Categories
สูตรอาหาร

แจกสูตร ก๋วยเตี๋ยว หลอด ทรงเครื่องสูตรโบราณ ทำทานได้ง่าย อิ่มอร่อยเครื่องแน่น

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองท่องเที่ยวที่โดดเด่นในเรื่องอาหารและวัฒนธรรม โดยเฉพาะอาหารไทยนั้นขึ้นชื่อมาก ๆ และต้องบอกว่าอาหารไทยหลายเมนูมักได้รับอิทธิพลมาจากต่างชาติ อย่างเช่นเมนูก๋วยเตี๋ยวที่ไทยได้รับอิทธิพลมาจากจีน จนกระทั่งเมนูนี้กลายเป็นอาหารยอดนิยมของคนไทย นอกจากก๋วยเตี๋ยวแบบธรรมดาแล้ว ยังมี ก๋วยเตี๋ยว หลอด ที่ได้รับความนิยมในอดีต แม้ว่าในยุคนี้จะหาทานได้ยากกว่าในอดีต แต่เมนูดังกล่าวก็มีวิธีทำค่อนข้างง่าย เราสามารถทำทานเองได้ไม่ยากเลย 

ชวนย้อนอดีตกับเมนู ก๋วยเตี๋ยว หลอด ทรงเครื่อง อาหารจีนได้รับความนิยมในไทย

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

ก๋วยเตี๋ยวหลอด เป็นเมนูอาหารชนิดหนึ่งที่ไทยได้รับอิทธิพลมาจากจีน ซึ่งถือกำเนิดมาจากมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ทว่าในอดีตเมนูนี้จะทำโดยการนำแผ่นก๋วยเตี๋ยวนึ่งมาห่อไส้ต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะนิยมห่อไส้กุ้ง เสร็จแล้วม้วนแผ่นก๋วยเตี๋ยวให้เป็นหลอด และตัดแบ่งเป็นท่อน ๆ รับประทานโดยการราดซีอิ๊วขาวและซีอิ๊วดำลงไป นับเป็น อาหารจีน ที่คนไทยคุ้นเคยเป็นอย่างดี แม้ว่าในปัจจุบันก๋วยเตี๋ยว หลอด จะหาทานได้ยากกว่าในสมัยก่อนก็ตาม 

แนะนำ ก๋วยเตี๋ยว หลอด ทรงเครื่อง สูตรโบราณ ทำทานเองได้ง่าย เครื่องเยอะ 

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

หากใครอยากทานเมนู ก๋ ว ย เตียว หลอด ทรงเครื่อง เรามีสูตรการทำมาแนะนำด้วย บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำได้ไม่ยากนัก สำหรับใครที่รู้สึกว่าเมนูนี้หาทานได้ยากจริง ๆ ก็ไม่ต้องห่วงเลย เพราะเราสามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่เตรียมวัตถุดิบและส่วนผสมให้พร้อม จากนั้นลงมือทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำ รับรองว่าทุกคนก็จะได้ ก๋วยเตี๋ยวหลอด ทรงเครื่องทานกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพก็ทำได้เช่นกัน เพราะฉะนั้นหากใครสนใจอยากทำทานเอง มาดู สูตรก๋วยเตี๋ยว หลอด โบราณ กันได้เลย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ก๋วยเตี๋ยว หลอด
  1. เส้นก๋วยเตี๋ยวหลอด 1 กิโลกรัม
  2. กระดูกเล้ง 500 กรัม
  3. หมูสามชั้น 500 กรัม
  4. มันหมู 300 กรัม
  5. เต้าหู้นิ่ม 3 ก้อน
  6. สามเกลอโขลก 50 กรัม
  7. ไชโป๊ 300 กรัม
  8. กระเทียมสับ 200 กรัม
  9. โป๊ยกั๊ก 5 ดอก
  10. อบเชย 5 แท่ง
  11. น้ำตาลปี๊บ 200 กรัม
  12. ซอสปรุงรสฝาเขียว 4 ช้อนโต๊ะ
  13. ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ
  14. ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
  15. เกลือ 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
  16. น้ำเปล่า 3.5 ลิตร
  17. น้ำมันพืช
  18. ต้นหอมผักชีซอย (สำหรับโรยหน้า) 

วิธี ทำ ก๋ ว ย เตียว หลอด ทรงเครื่องโบราณ

ก๋วยเตี๋ยว หลอด
  1. เริ่มจากตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือด จากนั้นใส่กระดูกเล้งลงไป ตามด้วยโป๊ยกั๊ก สามเกลอ น้ำตาลปี๊บ เกลือ ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว และซีอิ๊วดำ เสร็จแล้วปิดฝาและต้มทิ้งไว้ 30 นาที
  2. ขั้นตอนต่อมาเตรียมเครื่องต่าง ๆ เริ่มจากตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป นำเต้าหู้ลงไปทอดจนสุกและนำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน ตามด้วยทอดหมูสามชั้นพอให้สุกเหลือง นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน 
  3. ต่อด้วยทอดมันหมูให้สุก จากนั้นใส่กระเทียมสับลงไปเจียวให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ ปิดท้ายด้วยการนำไชโป๊ลงไปเจียวจนเหลืองและตักใส่ภาชนะ
  4. นำเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดใส่ลงในกระทง จากนั้นนำไปนึ่งประมาณ 15 นาที เสร็จแล้วนำออกจากหม้อนึ่ง พักไว้ นำเต้าหู้และหมูสามชั้นที่ทอดไว้มาหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ 
  5. จากนั้นนำใส่ในหม้อน้ำซุปที่ต้มไว้ เคี่ยวต่ออีก 5 นาที เสร็จแล้วยกลงจากเตา นำถั่วงอกมาลวกให้พอสุก เสร็จแล้วตักใส่ภาชนะ
  6. ขั้นตอนการจัดเสิร์ฟ เริ่มจากนำเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดใส่ลงในจาน ตามด้วยถั่วงอก ใส่เครื่องและราดน้ำซุปลงไป แต่งหน้าด้วยไชโป๊ กระเทียมเจียว และต้นหอมผักชีซอย ถือเป็นอันเสร็จ 

เคล็ดลับการทำ ก๋วยเตี๋ยว หลอด ทรงเครื่องให้อร่อยไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวทั่วไป

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

เด็กวัยรุ่นสมัยใหม่อาจจะคุ้นเคยกับ ก๋วยเตี๋ยว น้ำกันมากกว่า เพราะเป็นอาหารที่หาทานได้ง่าย แต่ถ้าหากพูดถึงเมนูก๋วยเตี๋ยว หลอด ปฏิเสธไม่ได้ว่าบางพื้นที่หาทานได้ยากมาก เพราะไม่ค่อยมีใครทำขายนั่นเอง แต่บอกเลยว่าความอร่อยนั้นไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวน้ำอย่างแน่นอน สำหรับเคล็ดลับ อาหารจีนทำเอง การจะทำให้เมนูนี้อร่อยไม่แพ้ก๋วยเตี๋ยวน้ำจะต้องเลือกวัตถุดิบสดใหม่ และควรใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการปรุงน้ำซุป และการทอดเครื่องต่าง ๆ ควรทำแต่ละขั้นตอนอย่างพิถีพิถัน 

สุดยอดเมนูอาหารโบราณ ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง อร่อยแถมมีประโยชน์มากมาย

ก๋วยเตี๋ยว หลอด

จะเห็นได้ว่า ก๋วยเตี๋ยวหลอด โบราณ เป็นเมนูอาหารที่ทำได้ไม่ยากเลย ขั้นตอนการทำนั้นค่อนข้างง่าย ไม่ได้มีความซับซ้อนแต่อย่างใด สำหรับใครที่อยู่บ้านคนเดียวว่าง ๆ ก็สามารถนำ สูตรก๋วยเตี๋ยวหลอด ที่เราแนะนำไปลองทำตามกันได้เลย รับรองว่าจะได้ทั้งความอิ่ม ความอร่อยและได้รับประโยชน์มากมาย เรียกว่าเป็นเมนูอาหารจีนที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย จะทำทานเองก็ได้ หรือทำขายก็ดี ใครอยากทานอาหารโบราณ เราขอ แนะนำอาหารจีน เมนูนี้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

แจกสูตร ทอดมันกุ้ง เนื้อเด้งฉ่ำ ๆ รสชาติอร่อยกลมกล่อม เคี้ยวได้แบบเพลิน ๆ

ทอดมันกุ้ง

หากพูดถึงเรื่องอาหารแล้ว คนไทยเราก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ เนื่องจากประเทศของเรามีเมนูอาหารที่หลากหลาย นอกจากเมนูอาหารทานกับข้าวแล้ว เมนูอาหารทานเล่นของไทยก็ขึ้นชื่อเช่นเดียวกัน และถ้าให้นึกถึงอาหารทานเล่นที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยจะนึกถึงเมนู ทอดมันกุ้ง ต้องบอกว่าเมนูนี้มาแรงมาก ๆ ไม่ว่าจะไปทานอาหารที่ไหนก็มักจะเห็นอยู่บ่อย ๆ หลายคนจึงคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็ก ๆ หลายคนจะชอบเมนูนี้เป็นพิเศษ 

