหาร เจ 7 11
  1. เป๋าฮื้ออบวุ้นเส้นเจ

ใครที่ชอบทานเมนูผัดวุ้นเส้นน่าจะถูกใจเมนูนี้พอสมควร แม้ว่าจะไม่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ แต่เชื่อว่า เมนูอาหาร เจ นี้ทานได้ไม่ยาก เพราะหน้าตาดูน่ารับประทานอยู่ไม่น้อย เรียกว่าเป็นวุ้นเส้นที่เหนียวนุ่ม รสชาติกลมกล่อม มีทั้งหอยเป๋าฮื้อ เห็ดหอม กะหล่ำปลีและแครอท ไม่เพียงแค่ได้ความอร่อยเท่านั้น แต่เมนูนี้ยังมีประโยชน์อีกด้วย เพราะวัตถุดิบหลักอย่างหอยเป๋าฮื้ออุดมไปด้วยวิตามินบีหลายชนิด นับเป็นอีกหนึ่งอาหาร เจ 7 11 ที่น่าสนใจทีเดียว 

อาหาร เจ 7 11
  1. ข้าวกะเพราเจ

เชื่อว่าหลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเมนูนี้เป็นอย่างดี เพราะจัดเป็นเมนูเจยอดฮิตที่พบเห็นได้ค่อนข้างบ่อย ซึ่งจะเป็นสูตรจากเชฟกระทะเหล็ก จึงไม่ต้องห่วงว่าจะอร่อยหรือไม่ เรียกว่าเป็น เมนู อาหารเจ ทำ เอง ได้ง่าย ๆ แต่หาทานได้ใน 7-11 โดยในเมนูนี้จะมีเต้าหู้เหลืองเป็นวัตถุดิบหลัก ซึ่งเป็นการเพิ่มโปรตีนให้กับอาหาร ส่วนรสชาติจะออกเค็มและหวาน มาพร้อมกับกลิ่นหอมของใบกะเพรา โดยรวมถือเป็น อาหารเจ711 ที่น่าสนใจมากทีเดียว 

เหตุผลที่ควรเลือกทาน อาหารเจ 7 11 มีข้อดีอย่างไร

อาหาร เจ 7 11

จริง ๆ แล้วการทำอาหารเจทานเองเป็นเรื่องที่ไม่ยากนัก แต่สำหรับคนที่ทำอาหารไม่เป็นหรือไม่มีเวลาทำ การซื้อ อาหาร เจใน เซ เว่น ทานก็ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ นอกจากความสะดวกสบายแล้ว ข้อดีของการซื้ออาหารเจใน 7-11 คือเราสามารถดูรายละเอียดของเมนูนั้น ๆ ได้ว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง และปริมาณเท่าใด ซึ่งเหมาะกับคนคุมน้ำหนัก เพราะสามารถคำนวณปริมาณแคลอรี่ได้ นอกจากนี้ เมนูอาหาร เจจาน เดียว ยังมีหลายเมนูให้เลือกอีกด้วย จึงกล่าวได้ว่าการเลือกทานอาหาร เจ7 11มีข้อดีไม่น้อยเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

เปาะเปี๊ยะ ทอดไส้กุ้งรวมมิตร แป้งกรอบ เนื้อแน่น อร่อยฟิน เมนูอาหารว่างทำทานง่าย 

เปาะเปี๊ยะ

ถ้ากล่าวถึงอาหารไทยหลาย ๆ เมนู ไม่ว่าจะเป็นอาหารมื้อหลักหรืออาหารทานเล่น ต้องบอกว่าหลาย ๆ เมนูได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติ โดยเฉพาะอาหารว่างหรืออาหารทานเล่น หลายเมนูได้รับอิทธิพลมาจากจีน ต่อมาถูกปรับสูตรการปรุงให้ถูกปากคนไทยมากขึ้น บทความนี้จะกล่าวถึงเมนูที่มีชื่อว่า เปาะเปี๊ยะ ถือเป็นอาหารทานเล่นชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากในไทย ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังคงมีให้เห็นอยู่เรื่อย ๆ นั่นเป็นเพราะว่าเมนูนี้ทำได้ง่าย แถมทานแล้วยังอิ่มท้องอีกด้วย 

เปาะเปี๊ยะ อาหารทานเล่นยอดนิยม เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้ม ทานเวลาไหนก็อร่อย

เปาะเปี๊ยะ

อาหารทานเล่นอย่าง เปาะ เปี๊ยะ ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่คนไทยชอบทานเป็นอาหารว่างหรือทานรองท้องแทนข้าว เนื่องจากเป็นอาหารที่ทำจากแผ่นแป้งสาลี ห่อด้วยไส้ต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะประกอบด้วยหมูสับหรือกุ้ง วุ้นเส้น เห็ด กะหล่ำปลีและแครอท ทำให้มีสารอาหารเพียงพอที่ช่วยให้อิ่มท้องได้ หลายคนจึงมักจะรับประทานแทนข้าวในบางเวลา หรือจะทานเล่นในเวลาว่างก็อร่อยเพลินได้เช่นกัน นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เปาะเปี๊ยะ ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน 

เผยสูตร เปาะเปี๊ยะ ทอดไส้กุ้งรวมมิตร มีทั้งกุ้งและหมูสับ พร้อมเครื่องต่าง ๆ ทานแล้วอร่อยลงตัว

เปาะเปี๊ยะ

เมนูอาหารทานเล่นชนิดนี้จะมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ เปาะเปี๊ยะสด ห่อด้วยไส้ถั่วงอกลวก หมูตั้ง กุนเชียง เต้าหู้เค็มและแตงกวา จากนั้นราดน้ำปรุงเหนียว ๆ รสหวานเค็ม โรยหน้าด้วยเนื้อปูและไข่เจียวหั่นฝอย นิยมทานกับต้นหอมและพริกสด และอีกแบบจะเป็น เปาะเปี๊ยะทอด ห่อไส้วุ้นเส้น ถั่วงอกและเนื้อสัตว์ผัดสุก เสร็จแล้วนำไปทอด ทานกับน้ำจิ้มรสหวานอมเปรี้ยวและผักสด และสำหรับวันนี้เราขอนำเสนอ ปอ เปี๊ยะ ทอด สูตรโบราณ มาดูกันว่าจะมีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง 

วัตถุดิบและส่วนผสม

เปาะเปี๊ยะ
  1. แป้งเปาะเปี๊ยะ 20 แผ่น
  2. กุ้ง 20 ตัว
  3. หมูสับ 1 กิโลกรัม
  4. วุ้นเส้น (ตามต้องการ)
  5. เห็ดหอม 5 ดอก
  6. แครอท 1 หัว
  7. กะหล่ำปลี 1/2 หัว
  8. รากผักชี 3 ราก
  9. กระเทียม 10 กลีบ
  10. พริกไทยดำเม็ด 2 ช้อนชา
  11. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  12. ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
  13. น้ำมันงา 2 ช้อนโต๊ะ
  14. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
  15. ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนชา
  16. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
  17. น้ำมันสำหรับผัด/ทอด

วิธีการทำเปาะเปี๊ยะ

เปาะเปี๊ยะ
  1. นำเห็ดหอมมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ตามด้วยซอยกะหล่ำปลีเป็นเส้น ๆ นำแครอทมาปอกเปลือกและขูดเป็นเส้น ๆ เสร็จแล้วพักไว้
  2. นำรากผักชี กระเทียมและพริกไทยดำเม็ด มาตำให้เข้ากันจนละเอียด จากนั้นตั้งกระทะแล้วเทน้ำมันลงไปนิดหน่อย ตามด้วยส่วนผสมที่ตำไว้เมื่อสักครู่ ผัดจนมีกลิ่นหอมแล้วใส่หมูสับตามลงไป ผัดให้เข้ากัน
  3. หลังจากผัดหมูสุกแล้ว ต่อมาใส่เห็ดหอมลงไปผัดจนสุก ตามด้วยกะหล่ำปลี แครอทและวุ้นเส้น เสร็จแล้วผัดให้ส่วนผสมทั้งหมดเข้ากัน
  4. ปรุงรสด้วยน้ำมันงา พริกไทยป่น ซีอิ๊วดำ ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาวและน้ำตาลทราย ผัดให้ส่วนผสมเข้ากันและปิดแก๊สได้เลย
  5. นำแผ่นเปาะเปี๊ยะทั้ง 20 แผ่นมาวางซ้อนกัน จากนั้นผ่าแบ่งครึ่งเตรียมไว้ ต่อมาเริ่มห่อเปาะเปี๊ยะทีละแผ่น โดยวางแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะไว้เป็นแนวตั้ง ตักไส้ใส่ลงตรงกลางของส่วนล่างสุดของแผ่นแป้ง 
  6. จากนั้นวางกุ้งสดทับด้านบนเป็นแนวนอน ม้วนแป้งจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน เมื่อม้วนได้ครึ่งหนึ่งของแผ่นแป้งแล้ว ใช้นิ้วแตะน้ำและทาลงบนขอบแผ่นแป้ง พับขอบแป้งซ้าย-ขวาเข้าด้านใน และม้วนแป้งขึ้นไปจนสุดขอบ
  7. ขั้นตอนการทอดเปาะเปี๊ยะ ตั้งกระทะแล้วเทน้ำมันลงไปเยอะ ๆ กะปริมาณให้ท่วมเปาะเปี๊ยะในขณะทอด เริ่มทอดด้วยไฟกลาง 
  8. ในระหว่างทอดให้คนไปมาเรื่อย ๆ เพื่อให้ตัวแป้ง รวมถึงกุ้งด้านในสุกอย่างทั่วถึง .เมื่อทอดจนสุกเหลืองสวยงามแล้ว ตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มและผักตามต้องการ 

เคล็ดลับการทอดเปาะเปี๊ยะ ให้สุกกรอบ ไม่อมน้ำมัน ทานแล้วสุขภาพดี

เปาะเปี๊ยะ

การทอด แป้ง เปาะเปี๊ยะ ให้สุกกรอบแบบไม่อมน้ำมันนั้นสามารถทำได้ง่าย ๆ โดยทั่วไปจะแนะนำให้ใส่น้ำมันลงในหม้อหรือกระทะเยอะ ๆ ให้ท่วมตัวเปาะเปี๊ยะ จากนั้นตั้งไฟให้น้ำมันร้อนจัดแล้วค่อยนำเปาะเปี๊ยะลงไปทอด สิ่งสำคัญของการทอดก็คือน้ำมัน แนะนำให้ใช้น้ำมันรำข้าว เพราะทนความร้อนได้สูง ทั้งยังมีสารธรรมชาติที่ช่วยลดคอเลสเตอรอลและต้านอนุมูลอิสระได้อีกด้วย จะช่วยให้ ปอเปี๊ยะ ทอด มีแป้งสุกกรอบแบบไม่อมน้ำมัน และเราสามารถทานเปาะเปี๊ยะได้อย่างสบายใจด้วย 

เปาะเปี๊ยะ อาหารที่มีต้นกำเนิดมาจากจีน แต่ได้รับความนิยมในไทยและเวียดนาม

เปาะเปี๊ยะ

หลายคนอาจเคยได้ยินว่าเปาะเปี๊ยะเป็นเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมมากในประเทศเวียดนาม จึงสงสัยว่าจริง ๆ แล้วอาหารชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากที่ใดกันแน่ ต้องบอกว่าเวียดนามก็ได้รับอิทธิพลมาจากจีนในอดีตเช่นเดียวกับไทย แต่วัตถุดิบที่ใช้จะแตกต่างกัน สำหรับเปาะเปี๊ยะเวียดนามจะใช้แป้งของเวียดนามโดยเฉพาะ ต่างจากของจีนและไทยที่ใช้แผ่นแป้งสาลี และนอกจาก ปอเปี๊ยะกุ้ง แล้วยังมี ปอเปี๊ยะทอดไส้ต่างๆ ให้เลือกทานอย่างหลากหลายด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

รู้จักกับ มัสมั่นไก่ เมนูอาหารไทยดังไกลระดับโลก พร้อมเผยสูตรการทำแบบไม่ยุ่งยาก 

มัสมั่นไก่

อาหารไทยถือเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยมากยิ่งขึ้น เรียกว่าเป็นซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) อย่างหนึ่งที่สามารถดึงดูดให้ชาวต่างชาติหันมาสนใจประเทศไทยได้ โดยในแต่ละปีจะมีการจัดอันดับอาหารอร่อยที่สุดในโลก และในบรรดาอาหารไทยที่มักจะติดอันดับต้น ๆ คงหนีไม่พ้นต้มยำกุ้งและแกงมัสมั่น โดยเฉพาะเมนู มัสมั่นไก่ ถือว่าเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของใครหลายคนเลยก็ว่าได้ 

ทำความรู้จักเมนู มัสมั่นไก่ มีที่มาอย่างไร ทำไมถูกใจคนทั่วโลก

มัสมั่นไก่

ต้องบอกว่า มัสมั่น ในประเทศไทยนั้นมีมาตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ซึ่งถูกนำเข้าโดยแขกเปอร์เซีย หรือชาวอิหร่าน นับเป็นการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมทางอาหารระหว่างไทยและเปอร์เซีย ต่อมาเมนูนี้ถูกบรรจุให้อยู่ในทำเนียบอาหารไทยในสมัยรัชกาลที่ 2 จึงกลายเป็น เมนู อาหาร ไทย จนถึงทุกวันนี้ แต่ทว่าตำรับอาหารไทยนั้นได้รับอิทธิพลมาจากอาหารมลายู ซึ่งมีอยู่หลายสูตรด้วยกัน โดยส่วนมากจะนิยมทำเป็น มัสมั่น ไก่ ด้วยความที่มีรสชาติอร่อย กลมกล่อมและไม่เผ็ดมาก จึงเป็นเมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ ถูกใจคนทั่วโลก

เผยสูตร มัสมั่นไก่ เมนูอาหารไทยรสชาติเข้มข้น เนื้อสัมผัสดี ๆ ทำทานเองได้ที่บ้าน

มัสมั่นไก่

แกง มัสมั่น เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยากนัก แต่ในความง่ายก็ยังคงมีความยากอยู่บ้าง เพราะการจะทำให้อร่อยได้นั้นจำเป็นต้องเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะ แกง มัสมั่น ไก่ สูตร โบราณ จะต้องใช้พริกแกงที่ตำเอง หรือพริกแกงที่เหมาะกับการทำมัสมั่นโดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังต้องใช้เวลาและความพิถีพิถันอยู่พอสมควร เรียกว่าเป็น อาหาร ไทย โบราณ ที่มีความยากและง่ายในเวลาเดียวกัน อย่างไรก็ตามหากคุณอยากลองทำทานเอง เรามี สูตรมัสมั่นไก่ มาแนะนำด้วย

วัตถุดิบและส่วนผสม

มัสมั่นไก่
  1. เนื้อไก่ 1,000 กรัม
  2. มันฝรั่ง (หั่นชิ้น) 600 กรัม
  3. หอมใหญ่ (หั่น) 300 กรัม
  4. หัวกะทิ 600 กรัม
  5. หางกะทิ 600 กรัม
  6. ลูกกระวาน 10 กรัม
  7. ใบกระวาน 2 กรัม
  8. ถั่วลิสงคั่ว 50 กรัม
  9. พริกแกงมัสมั่น 150 กรัม
  10. น้ำมะขามเปียก 4 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำตาลปี๊บ 5 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำปลา 6 ช้อนโต๊ะ 

วิธีทำการทำมัสมั่นไก่

มัสมั่นไก่
  1. แบ่งหัวกะทิไว้ 3 ส่วน ขั้นตอนแรกเทหัวกะทิส่วนแรกลงในหม้อ เคี่ยวด้วยไฟกลาง-อ่อน จนข้นและแตกมัน หลังจากนั้นเทหัวกะทิส่วนที่ 2 ลงไป เคี่ยวจนแตกมันอีกครั้งและใส่พริกแกงมัสมั่นลงไป ผัดให้เข้ากันจนมีกลิ่นหอม
  2. ปรุงรสด้วยน้ำตาลปี๊บ น้ำมะขามเปียกและน้ำปลา คนให้เข้ากันจนน้ำตาลปี๊บละลาย เสร็จแล้วลองชิมรสและปรุงเพิ่มได้ตามต้องการ
  3. เทหัวกะทิส่วนสุดท้ายลงไป คนให้เข้ากันและรอจนเดือด ใส่เนื้อไก่ลงไป ตามด้วยลูกกระวานและใบกระวาน เสร็จแล้วราดหางกะทิลงไป ในระหว่างนี้ให้ใช้ไฟแรง จากนั้นคนเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ส่วนผสมด้านล่างติดก้นหม้อ
  4. เมื่อน้ำแกงเริ่มเดือดแล้วให้ปรับเป็นไฟกลาง ต้มไก่ให้สุกประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นพลิกไก่กลับด้านให้สุกอย่างทั่วถึง
  5. หลังจากต้มไก่จนสุกแล้ว ใส่มันฝรั่งและหอมใหญ่ลงไป ใช้ทัพพีกดลงให้จมน้ำและเร่งไฟแรง ต้มต่ออีกประมาณ 10-15 นาที หลังจากน้ำ แกง มัสมั่น ไก่ เดือดแล้วให้ปรับเป็นไฟกลาง-อ่อน
  6. เมื่อมันฝรั่งสุกดีแล้ว ใส่ถั่วลิสงคั่วลงไป ต้มจนทุกอย่างสุกและลองชิมรส หากได้รสชาติตามต้องการแล้วสามารถปิดแก๊สได้เลย

เคล็ดลับการปรุงแกงมัสมั่นไก่ ให้อร่อยลงตัว ได้เนื้อสัมผัสที่ใช่ และรสชาติที่ชอบ

มัสมั่นไก่

แม้ว่าจะเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม แต่การจะทำ มัสมั่น ไก่ ให้อร่อยถูกปากทุกคนนั้นคงเป็นเรื่องยาก เพราะความชอบของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การจะทำมัสมั่นไก่ให้น่าทานจำเป็นต้องเพิ่มความหอมด้วยเครื่องเทศอย่างลูกกระวานและใบกระวาน แต่หากใครไม่ชอบก็ไม่ต้องใส่ และสำหรับใครที่ไม่อยากให้มันฝรั่งเปื่อยเละจนเกินไป แนะนำให้ใส่มันฝรั่งหลังจากต้มไก่จนสุกแล้ว ในส่วนของเนื้อสัตว์ก็สามารถใช้เนื้อวัวหรือเนื้อหมูแทนเนื้อไก่ได้ นอกจากนี้ควรใส่เครื่องปรุงทีละน้อย ๆ และชิมรสหลังจากปรุงเสร็จทุกครั้ง 

มัสมั่นไก่เมนูอาหารไทยชื่อดัง ทานคู่กับอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตได้อย่างหลากหลาย

มัสมั่นไก่

อาหาร ไทย อย่างมัสมั่นมีรสชาติอร่อยกลมกล่อม ไม่เผ็ดมาก และมาพร้อมกับกลิ่นหอมของวัตถุดิบและพริกแกง อีกทั้งยังสามารถทานได้หลายวิธี จึงเป็นหนึ่งใน เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ไม่เพียงแค่ทานคู่กับข้าวได้เท่านั้น แต่เรายังสามารถทาน มัสมั่น ไก่ คู่กับขนมปัง แป้งโรตี สปาเก็ตตี้และเส้นพาสต้าได้อีกด้วย ถ้าเปรียบการกินแบบไทย ๆ เมนูนี้ก็ถือเป็น อาหาร ไทย 4 ภาค เลยก็ว่าได้

อ่านบทความอื่นๆ: