Categories
สูตรอาหาร

บัตเตอร์ชิกเก้น (Butter Chicken) อาหารอินเดียยอดนิยม

บัตเตอร์ชิกเก้น

ถ้าพูดถึงอาหารที่นิยมในอินเดียต้องยกให้เป็นเมนู บัตเตอร์ชิกเก้น (Butter chicken) ซึ่งแต่ก่อนบัตเตอร์ชิกเก้น เป็นเมนูนิยมมากๆของชาวอินเดีย เพราะมีรสชาติที่ไม่จัดจ้านมากจนเกินไปสามารถทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นในปัจจุบันบัตเตอร์ชิกเก้น กลับเป็นเมนูที่ดังมากๆทั่วประเทศ และเป็นเมนูดังถึงขนาดที่ติดในสตรีทฟู้ด หรือตามร้านอาหารภัตตาคารต่างๆ ซึ่งเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นเป็นเมนูที่มีรสชาติอ่อนจะอ่อนไปทางเผ็ดอ่อนไปทางเค็ม แต่จะมีความมันความหวานเข้ามาแทนจึงทำให้เมนูนี้ เป็นเมนูที่เด็กก็สามารถทานได้ผู้ใหญ่ก็ทานดี และติดอันดับใน เมนูอาหารนิยม ในเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นนั้น จะเป็นอาหารที่ทานแล้วได้รับความอร่อยทานเพลินเนื่องจากมีความมันความหวานความนัว ที่ลงตัวความมันนั้นจะได้มาจากการใช้เนยและการใช้มะม่วงหิมพานต์ในการประกอบอาหาร ส่วนความหอมและความละมุนจะได้มาจากเครื่องเทศของชาวอินเดีย ที่ทั้งหอมลงตัว และอร่อยสุดขั้วไปเลย สำหรับในเมนูอาหารนิยมวันนี้เราได้คิดค้น สูตรอาหาร ที่เราคิดว่าจะเป็นอาหารที่ทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ทานได้ทุกเพศทุกวัยและมีรสชาติที่อร่อยละมุนลงตัวและมีขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยากจนเกินไป ไม่เป็นปัญหาสำหรับมือใหม่หัดทำอาหารเลย และวัตถุดิบที่ใช้สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปหรือตามซูเปอร์มาร์เก็ตหรือตามช็อปต่างๆที่ขายของอินเดีย สำหรับเมนูนี้ ส่วนใหญ่อาจจะหาซื้อได้ค่อนข้างยากอาจจะเป็นในเรื่องของเครื่องเทศของอินเดีย แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปเพราะปัจจุบันมีร้านค้าทั่วไปหรือซูเปอร์มาร์เก็ตได้ลงของ ของชาวอินเดียอาจจะเป็นในเรื่องของเครื่องเทศ เรื่องของวัตถุดิบจากหลักๆของชาวอินเดียนั่นเอง สำหรับเมนูนี้ถือเป็น อาหารจานเด็ด ที่อยากให้ทุกคนได้ลองทำทานที่บ้านง่ายๆกับครอบครัวได้เลยค่ะรับรองว่าคุ้มค่าแก่การทำแน่นอนจ้าในเมนูนี้ สามารถติดตามสูตรอาหารง่ายๆได้เเล้วที่ด้านล่างนี้เลยจ้า

บัตเตอร์ชิกเก้น

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ บัตเตอร์ชิกเก้น (Butter Chicken)

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำเมนู บัตเตอร์ชิกเก้น นั้นในเมนูนี้ค่อนข้างที่จะใช้วัตถุดิบมาก ถึงมากที่สุด เนื่องจากเมนูบัตเตอร์ชิกเก้นเป็นเมนูที่ต้องการความละมุน ความหอม ความมัน จึงทำให้เมนูนี้อาจจะต้องใช้วัตถุดิบที่มากพอสมควรแต่รับรองได้ว่า หากทำเมนูนี้เสร็จแล้ว คุณจะลืมการเตรียมวัตถุดิบ ที่ทำให้คุณปวดหัวเลยทีเดียว สำหรับอาหารชนิดนี้ เป็นอาหารเฉพาะเจาะจงในเรื่องของเครื่องเทศ ทำให้จำเป็นที่จะต้อง ใช้วัตถุดิบหลากหลาย นั่นเอง

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. เนื้อไก่หั่นพอดีคำ 800 กรัม
  2. กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ขิงแก่บด 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  5. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกไทยดำ ½ ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำมันมะกอก 3 ช้อนโต๊ะ

สัดส่วนและส่วนผสมซอส

  1. น้ำมันมะกอก 1 ช้อนโต๊ะ
  2. เนยจืด 5 ช้อนโต๊ะ
  3. หอมใหญ่สับหยาบ 1 ลูก
  4. กระเทียมบด 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ขิงแก่บด 1 ช้อนโต๊ะ
  6. Garam masala 1 ช้อนโต๊ะ
  7. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ยี่หร่า 1 ช้อนชา
  9. ขมิ้น 1 ช้อนชา
  10. มะเขือเทศสับหยาบ 400 กรัม
  11. มะม่วงหิมพานต์ ½ ถ้วยตวง
  12. เกลือ ¼ ช้อนชา
  13. พริกไทยดำ ¼ ช้อนชา
  14. น้ำ 1 ถ้วย
  15. ผักชี 1 ต้น
  16. วิปปิ้งครีม ½ ถ้วยตวง
บัตเตอร์ชิกเก้น

ขั้นตอนและวิธีการทำ “บัตเตอร์ชิกเก้น” (Butter Chicken)

สำหรับขั้นตอนการทำ บัตเตอร์ชิกเก้น แม้จะเป็นอาหารที่ใช้วัตถุดิบและเครื่องเทศมากมาย แต่ก็เป็นอาหารที่มีขั้นตอนวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากเลย รับรองได้ว่าอาหารชนิดนี้เป็น อาหารทำง่าย ที่อยากแนะนำให้คุณได้ลองทำทานที่บ้านง่ายๆกับครอบครัวได้เลย ตามขั้นตอนวิธีการทำด้านล่างนี้

ขั้นตอนวิธีการทำ

  1. หมักไก่โดยผสมเนื้อไก่ กระเทียม ขิง เกลือสมุทร พริกป่นละเอียด และพริกไทยดำป่นในอ่างผสม นวดให้เข้ากันกับเนื้อไก่ หมักทิ้งไว้อย่างน้อย 15-20 นาที
  2. ตั้งกระทะน้ำมันมะกอกบนไฟกลาง นำไก่ลงผัดในกระทะให้สีสวยและสุกประมาณ 80% ตักไก่ขึ้นใส่ถ้วย พักไว้
  3. ในกระทะใบเดิมที่ผัดไก่บนไฟกลาง ใส่น้ำมันมะกอกและเนย 2 ช้อนโต๊ะลงในกระทะ ใส่หอมใหญ่ลงผัด ตามด้วยกระเทียม ขิง การัมมาซาล่า พริกป่นละเอียด ยี่หร่าและขมิ้น ลดเป็นไฟ่อ่อนผัดจนหอมเครื่องเทศ ใส่มะเขือเทศและเม็ดมะม่วงลงผัดพอหอม ปรุงรสด้วยเกลือสมุทรและพริกไทยดำ เติมน้ำและผักชี ปิดฝาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนประมาณ 15 นาทีจนทุกอย่างสุกนุ่ม
  4. นำซอสไปปั่นให้ละเอียด แล้วกรองออกกากออก เทซอสใส่ลงกลับลงในกระทะ ตั้งบนไฟกลางค่อนอ่อน ใส่ไก่ที่ทอดไว้กลับลงไป ปิดฝาเคี่ยวต่ออีก 10 นาทีจนทุกอย่างเข้ากันดี จึงใส่วิปปิ้งครีม และเนยที่เหลือคนให้เข้ากัน ปิดไฟ
  5. จัดเสิร์ฟโดยตักบัตเตอร์ชิกเก้นใส่จาน แต่งหน้าด้วยวิปปิ้งครีมและใบผักชี เสิร์ฟกับขนมปังพิตต้า โรตีทอดกรอบ มะนาว และซาวร์ครีม

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) สูตรต้นตำหรับแท้

ข้าวหมกไก่อินเดีย

สำหรับอาหารที่มีรสชาติอร่อย หอม มัน เข้มข้นต้องยกให้เป็นเมนู ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) ข้าวหมกไก่ของอินเดียนั้นจะแตกต่างจากของอิสลามหรือแตกต่างจากที่เราเคยซื้อทานตามบ้านเรา เนื่องจากข้าวหมกไก่อินเดีย เค้าจะมีความหอม มัน รสชาติเข้มข้นมากกว่าซึ่งการทำข้าวหมกไก่อินเดียจะมีวิธีการทำที่ค่อนข้างแตกต่างออกไปจากที่เราเคยทาน มีความหอมของเครื่องเทศ ความเผ็ดหอมมันมากขึ้นทำให้ข้าวหมกไก่อินเดียขึ้นแท่นเป็น อาหารจานโปรด ของหลายๆคนเลยทีเดียวส่วนเรื่องของขั้นตอนการทำ ก็ค่อนข้างใช้เวลาทำพอสมควรกว่าจะทำการหุงข้าวหรือการหมักไก่เสร็จก็ใช้เวลาพอสมควร แต่รับรองได้ว่าเมื่ออาหารจานเด็ดจานนี้เสร็จออกมาก็จะทำให้อาหารหน้ารับประทานมากจนลืมความยากในการทำไปเลยทีเดียวค่ะ สำหรับการทำอาหารอินเดียขึ้นชื่อว่าเป็นชาวอินเดีย เค้าก็ค่อนข้างจะมีสูตรในการทำหรือการใช้วัตถุดิบที่หลากหลายที่คนอินเดียนั้นคิดว่าเค้าเองจะทำให้อาหารหอมอร่อยนั่นเองค่ะ ในการทำอาหารอินเดียวันนี้ทางเราได้จัดเตรียม สูตรอาหาร อร่อยไว้ให้ได้ลองทำทานกันง่ายๆได้แล้วที่นี่เลยค่ะ การจัดเตรียมวัตถุดิบและขั้นตินการทำสามารถติดตามได้ที่ด้านล่างนี้ค่ะ

วัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani)

ข้าวหมกไก่อินเดีย

สำหรับวัตถุดิบที่ใช้ในการทำ ข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) นั้นถ้าหากเป็นเรื่องของไก่เราสามารถเลือกซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปส่วนเนื้อไก่ที่ใช้ทำเราจะใช้ส่วนไหนก็ได้ที่ชื่นชอบ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องของ เครื่องเทศ ก็จะสามารถหาซื้อได้ง่ายๆตามซูปเปอร์มาเก็ตที่ขายของของอินเดีย เพราะจะทำให้ได้ของมาใช้แบบครบครันนั่นเองค่ะ วัตถุดิบที่ใช้จำเป็นต้องใช้แบบที่ไม่สามารถจะขาดได้สักชนิดเพราะข้าวหมกไก่ของอินเดียจำเป็นอย่างมากที่จะต้องครบเครื่องถึงพริกถึงขิงจนเกิดเป็นความหอมแบบผสมผสานกัน ทำให้ข้าวหมกไก่ชนิดนี้ใช้ วัตถุดิบแบบต้นฉบับ อินเดียจริงๆจึงจะได้เป็นต้นตำหรับแท้จากอินเดียเลยจ้า การทานอาหารชนิดนี้ทำได้ง่ายด้วยการจัดเตรียมวัตถุดิบได้ง่ายๆเลยดังนี้

สัดส่วนและส่วนผสม

  1. อกไก่ หรือส่วนอื่นตามชอบ 4 ชิ้นใหญ่
  2. หัวหอมแดงสับ 1 หัว
  3. โยเกิร์ตครึ่งถ้วย
  4. เนย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. ผง Biryani 1 กล่อง
  6. เปลือก Cinemon (อบเชย) 1 ชิ้น
  7. พริกป่น india 1 ช้อนโต๊ะ
  8. Black Mastard (เมล็ดมัสตาร์ดดำ) 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักชีใช้โรยหน้า
  10. พริกแห้งใหญ่ 2 ลูก
  11. ข้าวบาสมาติ 2 ถ้วย
  12. มะเขือเทศสับ 1 ลูก
  13. พริกเขียวสด 5-6 เม็ด

ขั้นตอนและวิธีการทำข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani)

สำหรับขั้นตอนและวิธีการทำข้าวหมกไก่อินเดีย (Chicken Biryani) แม้ข้าวหมกไก่ชนิดนี้จะมีเครื่องเทศมากมายหรือเรียกให้ถูกคือหนักเครื่องเทศมาก และใช้เวลาในการประกอบอาหาพอสมควร แต่ใดๆอาหารชนิดนี้เมื่อเสร็จสมบูรณ์จัดจานมาแล้วอาหารชนิดนี้ถือเป็น อาหารรสเด็ด ที่ไม่เพียงแต่มีรสเด็ดจากการหมักไก่ให้เข้าเครื่องเพียงอย่างเดียว แม้แต่ตัวข้าวของเค้าเองก็เป็นอะไรที่อร่อยสมกับเป็นข้าวหมกไก่จริงๆค่ะ เมื่อมสถึงขั้นการทำอาหารทางเราเองก็แอบมีสูตรลับๆแบบต้นตำหรับมาฝากสำหรับคนชอบทานอาหารอินเดียได้ลองทำทานกันง่ายๆที่บ้านได้เลยค่ะ สามารถติดตามขั้นตอนการทำได้เลยที่ด้านล่างนี้

ข้าวหมกไก่อินเดีย

ขั้นตอนและวิธีการทำ

  1. เนื้อไก่ หมักกับเครื่องเทศทั้งหมดแล้วหมักทิ้งไว้ 30 นาทีอย่างต่ำ
  2. ไก่ที่หมักแล้ว ผสมโยเกิร์ต คลุกให้เข้ากัน
  3. นำหอมสับลงไปผัดกับเนยจนหอมแล้วเริ่มเป็นสีทอง
  4. นำไก่ลงไปผัด ใส่พริกแห้ง ใส่มะเขือเทศลงไป
  5. เติมน้ำลงไป ผัดต่อจนไก่สุก
  6. ข้าวบาสมาติ ซาวน้ำและแช่น้ำทิ้งใว้สัก 15 นาที ให้ข้าวเริ่มอุ้มน้ำ
  7. ใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ทาน้ำมันใว้ที่ก้นหม้อหุงข้าวนิดหน่อย กันข้าวและไก่ติด ตักเนื้อไก่ที่สุกแล้ววางลงไป
  8. วางข้าวลงไปทับไก่
  9. เทน้ำผัดทั้งหมดลงไป ใส่เปลือก ซิเนม่อนลงไป
  10. กดปุ่มหุง พอข้าวสุก เปิดฝาใส่พริกสดลงไป แล้วคุ้ยข้าวขึ้นมาให้ทั่วกันจากนั้นปิดฝาพักทิ้งไว้เป็นอันใช้ได้
  11. ตักข้าวใส่จานวางท็อปด้วยไก่เป็นอันพร้อมรับประทาน

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

Dendeng Ragi จัดจ้านเข้มข้นถึงใจ

วันนี้เรามีเมนูหน้าตาไม่คุ้นเคย แต่รสชาตช่างถูกปากซะเหลือเกินมาให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จักกัน นั่นคือเมนู Dendeng Ragi ที่บ่งบอกถึงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารของชาวอินโดนีเซียได้อย่างแท้จริง เพราะในเมนูจานนี้อัดแน่นไปด้วยวัตถุดิบยอดนิยมของที่นี่ บอกได้เลยว่าไม่ว่าใครที่ได้รับประทานเมนูนี้จะรู้สึกประทับใจอย่างแน่นอน

Dendeng Ragi

Dendeng Ragi เป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียที่มีเอกลักษณ์มากๆ จานหนึ่ง ไม่ว่าใครที่เดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศนี้ ก็เป็นอันต้องสะดุดตากับเมนูนี้อย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูที่มีความแปลกใหม่เป็นอย่างมาก คงเพราะว่าปกติแล้วเรามักจะไม่ค่อยได้เห็นเมนูอาหารที่นำมะพร้าวขูดมาเป็นองค์ประกอบหลักอยู่ในเมนูอาหารคาว แต่มักจะเห็นการใช้กะทิเสียมากกว่า ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเมนูถึงได้ดึงดูดความสนใจแก่นักท่องเที่ยวจนเป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องลอง อีกทั้ง Dendeng Ragi ยังเป็นเมนูที่คนในประเทศก็นิยมมากเช่นเดียวกันด้วย

สูตรและขั้นตอนการทำ Mie Kuah Aceh

ความน่าสนใจของเมนูนี้หลักๆ คือการที่นำมะพร้าวขูดซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักมาผัดเข้ากับเครื่องเทศอินโดนีเซียจนมีกลิ่นหอม หลังจากนั้นก็นำไปคลุกเคล้ากับเนื้อสไลด์แผ่นหนากำลังดีที่ผ่านการตุ๋นมาจนเนื้อนุ่ม อีกทั้งเมนูDendeng Ragi นี้ยังมีขั้นตอนการทำที่พิถีพิถันอีกด้วย วันนี้เราเลยอยากจะมาชวนทุกคนมาลองทำอาหารอินโดนีเซียจานนี้กันดูนะคะ รับรองว่าจะหลงรักเมนูนี้เหมือนเราอย่างแน่นอน ถ้าพร้อมแล้วไปลงมือทำพร้อมกันเลยค่ะ

Dendeng Ragi

วัตถุดิบในการทำอาหาร

  • เนื้อ 500 กรัม
  • ผงผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขมิ้น 20 กรัม
  • กระเทียม 5 กลีบ
  • ข่า 4 ซม.
  • น้ำตาล 3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำ 600 มล.
  • เกลือ 1 ช้อนชา 

วัตถุดิบในการทำเครื่องแกง

  • มะพร้าวขูด 500 กรัม
  • หอมแดง 5 กลีบ
  • กระเทียม 4 กลีบ
  • ข่า 3 ซม.
  • ขิง 3 ซม.
  • ใบมะกรูด 5 ใบ
  • น้ำ 100 มล
  • ผงผักชี 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  • พริกแดงเม็ดใหญ่ 7 เม็ด
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  • เกลือ 1 ½ ช้อนชา
  • น้ำมันปรุงอาหาร 1 ลิตร

ขั้นตอนการทำเครื่องแกงมะพร้าว

  • นำหอมแดง และกระเทียมมาปลอกเปลือก หลังจากนั้นก็ล้างให้สะอาด
  • เสร็จแล้วนำหอมแดง กระเทียม ข่า ขิง ใบมะกรูด ผงผักชี พริกแดงใหญ่ใส่ลงเครื่องปั่น และเติมน้ำลงไปเพื่อให้ปั่นได้ง่ายขึ้น ถ้าไม่มีเครื่องปั่นให้ใช้การตำแทนได้ แต่ไม่ต้องเติมน้ำขณะที่ตำ 
  • หลังจากนั้นนำกระทะขึ้นตั้งบนเตาด้วยไฟร้อนปานกลาง 
  • ใส่มะพร้าวขูดลงไปได้เลย โดยไม่ต้องรอให้กระทะร้อน หลังจากนั้นคั่วมะพร้าวสักครู่หนึ่ง
  • จากนั้นใส่เครื่องเทศที่ปั่นไว้ลงไป (ในส่วนนี้ถ้าใช้การตำเครื่องแกงก็ให้เติมน้ำในขั้นตอนนี้ได้เลย) คลุกเคล้าให้เข้ากันดีกับมะพร้าวคั่ว
  • สุดท้ายเติมเกลือ และน้ำตาลลงไป คนให้เข้ากันดีอีกครั้ง 
  • เสร็จแล้วตั้งพักไว้เพื่อรอประกอบอาหาร

ขั้นตอนการทำอาหาร

  • นำน้ำใส่หม้อขึ้นตั้งเตาไฟด้วยไฟกลางจนถึงค่อนข้างแรง
  • ระหว่างรอน้ำเดือนก็ให้นำผงผักชี ขมิ้น กระเทียม และข่า ใส่ลงในเครื่องปั่น ปั่นจนกระทั่งเครื่องสมุนไพรเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน หากไม่มีเครื่องปั่นใช้ครกตำแทนได้ 
  • เมื่อสมุนไพรเนียนละเอียดดีแล้วให้ตักใส่ลงในหม้อน้ำที่ตั้งไว้บนเตาตามด้วยเกลือ น้ำตาล และเนื้อวัวลงไป
  • พอน้ำเริ่มเดือนอีกครั้ง ก็ให้ลดไฟลงเหลือไฟกลางจนเกือบเบา เคี่ยวต่อประมาณ 1 ชั่วโมง
  • หลังจาก 1 ชั่วโมง ให้นำเนื้อออกมาพึ่งให้เย็นลงที่อุณหภูมิห้อง
  • หั่นเนื้อที่เย็นแล้วเป็นชิ้นขนาด 1 ซม. แล้วแผ่เป็น ½ ซม. พักไว้
  • ใส่เนื้อวัวที่หั่นเสร็จแล้วลงไปในหม้อน้ำซุปเดิม และเติมน้ำอีก 200 มล. นำขึ้นตั้งเตาเปิดไฟกลาง
  • เคี่ยวต่อจนเนื้อนุ่ม และน้ำซุปลดลง ใช้เวลาประมาณ 20 นาที 
  • นำออกมาจากหม้อตั้งพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
  • นำกระทะที่แห้งสนิทขึ้นตั้งเตาอีกครั้งโดยใช้ไฟปานกลาง
  • นำเนื้อที่ตุ๋นเสร็จแล้ว และเครื่องแกงมะพร้าวลงไปผัดจนแห้ง
  • ผัดไปเรื่อย ๆ จนมะพร้าวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง และแห้งสนิท ก็เป็นอันเรียบร้อย
Dendeng Ragi

ลองทำเมนู Dendeng Ragi ตามสูตรข้างต้นกันดูนะคะรับรองได้เลยว่าอร่อยอย่างแน่นอน แต่ถ้าอยากจะอร่อยมากขึ้นกว่าเดิมแล้วนั้นก็ควรรับประทานอาหารอินโดนีเซียจานนี้คู่กับข้าวสวยร้อนๆ ก็ช่วยให้อร่อยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งเมนูนี้ยังเสิร์ฟคู่กับเครื่องเคียงเป็นเทมเป้ทอด และเต้าหู้ทอดเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับประทานมากขึ้นอีกด้วย

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

Coto Makassar ซุปเนื้อสูตรเด็ดที่ไม่ควรพลาด

ถ้าวันนี้คุณรู้สึกไม่สบาย อยากจะหาอาหารรับประทานให้ร่างกายอบอุ่นสักเมนูหนึ่งแล้วหละก็ เราอยากจะแนะนำเมนู Coto Makassar ซึ่งเมนูนี้เป็นซุปเนื้อที่แปลกใหม่ มีรสชาติเข้มข้น หอมเครื่องเทศ เมื่อได้รับประทานเข้าไปแล้วช่วยให้ร่างกายอบอุ่น และสดชื่นอีกด้วย

Coto Makassar

Coto Makassar หรือที่เรียกกันว่าซุปเนื้อมากัสซาร์เป็นเมนูซุปที่ตั้งชื่อมาจากเมืองมากัสซาร์ เมืองหนึ่งของประเทศอินโดนีเซียนั่นเอง เมนูนี้ยังถูกจัดว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียที่มีชื่อเสียงเมนูหนึ่งของประเทศนี้อีกด้วย เพราะไม่ว่าใครที่เคยได้รับประทานเมนูนี้ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นหนึ่งในเมนูที่ต้องลอง เมื่อมาเที่ยวที่ประเทศอินโดนีเซียแห่งนี้ เพราะนอกจากจะอร่อยแล้วยังบ่งบอกถึงความใส่ใจ และความพิถีพิถันในการทำเมนูนี้อีกด้วย

สูตรและขั้นตอนการทำ Coto Makassar

อย่างที่บอกไว้ว่าเมนูCoto Makassar เป็นเมนูที่มีความพิถีพิถันมาก เนื่องจากเป็นเมนูที่ต้องใช้เครื่องในวัว และเนื้อวัวเป็นส่วนประกอบในจานนี้ จึงต้องมีการจัดการให้สะอาด เพื่อป้องกันไม่ให้มีกลิ่นสาบ อีกทั้งยังต้องนำไปตุ๋นให้น้ำเครื่องเทศค่อยๆ ซึมเข้าไปยังวัตถุดิบต่างๆ เพื่อความนุ่มละมุนลิ้น อย่างไรก็ตามถ้าใครไม่ชอบรับประทานเครื่องในก็อาจจะใส่เพียงแค่เนื้ออย่างเดียวก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้แล้วซุปเนื้อมากัสซาร์ยังนิยมรับประทานคู่กับซอสเต้าเจี้ยวซัมบัล เพื่อเพิ่มรสชาตให้เข้มข้นอีกด้วย บอกได้เลยว่าอาหารอินโดนีเซียจานนี้มีเอกลักษณ์เป็นอย่างมาก ถ้าใครได้ลองจะต้องติดใจอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยอยากจะแนะนำการทำอาหารเมนูนี้ให้คนที่สนใจอยากจะลองรับประทานกันดู ถ้าพร้อมแล้วไปเตรียมวัตถุดิบ และเริ่มทำเมนูนี้ไปพร้อมๆ กันได้เลยค่ะ

Coto Makassar

วัตถุดิบในการทำซุปเนื้อ

  • น้ำมันปรุงอาหาร 5 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 15 กลีบ
  • ตะไคร้ทุบ 3 ต้น 
  • ข่าสดทุบ 2 นิ้ว 
  • ผักชีป่น 5 ช้อนชา 
  • ยี่หร่าป่น 1 ช้อนชา 
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1 ช้อนโต๊ะ
  • เนื้อน่อง 500 กรัม 
  • เครื่องใน 500 กรัม 
  • น้ำ 2 ลิตร 

วัตถุดิบในการทำซอสพริก

  • น้ำมันปรุงอาหาร 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแดง 4 เม็ด 
  • พริกไทย 4 เม็ด 
  • หอมแดง 4 หัว
  • กระเทียม 2 กลีบ
  • เต้าเจี้ยว 5 ช้อนโต๊ะ 

ขั้นตอนการทำซุปเนื้อ

  • นำน้ำมันใส่หม้อ และนำขึ้นตั้งเตาด้วยไฟกลาง
  • เมื่อน้ำมันร้อนแล้วให้ใส่กระเทียมสับ ตะไคร้ทุบ ข่าทุบ ผงผักชี ผงยี่หร่า และพริกไทยป่นลงไปผัดจนหอม หรือใช้เวลาประมาณ 3-5 นาที
  • เมื่อสมุนไพรในหม้อหอมดีแล้วให้ใส่เนื้อน่องวัว และเครื่องในวัวที่หั่นเตรียมไว้ลงไป ผัดคลุกเคล้าให้ทั่ว
  • หลังจากนั้นให้ใส่น้ำ และเกลือตามลงไปรอจนกระทั่งเดือดดีแล้วให้ลดความร้อน
  • เคี่ยวต่อจนกระทั่งเนื้อ และเครื่องในค่อนข้างนุ่ม หรือเปื่อย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
  • นำเนื้อ และเครื่องในออกมาจากหม้อรอให้เย็นลงสักพัก
  • หลังจากนั้นก็หั่นให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำ
  • เมื่อหั่นเสร็จแล้วให้นำกลับไปใส่ลงในหม้อเหมือนเดิม 
  • เติมนำลงในหม้ออีกครั้ง และเคี่ยวต่ออีกประมาณ 1 ชั่วโมง หรือจนกระทั่งวัตถุดิบนุ่ม

ขั้นตอนการทำซอสเต้าเจี้ยวซัมบัล

  • น้ำมันใส่ลงในกระทะ และตั้งเตาด้วยไฟกลางจนกระทั่งน้ำมันร้อนดีแล้ว
  • นำพริกแดง พริกไท หอมแดง และกระเทียมลงไปคั่วจนหอม โดยใช้เวลาประมาณประมาณ 3 นาที 
  • เมื่อคั่วจนหอมดีแล้วให้นำออกจากกระทะ พักให้เย็นลงเล็กน้อย
  • นำพริกทอด หอมแดง กระเทียม และเต้าเจี้ยวเทลงลงในเครื่องปั่น ปั่นจนละเอียดเพื่อทำซอสเต้าเจี้ยวซัมบัล
  • หลังจากนั้นให้นำเครื่องเทศที่ปั่นเสร็จแล้วเติมลงไปในเต้าเจี้ยว 3 ช้อนโต๊ะ
Coto Makassar

เพียงเท่านี้คุณก็จะได้รับประทานเมนูCoto Makassar ที่เนื้อนุ่ม ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำซุปเครื่องเทศที่หอมอร่อย ยิ่งได้รับประทานคู่กับซอสเต้าเจี้ยวซัมบัล ที่ทำเตรียมไว้รับประทานคู่กันแล้วหละก็เข้ากันเป็นอย่างดียิ่งนัก นอกจากนี้แล้วเรามักจะโรยต้นหอมซอย และใบกุยช่ายลงในอาหารอินโดนีเซียจานนี้ก่อนจัดเสิร์ฟ หากบีบมะนาวลงไปเล็กน้อยก็จะช่วยให้ได้รสชาตที่จัดจ้านขึ้นได้อีกด้วย

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

Bitterballen อร่อยไม่ยั้ง

อาหารทานเล่นเมนูหนึ่งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ก็คงหนีไม่พ้นลูกชิ้นอย่างแน่นอน เพราะเป็นอาหารที่หารับประทานได้ง่าย สะดวกสบาย อีกทั้งถูกปากหลายๆ คนอีกด้วย ซึ่งวันนี้เรามีเมนูลูกชิ้นที่ค่อนข้างจะแปลกตากว่าลูกชิ้นทั่วไปมากฝากเพื่อนๆ กัน นั่นคือเมนู Bitterballen ที่หน้าตา และขั้นตอนการทำไม่เหมือนลูกชิ้นอื่นๆ แน่นอน

Bitterballen

Bitterballen หรือ ลูกชิ้นดัตช์ ถ้าฟังจากชื่อคงอาจจะเดายากว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซีย แน่นอน สาเหตุที่ชื่อนี้ก็เพราะว่ามันเป็นอาหารที่ได้รับอิทธิพลมาจากชาวดัตช์ ในสมัยก่อนเมื่อประเทศอินโดนีเซียถูกปกครองโดยเนเธอร์แลนด์จึงทำให้ช่วงนั้นได้รับอิทธิพลต่างๆ เข้ามา รวมไปถึงอิทธิพลทางด้านอาหารอีกด้วย ดังนั้นเมนูนี้จึงเป็นเมนูที่ผสมผสานความอร่อยที่เข้ากันดีระหว่าง 2 สัญชาติอีกด้วย 

สูตรและขั้นตอนการทำ Bitterballen

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความน่าสนใจของเมนู Bitterballen นั้นก็คือการนำเอามันฝรั่ง เห็ด และเนื้อนำไปผสมรวมกันจนได้รสชาติ และรสสัมผัสที่เข้ากันดีอย่างน่าตกใจ อีกทั้งเมื่อนำไปทอดก็จะได้ความกรุบกรอบจากแป้งด้านนอกและเมื่อนำไปจิ้มซอสสูตรพิเศษด้วยแล้วหละก็ยิ่งเพิ่มความอร่อยเข้าไปได้มากอีกด้วย นอกจากนี้แล้วสีสันของลูกชิ้นดัตช์นั้นที่มีความเหลืองทอง ก็ทำให้ชวนอยากรับประทานมากขึ้นไปอีก เรียกได้ว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซีย ที่ชวนหิวตลอดเวลาเลยทีเดียวเชียว ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะชวนทุกคนมาลองทำเมนูนี้กันดูนะคะ รับรองเลยว่าอร่อยถูกใจอย่างแน่นอน

Bitterballen

วัตถุดิบในการทำอาหาร

  • เนย 3 ช้อนโต๊ะ 
  • หัวหอมสับละเอียด 100 กรัม 
  • เห็ดหูหนูขาวสับ 100 กรัม 
  • เนื้อบด 200 กรัม 
  • แป้งเอนกประสงค์ 40 กรัม 
  • นม 250 มล. 
  • มันฝรั่ง 400 กรัม (ปอกเปลือก ต้มและบด)
  • ลูกจันทน์เทศบด 2 ช้อนชา 
  • เกลือ 2 ช้อนชา 
  • พริกไทยขาวป่น 1 ช้อนชา 
  • น้ำตาล 1/2 ช้อนชา 
  • เชดดาร์ชีสขูด 40 กรัม 
  • ขึ้นฉ่ายจีนหั่นบาง ๆ 4 ต้น 
  • น้ำมันสำหรับทอด

วัตถุดิบสำหรับทำแป้งเคลือบด้านนอก

  • เกร็ดขนมปังสำหรับทอด 2 ถ้วย 
  • ไข่ไก่ 3 ฟอง 

วัตถุดิบสำหรับทำซอส

  • มายองเนส 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำพริกเผาตามใจชอบ 2 ช้อนโต๊ะ

ขั้นตอนการผสมวัตถุดิบ

  • นำเนยใส่ลงในกระทะ และตั้งเตาด้วยไฟกลาง หลังจากนั้นนำหัวหอมสับมาผัดในกระทะที่มีเนย จนหัวหอมสุก โดย หัวหอมจะเปลี่ยนเป็นสีใสๆ
  • ใส่เห็ดหูหนูขาวสับลงไปผัด จนกระทั่งเห็ดเริ่มสลดลง
  • ต่อจากนั้นใส่เนื้อบดลงไปผัดจนเกือบสุก
  • ใส่แป้งอเนกประสงค์ลงไปคนจนส่วนผสมจับตัวเป็นก้อน 
  • จากนั้นค่อยๆ เทนมลงไป แล้วคนต่อจนซอสข้น และเนียน
  •  ใส่มันบด ลูกจันทน์เทศ เกลือ พริกไทยป่น น้ำตาล เชดดาร์ และใบขึ้นฉ่ายลงไปผสมให้เข้ากัน
  • จากนั้นก็ผัดต่อไปจนกระทั่งน้ำเริ่มแห้ง 
  • หลังจากนั้นก็ปิดไฟ และตั้งพักไว้

ขั้นตอนการปั้นเป็นทรงกลม

  • ตรวเชควัตถุดิบที่ผสมไว้ข้างต้นแล้ว ว่าเย็นลงหรือยัง ซึ่งวัตถุดิบควรจะอุณภูมิเท่ากับห้อง
  • ตักวัตถุดิบขึ้นมา โดยเฉลี่ยขนาด 1 ½ ช้อนโต๊ะ (ขนาดสามรถปรับได้ตามที่ต้องการ)
  • ต่อจากนั้นก็คลึงวัตถุให้ขึ้นเป็นรูปทรงกลม
  • หลังจากนั้นก็นำไปคลุกด้วยเกล็ดขนมปัง (หรือแป้งอเนกประสงค์ก็ได้) เสร็แล้วนำไปคลุกไข่ที่ตีไว้ ขั้นตอนสุดท้ายที่ขาดไม่ได้เลยคือการนำไปคลุกเกล็ดขนมปังอีกครั้งหนึ่ง

ขั้นตอนการทอด 

  • เทน้ำมันทอดอาหารลงในกระทะ และนำขึ้นตั้งไฟด้วยความร้อนจัดจนถึงปานกลาง หรือประมาณอุณหภูมิถึง 170 องศาเซลเซียส
  • จากนั้นค่อยๆ นำBitterballen ที่ปั้นไว้ลงทอดทีละน้อยๆ โดยอย่าให้เบียดกันจนเกินไป
  • ทอดไปจนกรอบ ผิวด้านนอกกลายเป็นสีเหลืองทองดีแล้ว ก็นำขึ้นมาพักไว้สะเด็ดน้ำมัน

ขั้นตอนการทำซอส

  • ผสมมายองเนส กับ พริกเผาเข้าด้วยกัน
  • คนจนส่วนผสมเป็นเนื้อเดียวกัน ก็เป็นอันเรียบร้อย
Bitterballen

เมนูBitterballen เป็นเมนูที่ทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมหละคะ ถ้าใครหิวแต่ไม่อยากรับประทานอาหารที่หนักจนเกินไปก็สามารถทำเมนูลูกชิ้นดัตช์ แทนได้เลยนะคะ หรือถ้าอยากจะทำไว้สำหรับเป็นเมนูอาหารว่างต้อนรับแขก ก็ถือว่าเป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียที่น่าสนใจมากๆ เมนูหนึ่ง รับรองได้เลยว่าทุกคนจะต้องแปลกใจกับความอร่อยนี้แน่นอน

จีคลับ ฝากถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

Ayam Rica Rica อร่อยจัดจ้านถึงใจ

Ayam Rica Rica เมนูที่มองผ่านๆ ช่างดูคล้ายกับเมนูไก่ผัดเผ็ดของไทยเรามากๆ นั่นเอง แต่อันที่จริงแล้วเมนูนี้ก็มีความต่างอยู่ไม่น้อย ถึงแม้ว่าหน้าตาของมันจะดูคล้ายกัน แต่ในเรื่องของเครื่องแกงก็ค่อนข้างต่างกันอยู่ จึงทำให้กลิ่นและรสชาติต่างไปตามๆ กันอีกด้วย แต่ที่เหมือนกันก็คงเป็นความอร่อยนั่นเอง

Ayam Rica Rica

เมนูAyam Rica Rica หรือ ไก่ซอสพริกอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในเมนูอาหารอินโดนีเซียมีแหล่งที่มาจากมานาโด สุลาเวสีเหนือ โดยมีวัตถุดิบหลักที่ทำให้เมนูน่าสนใจกว่าเมนูอื่นก็ตรงที่รสชาตของมันจัดจ้านจากพริกแดง และขิงอ่อนที่ใส่ลงไป อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมที่ได้จากขิงอ่อนและตะไคร้อีกด้วย ถูกอกถูกใจคนไทยอย่างเราแน่นอน อย่าลืมนะคะว่าถ้าใคมีโอกาสได้ไปเที่ยวอินโดนีเซียอย่าลืมเมนูนี้เด็ดขาดเลย 

สูตรและขั้นตอนการทำ Ayam Rica Rica

แต่ถ้าใครยังไม่มีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวประเทศอินโดนีเซียนี้ แล้วอยากจะรับประทานเมนูAyam Rica Rica แล้วหละก็ เรามีสูตร และวิธีการทำแบบง่ายๆ มาฝากกัน แต่แอบบอกก่อนว่าเมนูอาหารอินโดนีเซียจานนี้มีหลายสูตรอยู่เหมือนกันนะคะ ซึ่งแต่ละสูตรก็ต่างกันเล็กน้อยเช่น บางสูตรก็นำไก่ไปทอดให้มีสีสันสวยงาม และผิวสัมผัสกรอบเล็กน้อย  อีกทั้งยังได้กลิ่นไก่ทอดอ่อนๆ หรือจะเป็นในส่วนของใบมะกรูดที่บางสูตรก็ตำใส่ลงในเครื่องแกงเลย แต่บางสูตรแค่ฉีกโรยหน้าเท่านั้น แต่วันนี้เราจะมาทำAyam Rica Rica สูตรที่ไม่ต้องทอดไก่ก่อน และแค่ฉีกใบมะกรูดโรยหน้าเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญของทุกสูตรคือต้องใช้ขิงอ่อนจะดีที่สุด

Ayam Rica Rica

วัตถุดิบในการประอาหาร

  • ไก่ 500 กรัม (สามารถเลือกชิ้นส่วนที่ชอบรับทานมาทำได้เลย)
  • มะนาวลูกเล็ก 1 ลูก 
  • มะเขือเทศขนาดกลาง 1 ลูก
  • ตะไคร้ 2 ต้น
  • น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 1 ถ้วย
  • น้ำตาลทรายแดง 1 ช้อนชา
  • ใบมะนาว หั่นบาง ๆ 2 ใบ
  • เกลือและพริกไทยดำตามชอบ

วัตถุดิบการทำเครื่อง

  • พริกแดงเม็ดใหญ่ 5 เม็ด
  • ขิง 4 ซม.
  • หอมแดงเล็ก 8 หัว
  • กระเทียม 4 กลีบ

ขั้นตอนการทำเครื่องแกง

  • นำหอมแดงและกระเทียมมาปลอกเปลือก หลังจากนั้นก็ล้างวัตถุดิบที่ทำพริกแกงให้สะอาด
  • รอจนสะเด็ดน้ำ และใส่ลงในเครื่องปั่นพร้อมกับวัตถุดิบในการทำเครื่องแกงอื่นๆ (ถ้าใครไม่มีเครื่องปั่น สามารถใช้การตำด้วยครกได้)
  • ปั่นโดยไม่ต้องละเอียดมาก เพื่อให้ได้สัมผัสถึงเครื่องแกง 
  • เมื่อปั่นเสร็จแล้วให้ตั้งเครื่องแกงพักไว้ และเริ่มจัดการวัตถุดิบอื่นๆ

ขั้นตอนประกอบอาหาร

  • นำไก่ที่เตรียมไว้มาล้างทำความสะอาด และสับเป็นชิ้นๆ ตามที่ชอบ โดยไม่ต้องดึงหนังไก่ทิ้ง

 (เมนูนี้ปกติจะใช้ไก่ส่วนน่องติดสะโพก และไม่ต้องสับ )

  • เมื่อจัดการไก่เสร็จเรียบร้อยแล้วก็นำมาหมักด้วยเกลือ 1 ช้อนชา และน้ำมะนาว ปล่อยทิ้งไว้เป็นเวลา 15 นาที 
  • บดตะไคร้ให้ค่อนข้างละเอียด แต่ให้เนื้อสัมผัสยังมีความหยาบอยู่เล็กน้อย และห้ามปั่นจนเละเด็ดขาด หลังจากนั้นก็นำมะเขือเทศมาสับหยาบๆ 
  • เทน้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะลงกระทะ และนำขึ้นตั้งบนเตาด้วยระดับไฟที่ร้อนจัด 
  • รอจนกระทั่งกระทะและน้ำมันร้อนจัดประมาณ 5 นาที 
  • ใส่น้ำมันเพิ่มอีก 1 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นก็ให้เบาไฟลงเป็นระดับกลาง
  • นำเครื่องแกงที่เตรียมไว้ใส่ลงไปผัดในน้ำมันที่ร้อนประมาณ 2-3 นาที หรือจนกระทั่งเครื่องแกงมีกลิ่นหอม
  • นำไก่ ตะไคร้ มะเขือเทศ และน้ำเปล่า ใส่ลงไปตามลำดับ 
  • ปรุงรสด้วย น้ำตาลทรายแดง เกลือ และพริกไทย 
  • ชิมรสชาตให้ถูกปาก เมื่อได้รสชาตที่ต้องการแล้วก็ให้เคี่ยวต่อไปประมาณ 5-10 นาที จนน้ำระเหยเกือบหมด

โดยระหว่างเคี่ยวก็ให้คนเป็นระยะๆ 

  • เสร็จแล้วก็ตักใส่จานตกแต่งด้วยใบมะกรูดเตรียมเสิร์ฟคู่กับข้าวสวยร้อนๆ เพื่อตัดความเผ็ดได้เลย
Ayam Rica Rica

เห็นไหมหละคะว่าเมนูAyam Rica Rica เป็นเมนูอาหารอินโดนีเซียที่ทำไม่ยากเลย อีกทั้งวัตถุดิบที่เราใช้ก็สามารถหาซื้อได้ในประเทศของเราอีกด้วย อาจจะเพราะว่าเป็นประเทศที่อยู่ในโซเอเชียตะวันออกเหมือนกัน พวกสมุนไพรต่างๆ จึงไม่ต่างกันมาก ดังนั้นถ้าใครสนใจอยากจะรับประทานเมนูนี้ก็สามารถใช้สูตรด้านบนที่เรานำมาฝากได้เลยค่ะ

สนับสนุนโดย : https://gclubspecial168.com/

Categories
สูตรอาหาร

แกงคั่วสับปะรดหมู แกงรสกลมกล่อมจากภาคใต้

ภาคใต้เขาขึ้นชื่อในเรื่องของเมนูอาหารที่มีรสจัดจ้านถึงเครื่องมาก โดยเฉพาะเมนูแกงต่าง ๆ ที่มีสีสันน่าทานและยังรสชาติแซ่บถึงใจอีกด้วย วันนี้เราขอพามาทำความรู้จักกับ แกงคั่วสับปะรดหมู เป็นอีกหนึ่งเมนูแกงที่น่าทำทานมาก เรียกได้ว่าน่าทานตั้งแต่หน้าตา กลิ่นที่หอมและรสชาติเลย เมนูนี้เขามีหลากหลายรสชาติด้วยกัน ทั้งความหอมมันของกะทิ ความเปรี้ยวอมหวานจากเนื้อสับปะรด และรสชาติอร่อยลงตัวของเนื้อสันในที่ใส่เข้าไป เรียกว่าเป็นเมนูเบิ้ลข้าวสวยเลยก็ว่าได้ แกงซดน้ำที่ได้ทั้งความอร่อยและประโยชน์จากเนื้อสัตว์ รวมไปถึงผลไม้รสเปรี้ยวอมหวานอย่างสับปะรด รับรองว่าเป็นเมนูที่ดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอน

แกงคั่วสับปะรดหมู

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนู แกงคั่วสับปะรดหมู 

1.สับปะรดหั่นเป็นชิ้น 300 กรัม

2.เนื้อสันในหมูหั่นเป็นชิ้น 250 กรัม 

3.กะทิ ความเข้มข้นปานกลาง 3 ถ้วยตวง 

4.หัวกะทิ 1-2 ถ้วยตวง 

5.พริกชี้ฟ้าสีแดง หั่นเป็นเฉียง 

6.ใบมะกรูด 5 ใบ

7.น้ำมะขามเปียก 2-3 ช้อนโต๊ะ 

8.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

9.น้ำตาลปี๊บ 1-2 ช้อนโต๊ะ 

10.น้ำพริกแกงคั่ว

11.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ 

12.พริกชี้ฟ้าแห้ง 5 เม็ด ให้แกะเมล็ดออกด้วย

13.พริกขี้หนูแห้ง (แช่น้ำให้ชุ่มเล็กน้อย) 5 เม็ด

14.กะปิ 2 ช้อนชา

15.หอมแดงหั่นหยาบ ๆ 50 กรัม

16.ข่าซอย 1 ช้อนชา

17.กระเทียมไทย 20 กรัม

วิธีการทำเมนู แกงคั่วสับปะรดหมู 

1.ตั้งกระทะขึ้น เติมน้ำมันลงไปเล็กน้อย ใส่น้ำพริกแกงคั่วลงไปผัดกับน้ำมันพอหอม

2.จากนั้นให้เติมหัวกะทิลงไปในกระทะ ผัดเรื่อย ๆ จนกะทิแตกมัน 

3.เติมกะทิลงไปอีกรอบ พอเริ่มเดือดให้ใส่ เนื้อสันในหมู ลงไป ผัดไปเรื่อย ๆ จนเริ่มสุก จากนั้นก็ใส่สับปะรดลงไป

4.ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก และน้ำตาลปี๊บ คนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันดี เคี่ยวต่อไปปเรื่อย ๆ 

5.ทำการโรยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าโรยลงหน้าแกง ใช้ทัพพีคนให้พอเข้ากันกับแกง 

6.ปิดไฟ ยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วยและพร้อมเสิร์ฟเมนู แกงคั่วสับปะรดหมู ได้เลยทันที

แกงคั่วสับปะรดหมู

เมนูแกงคั่วสับปะรดหมู อร่อยพร้อมได้ประโยชน์จาก สับปะรด

หลายคนอาจคิดว่าวัตถุดิบที่เป็นของคาวกับของหวานจะเข้ากันได้ และอาจจะคิดว่าผลไม้จะนำมาทำเป็นอาหารคาวได้อย่างไร เมนูแกงคั่วสับปะรดหมู นี่แหละที่จะบอกคุณได้ว่ามันสามารถเข้ากันได้อย่างไร นอกจากจะเข้ากันได้แล้วเมนูนี้ยังทำออกมาแล้วอร่อยมากอีกด้วย โดยปกติแล้ว เมนูแกงต่าง ๆ จะใช้เนื้อสัตว์และผักเป็นวัตถุดิบในการรังสรรค์เมนูอาหารออกมา แต่อาจจะยังไม่ทราบว่าที่จริงแล้วไม่จำเป็นจะต้องใช้แค่ผักเท่านั้น ผลไม้ต่าง ๆ ก็สามารถนำมาทำเป็นอาหารโดยเฉพาะเมนูแกงได้เช่นเดียวกัน มีผลไม้หลายชนิดที่สามารถนำมาทำเป็นอาหารได้ ไม่ว่าจะเป็นมะละกอ มะพร้าว และที่นิยมมากก็คือ สับปะรด ที่จะนิยมนำมาใส่กับแกงต่าง ๆ โดยเฉพาะแกงของภาคใต้ 

การใส่สับปะรดเข้าไปในแกงนั้น จะทำให้รสชาติของแกงกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เพราะ แกงภาคใต้ นั้นจะทำออกมาเป็นรสชาติที่เผ็ดและแซ่บเข้มข้น ใครที่ชอบรสชาติเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ ต้องถูกใจอย่างแน่นอน แต่บางคนอาจจะชอบกินอาหารใต้ แต่กินเผ็ดไม่ได้มากนัก การใส่ผลไม้หรือสับปะรดลงไป จะช่วยให้รสชาติของอาหารเบาลง และทำให้กินได้ง่ายขึ้น

และอีกอย่างหนึ่งที่เราอยากแนะนำให้ลองทำทานก็คือเมนูแกงคั่วสับปะรดหมู นั่นก็คือ แกงใส่สับปะรดเป็นแกงที่ค่อนข้างมีประโยชน์ สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างคอลลาเจนในผิว และยังเป็นผลไม้ที่ย่อยง่าย ลและยังช่วยย่อยอีกด้วย เพราะมีเอนไซม์ที่เรียกว่าโบรมีเลน มีส่วนช่วยในการลดน้ำหนัก สำหรับใครที่อยากจะลดน้ำหนัก ก็สามารถให้สับปะรดเป็นตัวช่วยของท่านได้ นอกจากนี้สับปะรดยังถือว่าเป็นยาต้านอักเสบอ่อน ๆ อีกด้วย บรรเทาอาการปวด ลดการเกิดไซนัส โรคเข่าเสื่อม และบรรเทาอาการแผลไหม้ ช่วยให้กระดูกแข็งแรง และยังสามารถลดความเครียดได้อีกด้วย บำรุงผิวและบำรุงเลือดได้ดี

แกงคั่วสับปะรดหมู

ไฮโลทย เว็บที่ดีที่สุดในปัจจุบัน ฝากถอนไม่มีขั้นต่ำ  ผ่านระบบอัตโนมัติ

Categories
สูตรอาหาร

แกงอ่อมไก่บ้าน แกงรสชาติเข้มข้นสะใจ

เมนู แกงอ่อมไก่บ้าน ตามแบบฉบับอิสาน ที่มีเอกลักษณ์ของรสชาติที่ไม่เหมือนใคร ใครที่ชอบแกงแบบซดน้ำรสชาติเข้ม ๆ แซ่บ ๆ ต้องถูกใจเมนูนี้อย่างแน่นอน เมนูแกงไก่บ้านของอิสานนี้มีวิธีทำที่ง่ายไม่ยุ่งยาก ใช้วัตถุดิบเพียงน้อยนิดแต่ความอร่อยสุดยอดมาก ที่สำคัญนอกจากจะได้อร่อยไปกับรสชาติของเนื้อไก่บ้านแล้ว ยังได้อร่อยไปกับผักอีกหลากหลายชนิดที่ใส่ลงไป ซึ่งก็จะทำให้ทานง่ายยิ่งขึ้น เพราะคุณจะอร่อยไปกับน้ำแกงอ่อม ท่านใดที่ไม่ทานผักอยากให้ลองทำเมนูนี้ทานเสียก่อน รับรองว่าท่านอาจจะกลายเป็นคนชอบทานผักขึ้นมาก็ได้ เมนูแกงอ่อมที่ให้อิสระแม่ครัวพ่อครัวทั้งหลายในการเลือกสรรผักนานาชนิดใส่ลงไปในเมนูนี้ของคุณได้ตามใจชอบ ซึ่งเมนูนี้ก็มีทั้งสูตรที่ใส่ปลาร้าและไม่ใส่ปลาร้า คุณสามารถเลือกทำได้ทั้งสองแบบ เพราะมีวิธีการทำไม่ต่างกัน แถมยังรสชาติอร่อยเหมือนกันอีกด้วย ซึ่งสูตรนี้จะพาทำแบบไม่ใส่ปลาร้า ถึงแม้ว่าปลาร้าจะเป็นที่ชื่นชอบของใครหลาย ๆ คน แต่ก็ยีงมีบางคนที่ไม่ชอบหรือทานไม่ได้ ฉะนั้นเมนูนี้รับรองว่าเหมาะกับทุกวัยและทุกคนอย่างแน่นอน

แกงอ่อมไก่บ้าน

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนู แกงอ่อมไก่บ้าน

1.ไก่บ้าน 1 หรือ 2 ตัว

2.พริกขี้หนูสด 10 เม็ด (สามารถเลือกใส่ได้ตามใจชอบ)

3.พริกแห้ง 10 เม็ด (สามารถเลือกใส่ได้ตามใจชอบ)

4.ข่า 8 แว่น

5.ใบมะกรูด 8 ใบ

6.หอมแดง 5 หัว 

7.ตะไคร้ 2 ต้น

8.กระชาย 2 ช้อนโต๊ะ

9.กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ

10.เกลือ 1 ช้อนชา

11.ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ 

12.ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ 

13.น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ

14.น้ำซุปไก่ 3 ถ้วย 

15.ผักโสภณ

16.ใบแมงลัก 1 กำ

17.ต้นหอม

18.ผักชีลาว

19.มะเขือเปราะ

20.ผักต่าง ๆ ตามชอบ

วิธีการทำเมนู แกงอ่อมไก่บ้าน

1.เริ่มต้นด้วยการตำน้ำพริกแกงอ่อมเสียก่อน นำพริกกับเกลือมาตำรวมกัน รวมไปถึงเครื่องแกงต่าง ๆ ซึ่งก็ได้แก่ พริกทั้งแห้งและสด กระเทียม หอมแดง ข่า ตะไคร้ กระชาย ใบมะกรูด โขลกพอหยาบ ๆ ไม่ต้องละเอียดมาก 

2.ตั้งหม้อขึ้น ใส่น้ำซุปไก่ลงไปในหม้อ ไม่ต้องเยอะมาก ใส่ลงไปพอขลุกขลิกก็พอ จากนั้นให้เทเครื่องแกงน้ำพริกที่ตำไว้ใส่ลงไปในหม้อ

3.ใส่ ไก่บ้าน ที่สับเป็นชิ้นเอาไว้ตามลงไปในหม้อ ผัดทุกอย่างให้เข้ากัน จนเริ่มสังเกตได้ว่าหนังไก่เริ่มเด้ง ๆ นั่นแปลว่าสุกได้ที่แล้ว 

4.เติมน้ำซุปเพิ่มลงไปอีก แล้วแต่ความชอบว่าชอบน้ำเยอะแค่ไหน จากนั้นให้ปิดฝาและต้มต่ออีก 10 นาที เพราะเนื้อไก่บ้านค่อนข้างที่จะเหนียว ควรใช้เวลาในการต้มให้มาก เพื่อที่เนื้อจะได้สุกดีอและเคี้ยวง่าย 

5.เปิดฝาหม้อและปรุงรสด้วยน้ำปลา ผงปรุงรส (ใช้รสไก่จะดีมาก) และข้าวคั่ว ซึ่งข้าวคั่วนี่แหละจะทำให้เมนูนี้หอมมากขึ้น และถ้าหากใครที่จะทำสูตรแบบใส่ปลาร้า ก็สามารถใส่ปลาร้าลงไปได้เลยตอนนี้ ชิมและปรุงรสชาติได้อีกตามใจชอบ 

6.ใส่ผักชีลาว ต้นหอม มะเขือเปราะ ใบแมงลัก และโหระพาลงไป ตามด้วยผักโสภณและผักต่าง ๆ ตามชอบที่ได้เตรียมไว้ 

7.ใช้ทัพพีกดผักต่าง ๆ ให้จมลงไปในน้ำแกง เพื่อให้ผักสุกดี รอจนน้ำเดือดสักพัก ผักก็จะสุกพอดี จากนั้นให้ปิดไฟและยกหม้อลง ตักใส่ถ้วยที่เตรียมเอาไว้ พร้อมเสิร์ฟเมนูแกงอ่อมไก่บ้าน ได้เลย

แกงอ่อมไก่บ้าน

เมนูซดน้ำแกง ร้อน ๆ ได้ประโยชน์จากผัก

แกงอ่อมไก่บ้านเมนูทานได้ทั้งครอบครัว ถึงแม้ว่าส่วนผสมและเครื่องปรุงต่าง ๆ จะดูมากชนิด แต่ก็เป็นอะไรที่หาได้ง่ายตามร้านขายอาหารทั่วไป และยังมีวิธีการทำที่ง่ายแสนง่าย วัตถุดิบหลักคือไก่บ้าน ที่ถึงแม้ว่าเนื้อจะมีความเหนียวและแน่น แต่ถ้าใช้เวลาในการต้มที่พอเหมาะ ก็จะเป็นเนื้อที่อร่อยมากทีเดียว อีกทั้งยังได้รับประทานคู่กับผักอีกหลากหลายชนิด ซึ่งก็หาได้ง่ายเช่นเดียวกันแกงอ่อมไก่บ้าน เมนูแกงอิสาน ที่ทำง่าย อร่อยแซ่บและได้ประโยชน์

แกงอ่อมไก่บ้าน

สมัครบาคาร่า เว็บที่ผู้ใช้นิยมมากที่สุด ฝาก-ถอนอัตโนมัติ เว็บพนันออนไลน์ ที่ดีที่สุด

Categories
สูตรอาหาร

แกงขี้เหล็ก ใส่ย่างเนื้อ อร่อยเข้มข้นแบบไทย ๆ

หลายคนอาจไม่เคยรู้จักเมนู แกงขี้เหล็ก มาก่อน ยิ่งถ้าหากเป็นวัยรุ่นสมัยนี้ด้วยแล้วนั้นอาจจะยิ่งไม่ เคยได้ลองกินหรือไม่เคยได้ยินชื่อเมนูนี้เลย เมนูแกงขี้เหล็กเป็นเมนูแกงอาหารไทยที่รสชาติอร่อยอีกหนึ่งเมนู มักแกงใส่กับเอ็นวัว เนื้อเปื่อย แคปหมู หรือเนื้อสัตว์อื่น ๆ ได้ตามใจชอบ ผักขี้เหล็กเป็นผักที่มีรสชาติขมมากระดับหนึ่ง แต่หากใช้วิธีการต้มที่ค่อนข้างนาน ก็จะมีรสชาติขมที่พอเหมาะและอร่อย ผักพื้นบ้านที่หาได้ง่าย เมนูรสชาติเลิศรสที่ทำง่าย แต่ได้ออกมาเป็นเมนูที่อร่อยและได้ประโยชน์ ซึ่งสูตรที้เราจะพาทำในวันนี้คือแกงขี้เหล็กสูตรใส่เนื้อย่าง รับรองว่าวัตถุดิบหาง่ายและมีวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ อย่างแน่นอน

แกงขี้เหล็ก

วัตุดิบและวิธีการทำเมนู แกงขี้เหล็ก ใส่เนื้อย่าง

1.ใบขี้เหล็ก 250 กรัม

2.เนื้อย่าง 300 กรัม

3.เนื้อปลานิล 1-2 ตัว

4.เนื้อปลาอินทรีย์เค็ม 1 ช้อนโต๊ะ 

5.เกลือ

6.กระชาย 1-2 ถ้วย

7.น้ำปลาดี 3-4 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ 

9.กะทิ 600 กรัม หรือ 1 กระป๋อง 

10.น้ำพริกแกงแดง 1-2 ถ้วย 

วิธีการทำเมนูแกงขี้เหล็กใส่เนื้อย่าง

1.นำ ใบขี้เหล็ก ที่เตรียมไว้มาล้างให้สะอาดสัก 1 น้ำเสียก่อน จากนั้นตั้งหม้อขึ้นและเติมน้ำ นำใบขี้เหล็กลงไปต้ม เติมเกลือลงไป รสชาติความเค็มของเกลือจะช่วยลดความขมของใบขี้เหล็กได้ เมื่อต้มจนใบขี้เหล็กอ่อนยวบลงแล้ว ให้นำมาล้างน้ำเปล่า จากนั้นก็นำไปต้มใส่น้ำผสมเกลืออีกรอบ และนำมาล้างน้ำเปล่า ทำทั้งหมด 2 รอบด้วยกัน หรือถ้าหากใครที่ไม่ชอบขมเลย ก็ทำเพิ่มอีก 1 รอบ แต่เราแนะนำว่าต้มและล้างแค่ 2 น้ำพอ เพราะเสน่ห์ของรสชาติเมนูแกงขี้เหล็กนั้นอยู่ที่ความติดขมนิด ๆ นี่เอง 

2.นำเนื้อมาหมักกับน้ำปลาหรือซีอิ๊วก็ได้ อาจจะเป้นเนื้อวัวหรือเนื้อหมูก็ได้ 300 กรัม นำมาหมักไว้ประมาณ 5 นาที จากนั้นให้นำไปย่างไฟ จนสุกดี ความสุกนี้แล้วแต่ชอบของคนกินได้เลย อาจจะสุกเกรียม หรือมีเดียมแรร์ก็ได้ แต่ขอแนะนำแบบมีเดียม เพราะเมื่อนำไปแกงแล้วจะสุกอร่อยพอดี

3.นำเนื้อที่ย่างเสร็จแล้วมาหั่นให้เป็นชิ้นพอดีคำแล้วแต่ชอบ พักเอาไว้

4.ตั้งหม้อและเทน้ำสะอาดใส่ นำเนื้อปลาเค็มลงไปต้ม เสร็จแล้วให้กรองเอาแต่น้ำเข้มข้น ในขั้นตอนนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานปลาร้า สามารถใช้ความเค็มของน้ำปลาเค็มแทนได้ ก็จะได้รสชาติที่อร่อยเข้มข้นเหมือนกัน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ทานปลาร้า ถ้าใครที่ชอบการกินปลาร้าก็สามารถนำมาใส่แทนได้เลย 

5.การเตรียมเครื่องแกง นำพริกแกงแดงมาตำรวมกับกระชายและหอม นำเนื้อปลาต้มสุกแล้วมาตำรวมกันกับเครื่องแกงต่าง ๆ อาจใช้เป็นปลานิล ปลาช่อน หรือปลาชนิดอื่น ๆ ก็ได้ตามสะดวกและตามชอบ 

6.เริ่มแกงด้วยการนำหัวกะทิเทลงไปในหม้อ และเทเครื่องแกงลงไปผัดให้เข้ากัน จนกะทิเริ่มแตกมัน แต่ไม่ต้องแตกมันมากนัก 

7.นำเนื้อย่างที่ย่างเตรียมไว้ลงมาผัดกับเครื่องแกง 

8.ให้เติมหางกะทิลงไป รอจนเริ่มเดือด จากนั้นก็ให้นำใบขี้เหล็กที่ล้างน้ำไว้ บีบน้ำออกและใส่ลงไปในหม้อ เคี่ยวกับน้ำแกง รอจนใบขี้เหล็กเริ่มอ่อนนุ่ม

9.ปรุงรสด้วยน้ำปลาเค็มหรือปลาร้า น้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ 

10.เคี่ยวน้ำแกงอีกสักครู่หนึ่ง เลือกปรุงรสชาติที่ถูกใจ จากนั้นให้เติมหัวกะทิปิดท้าย ใช้ทัพพีคนให้เข้ากัน จะได้รสชาติ แกงขี้เหล็ก ที่ออกมาอร่อยมาก

แกงขี้เหล็ก

แกงขี้เหล็กใส่ย่างเนื้อ แกงไทย อร่อยทานง่ายไม่ขม

มีหลายคนที่ชื่นชอบการทาน แกงขี้เหล็ก แต่ไม่ชอบที่รสชาติมันขมเกินไป วันนี้สูตรที่เรานำมาฝากรับรองว่าถูกใจทั้งคนชอบและไม่ชอบแกงขี้เหล็กอย่างแน่นอน เพราะด้วยความที่ต้มน้ำเกลือและล้างน้ำ 2 รอบ จะช่วยลดความขมออกไปได้ และใส่กะทิเติมความมันเข้าไป จึงช่วยให้รสชาติของแกงมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้น เมนูแกงผักพื้นบ้าน ที่หาทานได้ง่าย ใบขี้เหล็กหาเก็บได้ง่าย ๆ ตามบ้าน นำมาประกอบเป็นเมนูที่เลิศรส ทานได้ทั้งครอบครัว

แกงขี้เหล็ก

ไฮโลออนไลน์ เล่นไฮโล เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ ฝากถอนรวดเร็ว ไม่มีขั้นต่ำ เล่นง่าย ได้เงินจริง

Categories
สูตรอาหาร

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด แกงไทยรสชาติหอมน่าทาน

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด เป็นแกงไทยที่อยู่คู่กับคนไทยมาอย่างยาวนาน เสน่ห์ของเมนูแกงชนิดนี้คืออยู่ที่กลิ่นหอม ๆ น่ารับประทาน เพราะแบบนี้จึงเป็นอาหารที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างช้านาน เมนูเบิ้ลข้าวสวยอีกเมนูที่ต้องลองทำกันดู และในวันนี้เราก็จะพามาทำอีกหนึ่งเมนูประเภทฉู่ฉี่ก็คือแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด เมนูที่ทำง่าย วัตถุดิบหลักอย่างปลาทูหาได้ไม่ยาก หาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไป หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมถึงเรียกว่าฉู่ฉี่ แกงฉู่ฉี่เป็นแกงไทยแบบแห้ง ๆ น้ำไม่เยอะ ประเด็นก็คือเวลาทำเมนูนี้จะมีเสียงฉู่ มาจากการเดือดของกะทิ และเกิดเสียงฉี่ ตอนผัดเครื่องแกง นั่นเลยกลายมาเป็นเสียงฉู่ฉี่ จึงเป็นที่มาของชื่อแกงชนิดนี้นั่นเอง รสชาติมีความคล้ายคลึงกับพะแนงและแกงคั่ว แกงฉู่ฉี่เหมาะกับคนที่ชอบแกงไทยแต่ไม่ชอบน้ำเยอะ เมนุปลาฉู่ฉี่สามารถใช้ปลาได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นปลานิล ปลากะพง หรืออาจจะใช้เป็นกุ้งแทนก็ได้

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

วัตถุดิบและวิธีการทำเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด 

1.ปลาทูสด 1-2 ปอนด์ หรือประมาณ 680 กรัม 

2.หัวกะทิ 3-4 ถ้วย 

3.ใบมะกรูด 2 ใบ 

4.ใบมะกรูดหั่นฝอย 4 ใบ ไว้สำหรับโรยหน้า 

5.พริกชี้ฟ้าแดง ซอยเป็นเส้น ๆ 1 เม็ด 

6.น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

7.น้ำปลา 1-2 ช้อนโต๊ะ

8.น้ำตาลปี๊บ 2 ออนซ์ หรือประมาณ 57 กรัม

9.หัวกะทิ ไว้สำหรับโรยหน้า

วิธีการทำเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

1.ใช้ ปลาทู ประมาณ 2-3 ตัว นำมาล้างน้ำเปล่าให้สะอาด ให้ดึงเหงือกและใส้ทิ้ง จากนั้นให้ล้างน้ำเปล่าอีกรอบ ทำการบั้งปลาไว้ เพื่อให้น้ำแกงฉู่ฉี่สามารถซึมเข้าไปในเนื้อปลาได้ง่ายขึ้น และขั้นตอนนี้ยังทำให้รสชาติเมนูนี้อร่อยมากขึ้นด้วย 

2.ตั้งกระทะขึ้น เปิดไฟกลางถึงอ่อน ใส่น้ำมันพืชลงไป รอจนน้ำมันเดือดจึงใส่น้ำพริกแกงลงไป ผัดไปเรื่อย ๆ จนหอม 

3.ใส่หัวกะทิลงไปครึ่งหนึ่ง ลงไปผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน จากนั้นให้ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป ตามด้งบน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บลงไป ผัดให้เข้ากันดี ในกรณีที่ไม่มีน้ำตาลปี๊บ สามารถใช้น้ำตาลทรายแดงได้ หรืออาจจะใช้น้ำตาลทรายขาวก็ได้ 

4.ผัดจนกะทิเริ่มแตกมันอีกครั้ง ให้ใส่หัวกะทิที่เหลือลงไป ตามด้วยหางกะทิครึ่งหนึ่ง ผัดไปเรื่อย ๆ และเปิดไฟให้แรงขึ้น รอจนส่วนผสมเริ่มเดือด

5.ใส่ปลาทูสดลงไป จากนั้นให้ลดไฟลงเป็นไฟอ่อน

6.ใช้ทัพพีตักน้ำแกงค่อย ๆ ราดตัวปลาให้ทั่ว 

7.ใส่หางกะทิลงไปขอบ ๆ ให้ทั่ว เพื่อให้กระทะไม่แห้ง ปิดฝาทิ้งไว้ 15 นาที

8.เปิดฝาแล้วเคี่ยวต่ออีก 3-5 นาทีเพื่อให้น้ำแกงงวด จากนั้นให้ตักน้ำแกงราดบนตัวปลาอีกรอบเพื่อให้น้ำแกงเกาะตัวปลาได้เต็มที่

9.เสร็จจากนั้นโรยหน้าด้วยใบมะกรูดและพริกชี้ฟ้าแดง หลังจากนั้นตักแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด ใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด เมนูแกงทำง่าย ทำทานได้ทุกวัน

ปลาทูสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็นผัด ย่าง ทอด ต้มหรือแกง โดยเฉาะนำมาทำแกงฉู่ฉี่ เป็นแกงที่รสชาติเข้มข้น แกงรสชาติอร่อย ที่ทำง่าย วัตถุดิบหาได้ง่าย ๆ ตามท้องตลาด ใช้เพียงแค่ปลาทูเป็นวัตถุดิบหลักในการทำ เพียงไม่กี่ขั้นตอนก็สามารถได้ทานเมนูแกงฉู่ฉี่ปลาทูสด แล้ว

แกงฉู่ฉี่ปลาทูสด

สมัครบาคาร่า  โบนัสหลากหลายที่นี่ ฝากถอนรวดเร็ว ไม่จำกัด ลองเลย