รู้จัก ทอดมันกุ้ง เมนูอาหารแสนง่าย ทานเล่นก็ได้ ทานคู่กับข้าวก็อร่อยดี

ทอดมันกุ้ง

ทอดมัน กุ้ง เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบัน เพราะสามารถหาทานได้ง่าย ไม่ว่าจะทานกับข้าวหรือทานเปล่า ๆ ก็อร่อยเช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล อย่างไรก็ตามเมนูดังกล่าวได้กลายเป็น อาหาร ไทย ยอดนิยมที่พบได้บ่อยในร้านอาหาร ส่วนใหญ่คนมักจะสั่งมาทานเล่นหรือทานเป็นของว่าง โดยจะนิยมทานคู่กับน้ำจิ้มบ๊วยหรือน้ำจิ้มอาจาด หากเป็นทอดมันกุ้ง ที่ใช้เนื้อกุ้งล้วนก็จะให้รสสัมผัสแตกต่างจากทอดมันกุ้งที่ใช้มันหมูหรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ มาเป็นส่วนผสม 

แชร์สูตรการทำ ทอดมันกุ้ง ง่าย ๆ แป้งกรอบ เนื้อเด้ง รสชาติอร่อยลงตัว 

ทอดมันกุ้ง

ต้องบอกว่า เมนู อาหาร ไทย ชนิดนี้ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน สำหรับใครที่อยากฝึกทำอาหารทานเอง เมนูนี้ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะขั้นตอนการทำค่อนข้างง่าย เพียงแค่นำเนื้อกุ้งมาสับพอละเอียดแล้วนำไปผสมกับวัตถุดิบอื่น ๆ จากนั้นปั้นให้เป็นทรงกลมและเคลือบด้วยเกล็ดขนมปัง เสร็จแล้วนำไปทอดจนสุก เพียงเท่านี้ก็จะได้ ทอดมัน กุ้ง มาทานแล้ว สำหรับใครที่อยากทำเมนูนี้ทานเองที่บ้าน วันนี้เราก็มี สูตร ทอดมัน กุ้ง แบบละเอียดมาฝากกันด้วย บอกเลยว่าสูตรนี้เนื้อแน่น เด้งและกรอบ ทานกับอะไรก็อร่อยลงตัว 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ทอดมันกุ้ง
  1. กุ้งสด 2 กิโลกรัม
  2. มันหมูบด 1 กิโลกรัม
  3. ไข่ไก่ 2 ฟอง
  4. กระเทียม 10 กลีบ
  5. รากผักชี 5 ราก
  6. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 3 ช้อนชา
  8. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  9. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  10. แป้งทอดกรอบ 8 ช้อนโต๊ะ
  11. เกล็ดขนมปัง
  12. น้ำมันสำหรับทอด 

วิธี ทำ ทอดมัน กุ้ง

ทอดมันกุ้ง
  1. เตรียมส่วนผสมสามเกลอ นำกระเทียม รากผักชีและพริกไทยเม็ดมาโขลกให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย พักไว้นำกุ้งมาแกะเปลือกและเอาเส้นดำออกให้เรียบร้อย จากนั้นล้างน้ำให้สะอาด
  2. นำกุ้งมาสับจนละเอียดแล้วผสมกับมันหมูบดในถ้วย จากนั้นใส่สามเกลอลงไป ปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย ผงปรุงรส และเกลือ ตอกไข่ไก่ลงไป เสร็จแล้วใช้มือขยำคลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน
  3. ใส่แป้งทอดกรอบลงไปแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นไว้สัก 2 ชั่วโมง ใส่เกล็ดขนมปังลงไปให้ทั่วถาด เมื่อครบ 2 ชั่วโมงแล้ว 
  4. นำส่วนผสมทอดมันกุ้งที่แช่ไว้ออกจากตู้เย็น ตักเนื้อทอดมันใส่ลงบนเกล็ดขนมปังในปริมาณพอดี จากนั้นปั้นเป็นรูปวงกลมและเคลือบด้วยเกล็ดขนมปัง
  5. ตั้งกระทะแล้วเทน้ำมันลงไปเยอะ ๆ เปิดไฟกลาง เมื่อน้ำมันเดือดได้ที่แล้วให้นำทอดมันกุ้งลงไปทอด ในระหว่างทอดให้คนอยู่เรื่อย ๆ เพื่อไม่ให้ทอดมันกุ้งติดกัน
  6. ทอดจนสุกกรอบเหลืองได้ที่ จากนั้นตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน เสิร์ฟพร้อมกับน้ำจิ้มบ๊วย ถือเป็นอันเสร็จ 

เคล็ดลับการทำ ทอดมันกุ้ง ให้เนื้อแน่น มีความกรอบเด้ง เคี้ยวแล้วอร่อยฟิน

ทอดมันกุ้ง

วิธี ทํา ทอดมัน กุ้ง ง่ายๆ ให้เนื้อแน่นและกรอบเด้ง คือ นำมันหมูหรือมันไก่มาเป็นส่วนผสม หากใช้เนื้อกุ้งล้วนก็จะทำให้เนื้อสัมผัสไม่ค่อยแน่นและเด้ง เพราะเนื้อกุ้งมีความบางเบา จึงจำเป็นต้องมีวัตถุดิบอื่น ๆ มาผสมให้เนื้อแน่นขึ้น ต้องบอกว่าทอดมันกุ้ง ที่ทำทานกันในปัจจุบันจะแตกต่างจาก ทอดมัน กุ้ง สูตร โบราณ เพราะกุ้งเป็นวัตถุดิบที่มีราคาแพง หลายคนจึงใช้ส่วนผสมอื่น ๆ ด้วย อย่างไรก็ตามทอดมันกุ้งก็ยังคงเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่คุณสามารถทำทานเองได้ง่าย ๆ หากชอบแบบไหนก็ทำแบบนั้นได้เลย 

ทอดมันกุ้งเมนูยอดฮิตทำทานเองได้ง่าย ๆ อร่อยได้แบบไม่ต้องง้อใคร

ทอดมันกุ้ง

จะเห็นได้ว่าเมนูนี้ทำทานเองได้ง่ายมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือใหม่ก็สามารถทำได้ไม่ยาก นับเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่หลายคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทานเล่น ๆ กับน้ำจิ้ม หรือจะทานคู่กับข้าวก็อิ่มอร่อยไปอีกแบบ นอกจากเป็นอาหารที่คนไทยชื่นชอบแล้ว ยังเป็นหนึ่งใน อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ อีกด้วย บอกเลยว่าทำได้ง่ายมาก ๆ หากใครอยากลองทำทานเองที่บ้านก็สามารถนำ สูตรทอดมันกุ้ง นี้ไปทำตามกันได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

สูตร ไข่พะโล้ หมูนุ่มเด้ง น้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อม กลิ่นหอมชวนหิว

ไข่พะโล้

ไข่พะโล้ หมู ถือว่าเป็นเมนูสุดคลาสสิกของร้านข้าวราดแกงที่ต้องมีทุกร้าน เพราะเป็นเมนูที่มีรสชาติหวาน เค็มสามารถทานคู่กับอาหารรสเผ็ดแล้วอร่อยอย่างลงตัว นอกจากนี้ไข่พะโล้ ขา หมูเนื้อนุ่มยังถือว่าเป็นอาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบทานเป็นประจำอีกด้วย เรียกได้ว่า เมนู อาหาร ไทยอย่างพะโล้ไข่ต้มได้รับความนิยมทั้งคนไทย และคนต่างชาติเลยทีเดียว 

รวมวิธีทำ ไข่พะโล้ หมูสามชั้น สูตรโบราณ น้ำซุปกลมกล่อม

ไข่พะโล้

สำหรับใครที่กำลังหาเมนูอาหารง่ายๆ ทำทานช่วงกลางวัน และสามารถทานได้ทั้งครอบครัว ขอแนะนำ เมนูไข่พะโล้หมูสามชั้น เนื้อเปื่อยนุ่มๆ น้ำซุปเข้มข้น รสชาติหวาน เค็มกลมกล่อม ในส่วนวิธี ทํา ไข่ พะโล้ ง่ายๆ ไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด โดยสูตรที่เราจะมาแชร์เป็นสูตรไข่ต้ม พะโล้หมูสามชั้นโบราณ น้ำชุปเข้มข้น และอัดแน่นไปด้วยเครื่องเทศหอมเย้ายวนใจ 

วัตถุดิบ และส่วนผสมที่ต้องเตรียม

ไข่พะโล้
  1. หมูสามชั้น 500 กรัม
  2. ไข่ไก่ 5 ฟอง
  3. ดอกโปยกั๊ก 5 ดอก
  4. ซีอิ้วดำ 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
  6. เกลือ ½ ช้อนชา
  7. น้ำตาลปิ๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  8. แท่งอบเชย 3 แท่ง
  9. รากผักชี 1 ต้น
  10. กระเทียม 5 กลีบ
  11. พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
  12. ซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะ

ไข่พะโล้หมูสูตรต้นตำรับโบราณจะใส่เครื่องเทศอย่าง ดอกโปยกั๊ก แท่งอบเชย เพื่อดับกลิ่นคาวหมู แต่หากบ้านไหนไม่มีเครืองเทศสามารถใช้เครื่องพะโล้สำเร็จรูปแทนได้หอมอร่อยเหมือนกัน และก่อนจะลงมือทำพะโล้ หมูสามชั้น ให้นำรากผักชี กระเทียม พริกไทย นำมาโขลกให้ละเอียด เตรียมไว้ก่อน 

ไข่พะโล้
  1. ในขั้นตอนแรกให้นำไข่ต้มมาต้มในน้ำเดือด ประมาณ 10 นาที ตักออกมาแช่ในน้ำสะอาด จากนั้นแกะเปลือกไข่ออก ใส่ชามพักไว้ก่อน 
  2. นำหมูสามชั้นมาล้างให้สะอาด และนำมาหั่นเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้ก่อน เสร็จแล้วนำหม้อมาตั้งเตาใส่สามเกลอลงไป ผัดให้หอม ตามด้วยหมูสามชั้น ผัดให้เข้ากันจนหอม ปรุงรสด้วย ซีอิ้วดำ ซีอิ้วขาว น้ำตาล และซอสน้ำมันหอย ใส่ดอกโปยกั๊ก และแท่งดอกเหมย คนส่วนผสมให้เข้ากัน เคี่ยวต่อประมาณ 1 ชั่วโมง จากนั้นใส่ไข่ต้มลงไป เมื่อเนื้อหมูเปื่อยแล้วสามารถยกหม้อออกจากเตาได้เลย
ไข่พะโล้

ไข่พะโล้หมูสามชั้นสามารถโรยต้นหอมซอย และผักชีชอยลงไป เพื่อเพิ่มความหอมมากขึ้น ในส่วนของรสชาติพะโล้มีความอร่อยครบรส และน้ำซุปเข้มข้นกลมกล่อม พร้อมทานคู่กับข้าวสวยอร่อยฟินทุกคำ สำหรับใครที่อยากทำไข่พะโล้ หนึ่งในอาหาร ไทย ยอด นิยมสามารถทำตามวิธี ทำ พะโล้หมูสามชั้นสูตรโบราณที่เราทำให้ดูได้เลย รับรองว่าจะต้องทำเพิ่มอีกสักหม้อสองหม้ออย่างแน่นอน 

เปิดเคล็บลับ ทำ พะโล้หมูสามชั้น เนื้อนุ่ม น้ำซุปไม่คาว หอมละมุน 

ไข่พะโล้

สำหรับไข่พะโล้ คือหนึ่งในเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยมที่หลายๆ คนชอบทานเป็นอย่างมาก เพราะรสชาติไม่เผ็ด ทานง่าย อีกทั้งเมนูไข่พะโล้ยังเป็นเมนูอาหารกลางวันที่หลายโรงเรียนนิยมทำให้เด็กนักเรียนทานเป็นประจำอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ถึงแม้วิธี ทำ ไข่ พะโล้สามาถทำได้ง่ายๆ แต่การทำให้น้ำซุปไม่คาวนั้นค่อนข้างยาก ดังนั้นเราจึงมีเคล็ดลับเล็กๆ น้อยๆ เพื่อทำให้น้ำชุปไม่คาว โดยเริ่มจากการเลือกเนื้อหมูสามชั้นจะต้องเลือกเนื้อสีชมพู ไม่คล้ำ และไม่มีกลิ่นเหม็น เสร็จแล้วล้างเนื้อหมูด้วยน้ำส้มสายชูตามด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ และนำเนื้อที่หั่นเป็นท่อนไปผัดกับสามเกลอ และนำมาเคี่ยวในน้ำชุปปรุงรสแล้ว ใช้ไฟแรง เสร็จแล้วจะได้น้ำซุปที่หอมไม่มีกลิ่นคาว แถมยังเพิ่มความอร่อยมากขึ้นอีกด้วย 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

แจกสูตร ตำข้าวโพด ใส่กุ้ง อาหารรสแซ่บสุดเฮลตี้ ใครทำก็อร่อย 

ตำข้าวโพด

ข้าวโพด ถือเป็นธัญพืชชนิดหนึ่งที่หาทานได้ง่าย เราจะเห็นว่าอาหารไทยหลาย ๆ เมนูก็มักจะมีข้าวโพดเป็นส่วนประกอบด้วย แม้ว่าบางครั้งจะไม่ใช่เป็นวัตถุดิบหลัก แต่ข้าวโพดก็จะมาเพิ่มรสสัมผัสให้กับเมนูนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี เพราะเป็นธัญพืชที่โดดเด่นด้วยรสหวาน และหากจะให้กล่าวถึงเมนูอาหารไทยที่ใช้ข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลัก คงหนีไม่พ้นเมนู ตำข้าวโพด เรียกได้ว่าเป็นเมนูรสแซ่บที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน และยังถือว่าเป็นเมนูอาหารสุขภาพสุดเฮลตี้ อีกหนึ่งเมนูที่ทำทานได้ง่าย อยากทำทานมาดูสูตรกันเลย 

ตำข้าวโพด เมนูอาหารรสแซ่บยอดนิยม อร่อย ทำง่าย และได้ประโยชน์

ตำข้าวโพด

เมนู ตำ ข้าวโพด ถือเป็นหนึ่งในเมนูโปรดของใครหลายคน ซึ่งเป็นอาหารที่ถูกดัดแปลงมาจากส้มตำ เดิมส้มตำก็ถือเป็นเมนูยอดฮิตอยู่แล้ว เมื่อนำข้าวโพดมาตำก็จะได้รสสัมผัสอีกแบบที่อร่อยไม่แพ้กัน หลายคนนิยมทานเป็น เมนูลดน้ำหนัก เพราะมีธัญพืชและผักเป็นวัตถุดิบหลัก อย่างไรก็ตามข้าวโพดนั้นเป็นธัญพืชที่มีรสหวาน แม้ว่าจะเป็นเมนู อาหารคลีนง่าย ๆ แต่สำหรับใครที่ลดน้ำหนักอยู่จำเป็นต้องปรุงรส ตำ ข้าวโพด ให้อยู่ในระดับพอดี 

แบ่งปันสูตร ตำข้าวโพด ใส่กุ้งแบบง่าย ๆ สำหรับคนรักสุขภาพโดยเฉพาะ

ตำข้าวโพด

ในปัจจุบัน ตำ ข้าวโพด กุ้ง สด ได้รับความนิยมอย่างมาก หากนำข้าวโพดมาตำแล้ว ส่วนใหญ่จะนิยมใส่กุ้งลงไปด้วย นอกจากกุ้งดิบแล้วยังมีกุ้งสุกและกุ้งแห้ง อย่างไรก็ตามการทานกุ้งสดบ่อย ๆ อาจไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคจากไวรัส แบคทีเรียและพยาธิ ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำ สูตรตำข้าวโพด ใส่กุ้งสุกให้กับคนรักสุขภาพ ทั้งนี้หากใครจะทานกุ้งดิบก็ควรทำความสะอาดให้ดีก่อน มาดูกันว่า อาหารคลีนทำเอง อย่างตำข้าวโพดใส่กุ้งจะมีวิธีทำอย่างไรบ้าง 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ตำข้าวโพด
  1. ข้าวโพด 1 ฝัก
  2. ถั่วฝักยาว 3 ฝัก
  3. มะเขือเทศราชินี 7 ลูก
  4. แครอท 1 ท่อน
  5. กระเทียม 5 กลีบ
  6. พริกแดงสด 5 เม็ด
  7. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาลหญ้าหวาน 1 ช้อนชา
  10. กุ้งลวกสุก 3-4 ตัว

วิธีทำ ตำ ข้าวโพด ใส่กุ้ง

ตำข้าวโพด
  1. ขั้นตอนแรกในการทำเมนูอาหารสุขภาพสุดแช่บ อย่างเมนูตำข้าวโพดกุ้งสดนั้น ก็คือนำถั่วฝักยาวมาหั่นเป็นท่อน ๆ ส่วนแครอทให้นำมาหั่นและซอยเป็นเส้น ๆ เสร็จแล้วฝานข้าวโพด เตรียมไว้
  2. ต่อมาก็คือขั้นตอนในการตำ ใส่พริกแดงสดและกระเทียมลงไปโขลกในครก ตำให้พอแหลก จากนั้นใส่ถั่วฝักยาวตามลงไป ตำพอหยาบ ๆ ไม่ต้องละเอียด เสร็จแล้วใส่แครอท
  3. ต่อมาในส่วนของขั้นตอนการปรุงรส ให้ปรุงรสด้วยน้ำตาลหญ้าหวาน น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นให้ไปทำการลวกกุ้ง ไม่ต้องนาน ให้พอสะดุ้ง ๆ เท่านั้น 
  4. เมื่อลวกกุ้งเสร็จแล้ว ให้ใส่กุ้งที่ลวกสุกแล้ว ลงไปตำคลุกเคล้าให้เข้ากัน หั่นมะเขือเทศราชินีและใส่ลงในครก ตามด้วยข้าวโพด ตำและคลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วก็ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ 

ข้อเปรียบเทียบระหว่าง ตำข้าวโพด และส้มตำ มีความแตกต่างกันอย่างไร 

ตำข้าวโพด

ตำข้าวโพดเป็นเมนูหนึ่งที่ถูกดัดแปลงมาจากส้มตำ โดยเปลี่ยนจากมะละกอเป็นข้าวโพดแทน เพราะฉะนั้นทั้งสองเมนูจึงไม่ค่อยแตกต่างกันมากนัก จะต่างกันเพียงแค่วัตถุดิบหลักที่ใช้และสูตรการปรุงเท่านั้น นอกจากตำใส่กุ้งสด กุ้งแห้งและกุ้งสุกแล้ว ยังมี ตำ ข้าวโพด ไข่เค็ม และ ตำ ข้าวโพด หมูยอ ด้วย เช่นเดียวกับส้มตำที่มีทั้งตำไทย ตำปูปลาร้า ตำมั่วและอื่น ๆ ถ้าหากเป็น อาหารคลีน ส่วนใหญ่จะนิยมปรุงแบบตำไทย แต่ไม่เน้นรสหวานและเค็มมากเกินไป 

ประโยชน์และข้อควรรู้ของการทาน ตำข้าวโพดใส่กุ้ง สำหรับคนรักสุขภาพและคนลดน้ำหนัก

ตำข้าวโพด

ต้องบอกว่า ตำ ไทย ข้าวโพด เป็นเมนูอาหารที่มีไขมันต่ำ และข้าวโพดก็เป็นธัญพืชรสหวานที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ วิตามินบี แร่ธาตุ เส้นใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระ แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าข้าวโพดมีสารอาหารอย่างคาร์โบไฮเดรตที่ให้พลังงานสูง แถมยังมีรสหวานอีกด้วย ดังนั้นหากจะนำมาทำเมนู ลดน้ำหนัก จะต้องใช้ในปริมาณที่พอดี และไม่ควรทานมากเกินไป ถึงแม้ว่า ตำ ข้าวโพด จะเป็นหนึ่งในเมนู อาหารคลีนแบบประหยัด ก็ตาม

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

ลาบ ทูน่า อาหารคลีนง่าย ๆ แบบประหยัด อร่อย มีประโยชน์ เหมาะกับสายเฮลตี้ 

ลาบ ทูน่า

การนำอาหารสำเร็จรูปมาประกอบเป็นเมนูต่าง ๆ จะช่วยให้การประกอบเมนูอาหารของเรานั้นมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะอาหารเมนูใดก็ตามที่ใช้อาหารสำเร็จรูปมาปรุงจะช่วยประหยัดเวลาในการทำได้มากพอสมควรเลย เนื่องจากอาหารสำเร็จรูปนั้นผ่านการปรุงสุกมาแล้ว หนึ่งในอาหารสำเร็จรูปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือปลากระป๋อง หากเป็นทูน่ากระป๋องจะนิยมนำมาทำเป็นอาหารคลีน อาทิ ลาบ ทูน่า สลัดทูน่า และแซนด์วิชทูน่า ซึ่งวันนี้เราจะมาพาทุกคนไปทำลาบทูน่าทำทานกัน มีประโยชน์ เหมาะมากกับสายเฮลตี้

รู้จัก ลาบ ทูน่า เมนูอาหารสุดเฮลตี้ ทำทานง่ายในราคาประหยัด

ลาบ ทูน่า

ลาบทูน่า เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารคลีนสุดเฮลตี้ที่เหมาะกับคนรักสุขภาพและคนที่กำลังลดน้ำหนักมากเลยทีเดียว เนื่องจากเมนูลาบทูน่าเป็นเมนูที่มีไขมันต่ำ อีกทั้งยังมีสารอาหารสำคัญที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายเราอีกด้วย เรียกว่าเป็นหนึ่งใน อาหารคลีน ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งก็มีวิธีทำง่ายมาก ๆ แถมยังประหยัดต้นทุนอีกด้วย สำหรับการปรุงจะคล้าย ๆ กับลาบหมูทั่วไป แต่จะเปลี่ยนเป็นทูน่ากระป๋องแทน อย่างไรก็ตามลาบ ทูน่าสูตรคลีนจะไม่ปรุงรสจัดมากเกินไป สายสุขภาพวางใจได้เลยว่าเฮลตี้แน่นอน

แจกสูตร ลาบ ทูน่า แบบง่าย ๆ คนลดน้ำหนักทานได้แบบไม่ต้องกังวล

ลาบ ทูน่า

ลาบปลาทูน่า กระป๋อง เป็นอีกหนึ่งเมนูอาหารสุขภาพสุดเฮลตี้ ที่มีขั้นตอนในการทำไม่ซับซ้อน แถมยังเป็นเมนูสุขภาพที่มีวัตถุดิบที่ใช้ส่วนใหญ่ยังหาได้ไม่ยาก ประหยัดงบในการทำอีกด้วย จึงทำให้เป็นหนึ่งในเมนู อาหารคลีนทำเอง ของคนรักสุขภาพ รวมถึงคนลดน้ำหนักนิยมเลือกนำมาทำทานกัน ด้วยความที่ใช้วัตถุดิบน้อย จึงช่วยประหยัดต้นทุนได้พอสมควร สำหรับใครที่อยากลองทำเมนูลาบ ทูน่าทานเอง เรามีสูตร ลาบทูน่าคลี น สำหรับคนลดน้ำหนักมาแนะนำด้วย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ลาบ ทูน่า
  1. ทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ (165 กรัม) 2 กระป๋อง
  2. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  6. หอมแดงซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ผักชีฝรั่งซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  8. พริกแห้งทอด
  9. ผักตามชอบ 

วิธีทำลาบทูน่า

ลาบ ทูน่า
  1. ขั้นตอนแรกในการทำเมนูสุขภาพสุดเฮลตี้อย่างเมนูลาบทูน่า ให้ใส่น้ำปลาลงในภาชนะ ตามด้วยน้ำมะนาว พริกป่นและข้าวคั่ว คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
  2. ต่อมาให้นำทูน่าออกมาจากกระป๋อง ก่อนจะใส่เนื้อทูน่าลงไปในถ้วยผสม ให้บีบน้ำออกให้แห้งสนิท แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ในระหว่างนี้สามารถชิมรสชาติและปรุงเพิ่มได้ตามความเหมาะสม
  3. ใส่หอมแดงและผักชีฝรั่งที่ซอยไว้ลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วตักใส่จาน โรยหน้าด้วยพริกแห้งทอด เสิร์ฟพร้อมกับผักตามชอบ ถือเป็นเสร็จพร้อมรับประทาน 

เทคนิคการเลือกทูน่ากระป๋อง สำหรับทำเมนู ลาบทูน่า ให้อร่อยได้แบบคลีน ๆ

ลาบ ทูน่า

ถึงแม้ว่าลาบทูน่าจะเป็น อาหารคลีนง่าย ๆ แต่เราก็ควรเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน เพราะการที่ ลาบ ทูน่ากระป๋อง จะเป็นอาหารคลีนหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการเลือกทูน่ากระป๋องเป็นหลัก แนะนำให้เลือกทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ยี่ห้อใดก็ได้ สำหรับ ลดน้ำหนัก ควรเลือกทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ที่มีโปรตีนสูงและให้พลังงานต่ำ นอกจากนี้ควรดูด้วยว่ามีปริมาณไขมัน โซเดียม และคอเลสเตอรอลมากน้อยเพียงใด เมื่อนำมาทำ ลาบทูน่า แล้วจะช่วยให้คนลดน้ำหนักทานได้แบบไม่ต้องกังวล 

ลาบทูน่า เมนูแคลอรี่ต่ำ ใช้วัตถุดิบน้อย แต่ทานแล้วได้รับประโยชน์มากมาย

ลาบ ทูน่า

ลาบ ปลาทูน่า เป็นเมนูที่ทำจากอาหารสำเร็จรูปอย่างทูน่ากระป๋อง หากเป็นทูน่ากระป๋องในน้ำแร่ยิ่งเหมาะกับคนรักสุขภาพ เพราะจะมีโปรตีนสูง และให้สารอาหารสำคัญอย่างคาร์โบไฮเดรต ด้วยความที่เป็นทูน่าในน้ำแร่ จึงมีปริมาณโซเดียมและไขมันต่ำกว่าทูน่าในน้ำเกลือ ซึ่งเหมาะกับการนำมาทำเป็น เมนูลดน้ำหนัก อย่างมาก จะเห็นได้ว่าลาบทูน่า สูตรคลีนที่เราแนะนำไปนั้นทั้งอร่อยและมีประโยชน์ หากใครที่กำลังมองหาเมนู อาหารคลีนแบบประหยัด ก็สามารถทำเมนูนี้ทานได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัด โรล ปู อัด อาหารคลีนง่าย ๆ เหมาะกับคนรักสุขภาพและคนลดน้ำหนัก 

สลัด โรล ปู อัด

เมื่อพูดถึงเมนูอาหารคลีนลดน้ำหนัก หลายคนก็มักจะนึกถึงสลัดเป็นอันดับแรก ๆ เพราะถือเป็นเมนูยอดฮิตที่ได้รับความนิยมมานาน นับเป็นเมนูผักที่ไม่ต้องนำไปปรุงใด ๆ เพียงแค่นำผักและผลไม้สด ๆ มาหั่นเป็นชิ้นและจัดรวมกัน ทานคู่กับน้ำสลัดแบบง่าย ๆ เดิมเมนูสลัดจะเป็นเช่นนั้น แต่ในปัจจุบันมีการห่อสลัดเพื่อปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ดูน่าทานมากขึ้น ซึ่งมักจะเรียกกันว่า “สลัดโรล” และส่วนมากจะนิยมทำเป็น สลัด โรล ปูอัด นั่นเอง

รู้จัก สลัด โรล ปู อัด เมนูยอดฮิตติดเทรนด์ คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด

สลัด โรล ปู อัด

สลัดโรล ปูอัด เป็นการนำปูอัดและผักต่าง ๆ มาห่อด้วยแป้งเปาะเปี๊ยะญวน ปัจจุบันได้รับความนิยมอย่างมาก จึงหาทานได้ง่ายขึ้น ถือเป็นการนำเมนูสลัดดั้งเดิมมาปรับเปลี่ยนรูปแบบให้ดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังจัดเป็น อาหารคลีนง่าย ๆ ที่ทำเองได้ไม่ยาก คำว่า “โรล” หมายถึง “ม้วน” ฉะนั้นสลัดโรลจะถูกห่อโดยการม้วนแผ่นแป้งเปาะเปี๊ยะญวน หากใครที่กำลัง ลดน้ำหนัก และอยากจะทำเมนูอาหารคลีนง่าย ๆ ทานเอง สลัดโรลปูอัด ก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจมาก ๆ 

แจกสูตร สลัด โรล ปู อัด พร้อมน้ำสลัดซีฟู้ดแบบคลีน ๆ ทำเองได้ง่าย ๆ ไม่ต้องง้อใคร

สลัด โรล ปู อัด

ทุกวันนี้ สลัด โรล ถือเป็นเมนูที่หาทานได้ค่อนข้างง่าย แต่สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก การทำอาหารทานเองก็ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะเราสามารถควบคุมปริมาณของวัตถุดิบและส่วนผสมได้ แม้ว่าสลัดจะเป็น เมนูลดน้ำหนัก ที่หาทานได้ง่าย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสลัดทุกจานจะเหมาะกับคนลดน้ำหนัก ดังนั้นเราจึงอยากแนะนำสูตร สลัดโรล ปูอัด ให้กับคนลดน้ำหนักโดยเฉพาะ และมีสูตรการทำน้ำสลัดซีฟู้ดคลีนแบบง่าย ๆ ด้วย เรียกว่าเป็น อาหารคลีนแบบประหยัด ที่ทำเองได้ไม่ยากเลย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. แป้งเปาะเปี๊ยะญวน
  2. ปูอัด
  3. แครอท
  4. แตงกวา
  5. ผักกาดหอม
สลัด โรล ปู อัด

ส่วนผสมน้ำสลัดซีฟู้ด

  1. พริกขี้หนูเขียว 20 เม็ด
  2. กระเทียม 5 กลีบ
  3. ผักชี 2 ต้น
  4. มายองเนส 250 กรัม
  5. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ 

วิธี ทำ สลัด โรล

สลัด โรล ปู อัด
  1. เริ่มจากการทำน้ำสลัดซีฟู้ด นำพริกขี้หนูเขียว กระเทียม ผักชี น้ำตาลทราย น้ำปลา น้ำมะนาวและน้ำเปล่า มาปั่นรวมกันจนละเอียด จากนั้นใส่มายองเนสลงไป เสร็จแล้วปั่นให้เข้ากันอีกครั้ง พักไว้
  2. ขั้นตอนต่อมาเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อนห่อสลัด เริ่มจากนำแป้งเปาะเปี๊ยะญวนมาตัดแบ่งครึ่งเตรียมไว้ ต่อมานำแตงกวามาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ยาว ๆ เอาเมล็ดแตงกวาออกให้หมด จากนั้นนำแครอทมาปอกเปลือกและหั่นเป็นเส้นยาว ๆ และนำปูอัดมาคลี่ออกเป็นแผ่นแบน ๆ เตรียมไว้
  3. ขั้นตอนการห่อสลัด นำแป้งเปาะเปี๊ยะญวนมาชุบน้ำให้เปียกทั่วแผ่น จากนั้นวางลงบนโต๊ะหรืออุปกรณ์ที่ใช้รอง โดยวางแผ่นแป้งให้เป็นแนวตั้ง ต่อมาจัดวางผักกาดหอมลงไปที่ส่วนล่างของแผ่นแป้งโดยหันหน้าผักกาดหอมออกไปทางซ้ายและขวา 
  4. จากนั้นวางแครอทและแตงกวาทับลงไปเป็นแนวนอน ตามด้วยวางปูอัดเป็นแนวตั้งที่ส่วนบนของแผ่นแป้ง เสร็จแล้วเริ่มม้วนแป้งจากด้านล่างขึ้นไปถึงด้านบนจนสุดและหั่นแบ่งครึ่ง จัดวางใส่จาน เสิร์ฟคู่กับน้ำสลัดซีฟู้ดที่เตรียมไว้ ถือเป็นอันเสร็จ 

เหตุผลที่ควรทำน้ำสลัดซีฟู้ดสูตรคลีน ทานคู่กับ สลัด โรล ปู อัด ลงตัวสุด ๆ 

สลัด โรล ปู อัด

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมนูสลัดที่วางขายจำนวนมากจะมาพร้อมกับน้ำสลัดหวาน ๆ ซึ่งไม่ค่อยเหมาะกับคนลดน้ำหนักนัก จึงไม่แปลกที่สลัดจะเป็นเมนู อาหารคลีนทำเอง ของใครหลายคน เพราะสามารถควบคุมส่วนผสมเองได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสลัดโรลปูอัด สลัด โรล กุ้ง หรือ สลัด โรล สาหร่าย ควรทานคู่กับน้ำสลัดซีฟู้ดสูตรคลีน เพราะถือเป็นน้ำสลัดที่มีน้ำตาลน้อยกว่า นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยและเข้ากับปูอัดและอาหารทะเลอื่น ๆ ได้ดีอีกด้วย 

สลัดโรลปูอัด เมนูอาหารคลีน เป็นที่รู้จักในหมู่คนลดน้ำหนักอย่างมาก

สลัด โรล ปู อัด

สลัด แบบดั้งเดิมที่หลายคนคุ้นเคยจะถูกจัดใส่จานและเสิร์ฟคู่กับน้ำสลัด ซึ่งเป็นการนำผัก ผลไม้และวัตถุดิบอื่น ๆ มาทานรวมกัน แต่ในปัจจุบัน สลัด โรล แบบ ใหม่ ๆ ได้ถือกำเนิดขึ้น และได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะมีหน้าตาแตกต่างจากสลัดแบบทั่วไป สำหรับใครที่กำลังลดน้ำหนักและอยากจะทำ อาหารคลีน ทานเองง่าย ๆ สามารถนำ สูตรสลัด โรลปู อัด พร้อมน้ำจิ้มซีฟู้ดแบบคลีน ๆ ที่เราแนะนำไปทำตามกันได้เลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

หมึกผัดไข่เค็ม เมนูอาหารทะเลยอดฮิต หน้าตาน่าทาน รสชาติอร่อย แถมมีประโยชน์ 

หมึกผัดไข่เค็ม

เมื่อพูดถึงเนื้อสัตว์ทะเลอย่างปลาหมึกแล้ว เชื่อว่าหลายคนจะนึกถึงอาหารหลาย ๆ เมนู เพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่าปลาหมึกเป็นวัตถุดิบที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มอาหารทะเล ไม่ว่าจะทำอาหารประเภทต้ม ผัด แกง หรือทอดก็อร่อยฟินได้ไม่ยาก หากเป็นเมนูผัดที่หลายคนรู้จักก็จะมี หมึกผัดไข่เค็ม อยู่ในลิสต์อย่างแน่นอน ถือเป็นหนึ่งในเมนูที่ขึ้นชื่อและหลายคนก็ชอบทานอย่างมาก 

รู้จัก หมึกผัดไข่เค็ม อาหารยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็ชอบทาน สาวกปลาหมึกต้องไม่พลาด

หมึกผัดไข่เค็ม

ปลาหมึก ผัด ไข่เค็ม เป็นเมนูอาหารทะเลที่ทำได้ค่อนข้างง่าย โดยจะนำปลาหมึกและไข่เค็มมาผัดเข้าด้วยกัน ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงต่าง ๆ รสชาติจะมีความเค็มมันแบบกำลังดี ถือเป็นอีกหนึ่ง เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ในปัจจุบัน สามารถพบได้ตามร้านอาหารทั่วไป แต่ถ้าหากใครอยากทำเองก็สามารถทำได้ง่าย ๆ หากคุณเป็นคนชอบทานปลาหมึกที่มีรสสัมผัสเด้งกรุบผสมกับไข่แดง อาหาร ไทย ชนิดนี้น่าจะตอบโจทย์ได้ดี อย่างไรก็ตามความอร่อยของ หมึก ผัดไข่เค็ม นั้นจะขึ้นอยู่กับคุณภาพของวัตถุดิบด้วย 

แจกสูตร หมึกผัดไข่เค็ม แบบไม่ใส่น้ำพริกเผา ได้ทั้งความสดและความกรอบ รสสัมผัสยอดเยี่ยม

หมึกผัดไข่เค็ม

หากกล่าวถึงเมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ นอกจากมัสมั่น ต้มยำกุ้ง แกงเขียวหวานและอื่น ๆ แล้ว เมนูอาหารทะเลก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ได้รับความนิยม สำหรับ เมนูหมึกผัดไข่เค็ม ถือเป็นเมนูยอดฮิตที่ขึ้นชื่อในปัจจุบัน คนที่ชอบทานปลาหมึกน่าจะถูกใจเมนูนี้ เพราะเป็นการนำปลาหมึกมาใช้เป็นวัตถุดิบหลัก และเนื้อสัมผัสก็มีความเด้งกรุบอีกด้วย หากใครสนใจเรามี สูตร หมึก ผัด ไข่เค็ม แบบไม่ใส่น้ำพริกเผามานำเสนอด้วย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

หมึกผัดไข่เค็ม
  1. หมึกกล้วย 500 กรัม
  2. ไข่เค็ม (อบสุก) 5 ฟอง
  3. ต้นหอม 3 ต้น
  4. ขึ้นฉ่าย 3 ต้น
  5. หอมใหญ่ 1 หัว
  6. พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ดใหญ่
  7. กระเทียมสับ 3 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
  9. ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำตาลทราย 3/4 ช้อนโต๊ะ
  11. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  12. น้ำอุ่น 6 ช้อนโต๊ะ
  13. น้ำมันพืช

วิธีการทำหมึกผัดไข่เค็ม

หมึกผัดไข่เค็ม
  1. เริ่มจากดึงหัวปลาหมึกออก เอาส่วนดีหมึก ตาและปากออก จากนั้นนำไปล้างน้ำให้สะอาดและเอาเมือกออกจนเกลี้ยง เสร็จแล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
  2. หั่นต้นหอมและขึ้นฉ่ายเป็นท่อน ๆ จากนั้นนำหอมใหญ่มาหั่นเต๋าให้มีขนาดใหญ่ ตามด้วยซอยพริกชี้ฟ้าแดง ต้มน้ำให้เดือดจัดแล้วนำหมึกกล้วยลงไปลวกให้พอสุก เสร็จแล้วนำไปน็อคในน้ำเย็นทันที
  3. นำไข่เค็มที่อบจนสุกแล้วมายีให้พอแตกและใส่ลงในถ้วยผสม จากนั้นปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ซีอิ๊วขาว น้ำตาลทราย ผงปรุงรสและน้ำอุ่น คนให้ส่วนผสมเข้ากันดี
  4. ตั้งกระทะ เทน้ำมันพืชลงไปเล็กน้อย นำกระเทียมสับลงไปผัดด้วยไฟกลางจนมีกลิ่นหอมและเป็นสีเหลือง จากนั้นนำหอมใหญ่ลงไปผัดให้เข้ากัน เสร็จแล้วใส่หมึกกล้วยตามลงไปแล้วผัดให้พอสะดุ้งน้ำมัน
  5. ใส่ซอสไข่เค็มแล้วผัดให้เข้ากัน จากนั้นใส่พริกชี้ฟ้าแดง ต้นหอมและขึ้นฉ่ายลงไป ผัดให้เข้ากันอีกครั้ง เสร็จแล้วปิดแก๊สและตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย 

เคล็ดลับการทำความสะอาดปลาหมึก ก่อนนำมาปรุงเมนูอาหารทะเลอย่าง หมึกผัดไข่เค็ม

หมึกผัดไข่เค็ม

ปลาหมึกเป็นอาหารทะเลที่มีเมือกและกลิ่นคาวมากพอสมควร หากล้างไม่สะอาดแล้วนำมา ผัด ไข่เค็ม จะยิ่งทำให้คาวมากกว่าเดิม และจะส่งผลเสียต่อรสชาติได้ ฉะนั้นหากจะนำปลาหมึกมาทำเมนู ผัด ปลาหมึก ไข่เค็ม แนะนำให้ใช้แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ และเกลือ 1 ช้อนชา ผสมให้เข้ากันกับน้ำเปล่าและล้างปลาหมึก วิธีนี้จะช่วยให้เมือกปลาหมึกหลุดออกได้ง่ายและช่วยลดกลิ่นคาวได้ด้วย หลังจากนั้นก็สามารถนำมาทำ หมึกผัด ไข่เค็ม หรือ เมนู อาหาร ไทย อื่น ๆ ได้เลย 

ประโยชน์ดี ๆ จาก หมึกผัดไข่เค็ม เมนูอาหารทะเลที่ไม่ได้มีดีเพียงแค่รสสัมผัส

หมึกผัดไข่เค็ม

ปลาหมึกเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มักจะถูกนำมาทำเมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ถึงแม้ว่าจะเป็นอาหารทะเลที่อุดมไปด้วยไขมันก็ตาม แต่ก็ยังมีไขมันดีที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีโปรตีนสูง และโอเมก้า 3 ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ทั้งยังช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อ กระดูกและผิวหนังอีกด้วย เมื่อนำ หมึก ผัด ไข่เค็ม ก็จะได้ประโยชน์ดี ๆ จากไข่เค็ม เช่น โอเมก้า 3 ช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรง และวิตามินดีที่ช่วยทำให้กระดูกแข็งแรง จะเห็นว่าเมนูหมึกผัดไข่เค็มก็มีประโยชน์ดี ๆ อยู่ไม่น้อยเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
อาหารสุขภาพ

สลัดไข่ต้ม เมนูอาหารคลีนโปรตีนสูง คุณประโยชน์มากมาย วัตถุดิบหลากหลายน่าทาน 

สลัดไข่ต้ม

สลัดถือเป็นเมนูอาหารคลีนชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในหมู่คนรักสุขภาพและคนลดน้ำหนักอย่างมาก จะเห็นได้ว่าปัจจุบันมีผู้คนมากมาย ต่างให้ความสนใจกับสุขภาพกันทั้งนั้น ซึ่งเมนูนี้จะอุดมไปด้วยผักและผลไม้ ซึ่งเป็นอาหารที่ให้พลังงานน้อย เมื่อเทียบกับอาหารที่ผ่านการปรุงรส แต่ในความเป็นจริงแล้วผลไม้หลายชนิดจะมีรสหวาน สามารถทำให้อ้วนได้ไม่แพ้อาหารปรุงรสเลย เพราะฉะนั้นคนลดน้ำหนักจึงต้องหลีกเลี่ยงผักผลไม้บางชนิด และเพิ่มโปรตีนด้วยอาหารประเภทอื่น ๆ นั่นจึงทำให้เมนู สลัดไข่ต้ม ได้ถือกำเนิดขึ้น 

รู้จัก สลัดไข่ต้ม เมนูคลีนเพิ่มโปรตีนง่าย ๆ พร้อมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ อีกมากมาย

สลัดไข่ต้ม

อย่างที่ทราบกันว่า เมนูสลัด มักจะอุดมไปด้วยผักและผลไม้หลายชนิด นอกจากนี้ยังมีธัญพืชอีกด้วย ทำให้อาหารชนิดนี้มีสารอาหารสำคัญอย่างวิตามิน แร่ธาตุและใยอาหาร หลายคนจึงนิยมทานเป็นอาหาร มื้อเช้าคลีน ๆ และเพิ่มโปรตีนด้วยไข่ต้มแทนเนื้อสัตว์ เมื่อนำผัก ผลไม้ ธัญพืช และไข่ต้มมารวมกัน จึงกลายเป็นเมนู สลัด ไข่ต้ม ในที่สุด ถือเป็นเมนู อาหารคลีน ที่เหมาะกับคนลดน้ำหนัก รวมทั้งคนทานมังสวิรัติก็สามารถทานได้ด้วย 

แนะนำสูตรการทำ สลัดไข่ต้ม ง่าย ๆ สำหรับคนรักสุขภาพและควบคุมน้ำหนัก

สลัดไข่ต้ม

เมนู สลัด ที่มีไข่ต้มอาจไม่ได้ดูแปลกใหม่สำหรับคนทั่วไปนัก โดยเฉพาะคนรักสุขภาพและคนลดน้ำหนักจะรู้จักเมนูนี้เป็นอย่างดี เพราะถือเป็น อาหารคลีนแบบประหยัด ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำทานได้ สำหรับเมนูสลัดไข่ต้ม เราสามารถใช้ผักผลไม้และธัญพืชตามความชอบได้ จึงเป็นหนึ่งใน เมนูลดน้ำหนัก ยอดนิยมที่หลายคนนิยมทานกัน และการนำไข่ต้มเข้ามาเป็นส่วนประกอบก็เสมือนเป็นการเพิ่มโปรตีนให้กับสลัดด้วย ซึ่งเหมาะกับเมนู มื้อเช้าทำเอง อย่างมาก เพราะมีขั้นตอนการทำค่อนข้างง่าย 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. ไข่ไก่ 3 ฟอง
  2. ผักสลัด 5 ใบ
  3. กะหล่ำปลีม่วง 1/2 หัว
  4. แครอท 1 หัว
  5. มะเขือเทศลูกใหญ่ 1 ลูก
  6. แอปเปิ้ลเขียว 1/2 ลูก
สลัดไข่ต้ม

ส่วนผสมน้ำสลัดคลีน

  1. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ (ไขมัน 0%) 1 ถ้วย
  2. กระเทียมสับ 1 กลีบ
  3. มัสตาร์ด 3 หยด
  4. น้ำมะนาว 1 ช้อนชา
  5. พริกไทยป่น (นิดหน่อย) 

วิธีทำ สลัด ไข่ ต้ม

สลัดไข่ต้ม
  1. ขั้นตอนแรกนำไข่ไก่ไปต้มจนสุก เสร็จแล้วแกะเปลือกออกและผ่าครึ่ง พักไว้ เด็ดใบของผักสลัดแยกออกจากกัน ต่อมานำกะหล่ำปลีม่วงมาหั่นหรือซอยเป็นเส้นเล็ก ๆ 
  2. จากนั้นนำแครอทมาปอกเปลือกแล้วหั่นเป็นเส้น ๆ ตามด้วยหั่นแอปเปิ้ลเขียวเป็นชิ้นเล็ก ๆ และหั่นมะเขือเทศเป็นชิ้นขนาดพอดีคำ เสร็จแล้วจัดทุกอย่าง รวมถึงไข่ต้ม ลงจานให้สวยงาม
  3. ขั้นตอนต่อมาเตรียมทำน้ำสลัด โดยนำโยเกิร์ต กระเทียมสับ มัสตาร์ด น้ำมะนาวและพริกไทยป่น มาปั่นรวมกันจนละเอียด เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย เสิร์ฟคู่กับสลัดไข่ต้ม 

เคล็ดลับการทำน้ำสลัดคลีนให้เหมาะกับคนลดน้ำหนัก ทานคู่กับ สลัดไข่ต้ม แล้วเข้ากันได้ดี

สลัดไข่ต้ม

ถึงแม้ว่าสลัดจะเป็น อาหารคลีนง่าย ๆ แต่สำหรับคนคุมน้ำหนักจะต้องให้ความสำคัญกับส่วนผสมของเมนูนี้กันด้วย โดยเฉพาะน้ำสลัดจำเป็นต้องเลือกสูตรคลีน เพื่อให้เหมาะกับคน ลดน้ำหนัก โดยเฉพาะ หากทำน้ำสลัดสูตรคลีนควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาลทุกชนิด แต่สามารถเพิ่มความหวานด้วยวัตถุดิบธรรมชาติอย่างมัสตาร์ดและน้ำผึ้งได้ เมื่อทานคู่กับ สลัด ไข่ต้ม แล้วจะเข้ากันได้ดี นอกจากนี้สารให้ความหวานดังกล่าวยังมีสรรพคุณดี ๆ อีกด้วย เหมาะกับการทำเป็นเมนู มื้อเช้าง่าย ๆ เลยทีเดียว 

อาหารคลีนทำง่าย แถมได้ประโยชน์ คนลดน้ำหนักไม่ควรพลาด

สลัดไข่ต้ม

ผักและผลไม้จะอุดมไปด้วยวิตามิน แร่ธาตุและใยอาหารหลายชนิด สำหรับคนลดน้ำหนักที่อยากทาน อาหารคลีนทำเอง ที่มีทั้งใยอาหารและโปรตีน สลัดไข่ต้มก็ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะไข่ต้มนั้นมีโปรตีนสูง หรือหากใครอยากทานเนื้อสัตว์ด้วยก็สามารถทำเป็น สลัด อกไก่ ไข่ ต้ม ได้เช่นกัน ส่วนใครที่ต้องการ มื้อเช้าแบบประหยัด ก็สามารถเลือกวัตถุดิบตามความสะดวกได้เลย นอกจากสลัดแบบธรรมดาแล้ว เรายังสามารถทำเป็น สลัด โรล ไข่ ต้ม ได้อีกด้วย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง เมนูอาหารที่เต็มไปด้วยความอร่อย และสารอาหารหลากหลายชนิด 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารคาวหรืออาหารหวานก็สามารถนำวัตถุดิบชนิดนี้มาใช้ได้ นอกจากรสสัมผัสที่มีความหวานมันกรุบกรอบแล้ว ยังเคี้ยวง่าย ไม่แข็งและไม่เหนียวด้วย ปัจจุบันสามารถหาทานได้ง่าย สำหรับเมนูอาหารที่ใช้เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นวัตถุดิบหลัก หนึ่งในนั้นคือเมนู ไก่ผัดเม็ดมะม่วง เชื่อว่าหลายคนน่าจะเคยทานกันมาบ้างแล้ว ต้องบอกว่าการนำเนื้อไก่มาผัดกับเม็ดมะม่วงหิมพานต์นั้นเข้ากันอย่างมาก 

ทำความรู้จัก ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ อาหารไทยยอดนิยม รสสัมผัสเยี่ยม อร่อยครบรส

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ ผัด มะม่วงหิมพานต์ เป็นหนึ่งในเมนูอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่คนไทย คนจีนและชาวต่างชาติ เรียกว่าเป็น อาหาร ไทย อันมีที่มาจากอาหารตำรับเสฉวนที่ชื่อว่า “กงเป่าจีติง” รสชาติของ ไก่ผัด เม็ดมะม่วง หิมพานต์จะมีทั้งเปรี้ยว หวาน เค็มและเผ็ด เรียกได้ว่าครบรสเลยทีเดียว สำหรับในประเทศไทยเมนูนี้ก็ถือเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี 

แจกสูตร ไก่ผัดเม็ดมะม่วง หิมพานต์ เมนูอร่อย ๆ แถมมีประโยชน์ ทำได้ง่าย ๆ

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ใครที่ยังไม่เคยทาน ไก่ ผัด เม็ด มะม่วง หิมพานต์ เราขอแนะนำให้ลองทานสักครั้งแล้วอาจจะทำให้ติดใจ หน้าตาของอาหารสามารถดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี เพราะเต็มไปด้วยสีสันต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยและมีประโยชน์อีกด้วย สำหรับใครที่อยากลองทำทานเองที่บ้าน เราก็มี สูตร ไก่ ผัด เม็ด มะม่วง หิมพานต์มาฝากด้วย มาดูกันว่าขั้นตอนการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วง เป็นอย่างไรบ้าง 

วัตถุดิบและส่วนผสม

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
  1. เนื้ออกไก่ 350 กรัม
  2. เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม
  3. พุทราเชื่อม 100 กรัม
  4. พริกหวาน (แดง,เหลือง,เขียว) 70 กรัม
  5. พริกชี้ฟ้าแห้ง 20 กรัม
  6. หอมใหญ่ 50 กรัม
  7. ต้นหอม 30 กรัม
  8. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  9. แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ
  10. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  11. เหล้าจีน 1 ช้อนโต๊ะ
  12. น้ำตาลทราย 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
  13. น้ำมันสำหรับผัด/ทอด 

วิธีการทำไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
  1. ขั้นตอนแรกเตรียมวัตถุดิบให้พร้อมก่อนการปรุง เริ่มจากหั่นพริกชี้ฟ้าแห้งเป็นท่อนและนำเม็ดออก ต่อมาหั่นต้นหอมเป็นท่อน ๆ ส่วนหอมใหญ่ให้หั่นเต๋า และหั่นพริกหวานทั้ง 3 สี เป็นชิ้นขนาดปานกลาง
  2. นำอกไก่มาล้างทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นหั่นเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีคำ เตรียมไว้ ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไปเยอะ ๆ ใช้ไฟกลาง หลังจากน้ำมันเริ่มเดือดแล้วนำเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไปทอดให้พอมีสีเหลือง 
  3. เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันนำพริกชี้ฟ้าแห้งลงไปทอดด้วยไฟอ่อนให้มีกลิ่นหอม เสร็จแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน นำอกไก่มาคลุกกับแป้งสาลี จากนั้นนำไปทอดในกระทะด้วยไฟกลาง 
  4. เมื่อทอดจนสุกแล้วตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมันต่อมาทอดพริกหวานและหอมใหญ่ด้วยไฟแรงให้พอสุกเล็กน้อย เสร็จแล้วปิดแก๊สและตักขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน
  5. ขั้นตอนการผัด เริ่มจากการทำน้ำซอส ใส่ซีอิ๊วขาวลงในกระทะ ตามด้วยซอสหอยนางรม เหล้าจีนและน้ำตาลทราย จากนั้นเปิดแก๊สโดยใช้ไฟกลาง คนส่วนผสมให้เข้ากันและเคี่ยวจนมีความข้น
  6. เมื่อเคี่ยวน้ำซอสจนข้นได้ที่แล้ว ใส่อกไก่ พริกหวาน หอมใหญ่ พริกชี้ฟ้าแห้ง พุทราเชื่อมและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ลงไป 
  7. ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันสักระยะ จากนั้นใส่ต้นหอมลงไปและผัดให้เข้ากับส่วนผสมอื่น ๆ เสร็จแล้วปิดแก๊สและตักใส่จานเสิร์ฟได้เลย 

ทริคเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทอดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ สำหรับเมนู ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ถือเป็นวัตถุดิบหนึ่งที่สามารถนำมาทำเป็น เมนู อาหาร ไทย ได้ทั้งคาวและหวาน แต่หากเป็นเมนูไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมื่อนำลงไปทอดในน้ำมันแล้วต้องหมั่นคนอยู่เรื่อย ๆ เพื่อให้มีสีเหลืองเท่า ๆ กันทุกเม็ด หากไม่คนจะทำให้เม็ดมะม่วงที่ติดอยู่ตรงก้นกระทะเป็นสีเข้มได้ สำหรับระยะเวลาการทอดนั้นไม่นานนัก เพียงแค่ทอดให้มีสีเหลืองก็ถือว่าใช้ได้แล้ว เพราะสุดท้ายต้อง ผัด เม็ด มะม่วง รวมกับไก่และส่วนผสมอื่น ๆ ของเมนู ไก่ ผัดเม็ดมะม่วง อีกครั้ง จึงไม่จำเป็นต้องทอดให้สุกมาก 

ไก่ผัดเม็ดมะม่วงหิมพานต์ เมนูอาหารที่มีรสสัมผัสยอดเยี่ยม เต็มเปี่ยมไปด้วยคุณประโยชน์

ไก่ผัดเม็ดมะม่วง

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเมนู ผัด ไก่ เม็ด มะม่วง หิมพานต์เป็นเมนูอาหารที่มีหน้าตาน่าทานมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีรสชาติอร่อยและเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เรียกว่าเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ที่เหมาะแก่การทำให้คนในครอบครัวทานอย่างมาก นอกจากเนื้อไก่ที่มีโปรตีนสูงแล้ว เม็ดมะม่วงหิมพานต์ยังมีสารอาหารที่ช่วยควบคุมน้ำหนักและลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่าง ๆ อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไก่ผัดเม็ดมะม่วงเป็นหนึ่งในเมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ ที่ต้องลอง

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

รู้จักเมนู ต้มกะทิ สายบัว ปลาทู อาหารไทยโบราณที่ควรอนุรักษ์ พร้อมแจกสูตรการทำง่าย ๆ 

ต้มกะทิ สายบัว

สายบัวเป็นวัตถุดิบชนิดหนึ่งที่คนไทยในอดีตนิยมนำมาประกอบอาหาร โดยเฉพาะเมนูแกงต่าง ๆ จะนิยมใช้สายบัวเป็นวัตถุดิบหลัก เช่นเดียวกับเมนู ต้มกะทิ สายบัว ถือเป็นหนึ่งในเมนูอาหารไทยโบราณที่ยังคงหาทานได้ในปัจจุบัน แต่การจะหาร้านที่ปรุงได้ถูกปากถูกใจอาจเป็นเรื่องยาก เพราะสูตรการทำในปัจจุบันจะแตกต่างจากในอดีตอยู่พอสมควร ฉะนั้นการทำทานเองจึงเป็นสิ่งที่น่าจะตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี 

ต้มกะทิ สายบัว เมนูแกงไทยโบราณที่น่าลอง อร่อยและมีดีกว่าที่คิด

ต้มกะทิ สายบัว

แกงสายบัว ใส่กะทิ เป็นอาหารประเภทแกงของไทยที่ได้รับความนิยมมากในอดีต สำหรับรสชาติของอาหารชนิดนี้จะมีรสเค็มจากปลาทู และรสหวานมันจากกะทิ เรียกได้ว่าเป็น อาหาร ไทย ที่ใช้เครื่องปรุงค่อนข้างน้อย อีกทั้งยังมีสูตรเครื่องแกงแบบง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยตัวเอง จึงเป็นเรื่องที่ดีถ้าหากคุณอยากจะทำเมนู ต้มกะทิสายบัว ทานเอง แม้ว่าจะเคยเป็น เมนู อาหาร ไทย ยอด นิยม ก็ตาม แต่ในปัจจุบันสูตรการปรุงอาจเปลี่ยนไปจากเดิม 

เผยสูตร ต้มกะทิ สายบัว ปลาทู ตามแบบฉบับคนโบราณ ทำทานในยุคปัจจุบันได้ง่าย ๆ

ต้มกะทิ สายบัว

เมื่อเทียบกับเมนูแกงอื่น ๆ ต้องบอกว่า แกง สายบัว ใส่ ปลา ทู เป็นหนึ่งในเมนูที่ใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงน้อยมาก ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้หมายความว่ารสชาติจะธรรมดาเสมอไป จัดเป็นอาหารไทยโบราณที่มีกลิ่นหอมของกะทิ มีรสหวานมันและเค็ม กลมกล่อม อาจไม่ใช่เมนู อาหาร ไทย ที่ ฝรั่ง ชอบ แต่ถ้าใครชอบกลิ่นหอมของกะทิก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย มาดูกันว่าสูตรการทำต้มกะทิ สายบัว ใส่ปลาทู จะมีวิธีทำง่ายเพียงใด 

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. สายบัว (หั่นท่อนยาว 2 นิ้วครึ่ง) 500 กรัม
  2. มะดัน/ตะลิงปลิง 2 ลูก
  3. ปลาทูนึ่ง 2-3 ตัว
  4. กะทิกล่อง 1,000 มิลลิลิตร
  5. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนชา
  6. เกลือ 2 ช้อนชา
ต้มกะทิ สายบัว

ส่วนผสมเครื่องแกง

  1. หอมแดง 1/2 ถ้วย
  2. กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  3. พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

วิธีการต้มกะทิสายบัวปลาทู

ต้มกะทิ สายบัว
  1. ขั้นตอนแรกในการทำเมนูต้มกะทิสายบัวปลาทูเริ่มทำเครื่องแกง นำหอมแดงมาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นนำไปตำรวมกันกับกะปิและพริกไทยป่น ไม่ต้องตำให้ละเอียดมาก เสร็จแล้วตักใส่ถ้วย พักไว้
  2. ขั้นตอนต่อมาให้ต้มกะทิด้วยไฟแรงจนเดือด จากนั้นให้ใส่เครื่องแกงลงไป แล้วคนให้ส่วนผสมเข้ากัน ตามด้วยการปรุงรสด้วยเกลือและน้ำตาลปี๊บ
  3. เมื่อกะทิเริ่มเดือด จากนั้นให้ใส่สายบัวลงไปและกดให้จมน้ำกะทิ ต่อมาใส่มะดันหรือตะลิงปลิงลงไป ต้มให้สุกพร้อมกับสายบัว
  4. เตรียมปลาทูนึ่งสำหรับขั้นตอนต่อไป โดยเริ่มจากการตัดหางปลาทูออกเล็กน้อย และใส่ลงไปในหม้อ ต้มจนสุกและปิดแก๊ส ถือเป็นอันเสร็จสิ้นเมนูอาหารไทยโบราณ

การเลือกกะทิให้เหมาะสม ช่วยให้เมนู ต้มกะทิ สายบัว หอมอร่อยและกลมกล่อมแบบสูตรดั้งเดิม

ต้มกะทิ สายบัว

วิธี แกง สายบัว ใส่ ปลา ทู ให้อร่อยตามแบบสูตรดั้งเดิม จำเป็นต้องเลือกใช้วัตถุดิบให้เหมาะสม โดยเฉพาะการเลือกกะทิ ในอดีตเมนูนี้ถือเป็น อาหาร ไทย ยอด นิยม ซึ่งจะใช้กะทิสดในการปรุง แต่ทว่าในปัจจุบันการใช้กะทิสำเร็จรูปนั้นช่วยเพิ่มความสะดวกต่อการทำอาหารได้มากขึ้น แต่เราควรเลือกกะทิสำเร็จรูปที่ทำจากกะทิแท้ 100% เพราะดีต่อสุขภาพและให้กลิ่นหอมแบบธรรมชาติอีกด้วย เมื่อนำมาทำเมนู ต้มกะทิสายบัว แล้วจะได้รสชาติใกล้เคียงกับสูตรดั้งเดิมมากขึ้น 

ต้มกะทิสายบัว ปลาทู เมนูแกงที่มีรสเปรี้ยวแฝงอยู่เล็กน้อย ตัดกับรสเค็มหวานมันได้ดี

ต้มกะทิ สายบัว

ทุกวันนี้เรายังสามารถพบเห็นเมนู แกง สายบัว ตามร้านอาหารทั่วไปได้บ้าง แต่มีน้อยนักที่จะปรุงรสชาติออกมาได้ใกล้เคียงกับสูตรโบราณ เนื่องจากวัตถุดิบบางอย่างนั้นหายาก เดิม ต้ม สายบัว กะทิสูตรโบราณจะมีรสเปรี้ยวเล็กน้อย ซึ่งได้ความเปรี้ยวจากมะดัน แต่ในปัจจุบันจะหาได้ยากขึ้น ผู้ที่ทำเมนูนี้ขายจึงไม่ได้ใช้วัตถุดิบดังกล่าว ส่งผลให้ เมนู อาหาร ไทย ชนิดนี้มีรสชาติต่างจากอดีต ทั้งนี้เราสามารถใช้ตะลิงปลิงแทนมะดันได้ หรือถ้าหากไม่มีก็ไม่ต้องใส่ เพราะต้มกะทิ สายบัวก็มีความอร่อยในตัวอยู่แล้ว

อ่านบทความอื่นๆ: