Categories
สูตรอาหาร

ปลา ดุก ผัด พริก แกง เมนูสุดฮิตติดร้านอาหาร ทำเองได้ยาก

ปลา ดุก ผัด พริก แกง

คุณอาจจะเคยได้ยินชื่อเมนูอาหารตามสั่งแสนอร่อยอย่าง ปลาดุกผัดพริกแกงกันมาบ้าง เป็นเมนูที่มีรสจัดจ้าน แต่ก็ยังมีความกลมกล่อมอยู่ไม่น้อย เนื้อปลานั้นจะมีความกรอบอร่อย ผัดคลุกเคล้ากับเครื่องแกงที่มีรสเผ็ด แต่ปรุงรสให้มีความเค็มและหวาน อร่อยกำลังพอดีเลยทีเดียว ใครที่กำลังอยากลองทำเมนูสุดฮิตติดร้านอาหารอย่างเมนู ปลา ดุก ผัด พริก แกง กันอยู่นั้น ในวันนี้เราก็มีสูตรการทำมาแนะนำ พร้อมกับเคล็ดลับปรุงเมนูนี้ให้อร่อยได้ไม่แพ้ร้านตามสั่งเลยทีเดียว ถ้าพร้อมทำแล้ว มาดูเคล็ดลับเด็ด ๆ กันเลย 

เคล็ดลับทำ ปลา ดุก ผัด พริก แกง ให้อร่อยแซ่บถึงใจ 

ปลา ดุก ผัด พริก แกง

หากคุณสนใจใน เมนูอาหารไทย อย่างเมนูปลาดุกผัดพริกแกง แล้วอยากจะลองทำล่ะก็ เราก็มีเคล็ดลับดี ๆ มาฝากผู้ที่เพิ่งทำครั้งแรก สิ่งที่ควรให้ความสำคัญก็คือความสดของปลา เพราะจะทำให้ได้เนื้อที่อร่อย ทานแล้วติดใจ แต่ข้อเสียของเนื้อปลาคืออาจจะมีกลิ่นคาวได้ ดังนั้นควรดับกลิ่นคาวปลา เพื่อให้ได้เนื้อปลาที่ดี รับประทานแล้วไม่มีกลิ่นคาวปลามากวนใจ เมนูนี้เป็น เมนูอาหารตามสั่ง จานเดียว ยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็น่าจะรู้จักกันดี ลองนำเคล็ดลับนี้ไปใช้ อาจทำ เมนู ปลาดุก ผัดพริกแกง อร่อยสู้ร้านเลยก็ได้นะ 

เผยสูตรปลา ดุก ผัด พริก แกง เมนูง่าย ๆ ทำทานเองที่บ้านได้ไม่ยาก

ปลา ดุก ผัด พริก แกง

เมื่อพูดถึง อาหารไทยง่ายๆ ที่เป็นอาหารพื้นบ้านที่หาทานง่าย ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็สามารถแวะทานได้ หนึ่งในนั้นจะต้องมีเมนูปลาดุกผัดพริกแกงอย่างแน่นอน เพราะเป็นเมนูที่ทำง่าย ทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ ก็จะอร่อยและอิ่มท้องได้ไม่ยากเลย แถมยังเป็น อาหารตามสั่ง ที่มีราคาไม่แพงอีกด้วย เช่นนี้เองจึงทำให้ปลา ดุก ผัด พริก แกง เป็นเมนูที่ใครหลายคนเลือกมาฝากท้องกัน สำหรับใครที่อยากทำเมนูนี้ด้วยตัวเองที่บ้านแบบง่าย ๆ วันนี้เราก็มีสูตรและวิธีการทำมาฝาก ตามมาดูกันเลย 

วัตถุดิบสำหรับทำปลาดุกผัดพริกแกง

  1. ปลาดุกหั่นแว่น 1 กิโลกรัม
  2. พริกแกงเผ็ด 120 กรัม (4 ช้อนโต๊ะ)
  3. ใบมะกรูด 5 กรัม
  4. พริกชี้ฟ้าแดง 20 กรัม
  5. น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำเปล่า 
ปลา ดุก ผัด พริก แกง

วิธีการทำปลาดุกผัดพริกแกง

  1. ก่อนอื่นต้องนำปลาดุกมาล้างด้วยน้ำเปล่า หลังจากที่ล้างปลาดุกเรียบร้อยแล้ว ให้นำกระดาษมาซับปลาให้แห้งดี เพื่อให้ทอดได้ง่าย น้ำมันไม่กระเด็น 
  2. ตั้งกระทะใส่น้ำจน รอจนร้อนได้ที่ นำปลาดุกใส่ลงไปทอดให้กรอบและสุกดี จากนั้นตักขึ้นมาพักไว้ แล้วมาทำเครื่องโดยการใช้ไฟกลางผัดพริกแกง เติมน้ำเล็กน้อย ปรุงรสด้วย น้ำตาลมะพร้าวและน้ำปลา
  3. ใส่ปลาดุกลงไปผัดให้เข้ากันดี เพิ่มความหอมด้วยใบมะกรูดซอยและพริกชี้ฟ้าแดง เร่งไฟให้แรง ผัดคลุกเคล้าจนเครื่องเข้ากับปลาทอดทั่วดี ปิดไฟ ยกลงจากเตาแล้วเสิร์ฟ ก็ได้เมนูผัดพริกแกงปลาดุกที่น่ารับประทานแล้ว 
ปลา ดุก ผัด พริก แกง

วัตถุดิบสำหรับทำผัดเผ็ดปลาดุกทอดกรอบใส่มะเขือ

  1. ปลาดุกทอดกรอบ 10 ชิ้น
  2. มะเขือเปราะหั่นชิ้น 1 ถ้วย
  3. พริก 4 เม็ด
  4. กระเทียม 4 กลีบ
  5. กระชาย 30 กรัม
  6. ใบกะเพรา 30 กรัม
  7. พริกแกงผัด 50 กรัม
  8. รสดี 1/2 ช้อนโต๊ะ
  9. น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
  10. น้ำปลา 1/2 ช้อนโต๊ะ
  11. น้ำเปล่า 1 แก้ว
  12. น้ำมัน (สำหรับผัด) 

วิธีการทำผัดเผ็ดปลาดุกทอดกรอบใส่มะเขือ

ปลา ดุก ผัด พริก แกง
  1. นำพริกมาหั่นและโขลกกระเทียมพอหยาบ เตรียมไว้ จากนั้นให้ตั้งกระทะโดยใช้ไฟกลาง เทน้ำมันลงไป ตามด้วยพริกและกระเทียมที่ทำไว้เมื่อสักครู่ ผัดจนหอม
  2. นำพริกแกงลงไปผัดในกระทะ เมื่อผัดจนมีกลิ่นหอมแล้วให้นำปลาดุกทอดกรอบใส่ลงไป ตามด้วยมะเขือเปราะหั่นชิ้น จากนั้นเทน้ำเปล่าลงไปและผัดให้เข้ากัน
  3. ใส่กระชาย ปรุงรสด้วยรสดี น้ำตาลและน้ำปลา จากนั้นใส่ใบกะเพราและปิดแก๊ส คลุกให้เข้ากันเล็กน้อย เสร็จแล้วตักใส่จานเสิร์ฟ

ปลาดุกผัดพริกแกง เมนูบ้าน ๆ กินแล้วอิ่มอร่อย ได้ประโยชน์

ปลา ดุก ผัด พริก แกง

หลายคนคงจะคุ้นเคยกับ ผัดเผ็ดปลาดุก แบบบ้านๆ เมนูนี้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าจะเดินไปที่ไหนก็ต้องเจอเมนูนี้ ไม่ว่าจะเป็นร้านขายกับข้าว ร้านอาหารข้าวแกง ตลาด รวมถึงศูนย์อาหารในห้างบางแห่งก็ต้องมีเมนู ปลาดุกผัดพริกแกง ถึงแม้ว่าจะเป็นเมนูทำง่ายที่เราเห็นกันอยู่บ่อย ๆ แต่บอกเลยว่า ผัดพริกแกงปลาดุก นี้ไม่ธรรมดาเลย เพราะวัตถุดิบหลักอย่างปลาดุกนั้นมีคุณค่าทางโภชนาการอยู่มาก ส่วนเครื่องแกงก็จะช่วยขับลมได้เป็นอย่างดี ใครที่ชอบทานเมนูปลาดุกก็สามารถนำสูตรที่เราแนะนำไปทำตามกันได้เลย 

เมนูไทย ปลาดุกผัดพริกแกง อิ่มอร่อยถูกใจ ทานเพลิน

ปลา ดุก ผัด พริก แกง

ใครที่ชื่นชอบการรับประทานเมนูนี้ ก็สามารถนำเอาสูตรการทำปลาดุกผัดพริกแกงไปใช้ทำรับประทานเองได้เลย รับรองว่าคุณจะได้ลิ้มรสอาหารที่อร่อยแน่นอน ซึ่งเมนูนี้มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ผัดพริกแกง ปลา ดุก กรอบ เพราะปลาดุกจะกรอบ เข้ากับเครื่องแกงได้เป็นอย่างดี รับประทานกับข้าวสวยสักจาน ก็ลงตัว สูตรอาหารไทย ที่น่าสนใจ ไปลองฝึกกันได้เลย อิ่มอร่อยถูกใจ ทานเพลินกันแน่นอน 

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา กับข้าวแสนอร่อย หลากรสชาติ 

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา

ถ้าหากต้องการเมนูกับข้าวที่ได้รับความนิยมมาก มีความหอมอร่อย และยังมีรสชาติที่จัดจ้าน รับประทานแล้วได้รสชาติที่เข้ากับข้าวสวยได้เป็นอย่างดี ขอแนะนำให้ทำ ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา ใครที่ชื่นชอบทานปลา รับรองว่าต้องชอบเมนูนี้แน่นอน โดยใช้เนื้อปลากระพงทั้งตัว นำไปทอดให้มีสีเหลืองกรอบ วันนี้เรามีสูตรและวิธีการทำเมนูนี้มาฝาก สำหรับใครที่อยากทำรับประทานเองกันด้วย มาดูกันว่าจะทำอย่างไรให้ได้รสชาติถูกปาก ทำเองก็อร่อยได้แบบไม่ต้องง้อร้านอาหารเลย 

เพิ่มโปรตีนให้กับร่างกายกับเมนู ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา ทานอาหารย่อยง่าย

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา

ขึ้นชื่อว่าเป็นปลา แน่นอนว่าคุณค่าทางโภชนาการจะต้องสูงอยู่แล้ว ถือเป็น เมนูปลาทอด มีไขมันต่ำ ปลากระพงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มปลาทะเล แต่ทว่านอกเหนือจากน้ำทะเลแล้ว ปลากะพงยังสามารถปรับตัวอยู่ในน้ำจืดและน้ำกร่อยได้ด้วย หากใครที่ชอบทานเมนู ปลากระพง ทอดน้ำปลา เป็นประจำ คุณจะได้รับโปรตีนจากปลาชนิดนี้มากพอสมควร และยังมีโอเมก้า 3 ที่ช่วยบำรุงสมองด้วย เรียกว่าเป็น เมนูอาหารไทย ที่ทั้งอร่อยและย่อยง่าย 

เคล็ดลับการทำ ปลากระพง ทอด น้ำปลา ให้กรอบและกลมกล่อม

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา

สำหรับการทำอาหารไทยขึ้นชื่ออย่าง ปลา กะพง ทอด น้ำปลา ให้มีรสชาติที่ดีนั้น ควรเลือกเนื้อปลาที่สดใหม่ มีขนาดตัวกำลังพอดี ล้างให้ไม่มีกลิ่นคาว การทอดให้กรอบได้นั้น จะต้องใช้น้ำมันในปริมาณที่ท่วมตัวปลา ใช้อุณหภูมิที่พอดี อย่าลืมที่จะพลิกกลับปลาให้สุกทั่วถึงกัน นอกจากนี้แล้วการทำให้รสชาติของ ปลากระพงทอดน้ำปลา ให้กลมกล่อม ต้องปรุงรสให้มีความเค็มไม่โดดมากจนเกินไป รับประทานกับข้าวสวยแล้วจะได้ออกมาลงตัวนั่นเอง ทราบเคล็ดลับกันแล้ว ก็มาดู สูตรอาหารไทย เมนูนี้กันเลย 

วัตถุดิบสำหรับทำปลากระพงทอดน้ำปลา

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา
  1. ปลากะพง 1 ตัว
  2. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  3. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  4. แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมันพืชสำหรับทอดปลา
  6. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนชา 

วิธีการทำปลากระพงทอด

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา
  1. ทำความสะอาดปลากะพงไม่ให้มีกลิ่นคาว จากนั้นผ่าครึ่งตัวปลาจนแผ่ออกมาเป็นสองซีก นำเอาก้างที่บริเวณกลางตัวปลาออกไป 
  2. ปรุงรสเนื้อปลาด้วยการผสมซอสปรุงรสและซอสหอยนางรมไว้ด้วยกัน นำปลาลงไปคลุกเคล้าซอสให้ทั่ว จากนั้นนำมาคลุกกับแป้งข้าวโพด พักทิ้งไว้
  3. เตรียมทอดปลากะพง โดยตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพืชลงไป กะปริมาณให้พอท่วมตัวปลา รอสักพักจนน้ำมันเดือดได้ที่ นำปลาลงไปทอดให้เหลืองกรอบ จากนั้นทอดต่อด้วยไฟกลางจนปลาสุกทั่วกันทั้งตัว 
  4. ตักขึ้นพักสะเด็ดน้ำมัน ทำน้ำราดปลากะพง ตั้งกระทะใส่น้ำมันเพียงเล็กน้อย ใช้น้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ ผสมให้เข้ากัน รอจนน้ำตาลละลายทั้งหมด ตักขึ้นมาราดลงบนปลาให้ทั่ว
  5. จัดเสิร์ฟได้ทันที รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ รับรองว่าเนื้อปลากรอบ รสชาติกลมกล่อมกำลังพอดีแน่นอน 

เคล็ด(ไม่)ลับ ทำยำมะม่วงให้อร่อย ทานกับ ปลากระพงทอดน้ำปลา แล้วเข้ากัน

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา

เนื่องจากยำมะม่วงที่เราจะทำนี้ ไม่ใช่ยำมะม่วงทั่วไปที่ทานแบบเดี่ยว ๆ แต่ทำเพื่อทานคู่กับ ปลากะพงทอด เพราะฉะนั้นจึงควรปรุงรสให้อร่อยกลมกล่อม ทานคู่กันแล้วรู้สึกลงตัว สำหรับเคล็ดลับเล็กน้อยที่อยากจะแนะนำก็คือ ควรปรุงรสยำมะม่วงให้เค็มน้อยลง เนื่องจาก ปลากระพง ทอดน้ำปลา มีความเค็มอยู่แล้ว ถ้าต้องการจะตัดเค็มก็ควรเพิ่มมะนาวเพื่อให้มีรสเปรี้ยวมากขึ้น และพริกขี้หนูควรใช้เป็นพริกสด เพราะจะทำให้ได้รสเผ็ดกำลังดี

วัตถุดิบสำหรับทำยำมะม่วงทานคู่กับปลากระพงทอดน้ำปลา

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา
  1. มะม่วงน้ำดอกไม้ 1 ลูก
  2. หอมแดง 4 หัว
  3. พริกขี้หนู 5 เม็ด
  4. น้ำตาลปี๊บ 1+1/2 ช้อนโต๊ะ
  5. มะนาว 1 ซีก
  6. น้ำปลา 2+1/2 ช้อนโต๊ะ
  7. กุ้งแห้ง 1 ช้อนโต๊ะ
  8. ถั่วลิสงคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  9. ผักชี (สำหรับโรยหน้า) 

วิธีทำยำมะม่วงเครื่องเคียงปลากระพงทอดน้ำปลา ที่ขาดไม่ได้

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา
  1. ขั้นตอนแรกนำมะม่วงน้ำดอกไม้มาปอกเปลือกและล้างให้สะอาด จากนั้นนำมาขูดหรือสับเป็นเส้น ๆ
  2. ซอยหอมแดง และหั่นพริกขี้หนู เตรียมไว้ ใส่น้ำตาลปี๊บลงในถ้วยผสม บีบมะนาวลงไป ตามด้วยน้ำปลา และคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
  3. ใส่พริกขี้หนูหั่นลงไป ตามด้วยหอมแดงซอย เส้นมะม่วง กุ้งแห้ง และถั่วลิสงคั่ว เสร็จแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน และโรยหน้าด้วยผักชี ถือเป็นอันเสร็จพร้อมทานคู่กับเมนูปลากระพงทอดน้ำปลา 

เมนูปลากระพงทอดน้ำปลา เพิ่มความแซ่บด้วยน้ำยำรสเด็ด

ปลา กระ พง ทอด น้ำปลา

เมนูอาหาร ปลาทอด ยอดนิยมอย่างเมนูปลากระพงทอดน้ำปลานั้นถือว่าเป็นอาหารรับประทานกับข้าวที่เข้ากันได้ดี ใครที่ไม่ชอบอาหารรสจัดหรือรสเผ็ด ต้องชอบเมนูนี้แน่นอน แต่ถ้าใครชื่นชอบความจี๊ดจ๊าด หรืออยากจะเพิ่มรสชาติให้กับปลา กระ พง ทอด น้ำปลา ล่ะก็ การรับประทานคู่กับน้ำยำ ก็เป็นการจับคู่ที่ไม่เลวเลย ได้รสครบทั้งเค็ม หวาน เปรี้ยว และเผ็ดแบบนี้ จะทานกี่ครั้งก็ต้องชอบแน่นอน เมนูนี้เป็น อาหารไทยง่ายๆ ที่เราได้แนะนำสำหรับผู้ที่ต้องการทำอาหารไทยรับประทานเอง อย่าลืมนำไปลองฝึกทำกันดู

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

แนะนำเมนู กุ้ง ทอด เกลือ อร่อยกลมกล่อม ใครทานก็ติดใจ

กุ้ง ทอด เกลือ

ใครเป็นคนชื่นชอบรับประทานกุ้งเป็นประจำหรืออยากทำเมนูที่มีส่วนผสมของกุ้ง แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะทำเมนูอะไรดี บอกเลยว่าต้องลองเมนูขึ้นชื่ออย่างกุ้งทอดเกลือ เพราะเป็นเมนูที่มีกลิ่นหอมเครื่องปรุงค่อนข้างโดดเด่น แต่ยังคงรสหวานธรรมชาติและความฉ่ำของเนื้อกุ้งได้เป็นอย่างดีทีเดียว หากคุณชื่นชอบเมนูอาหารทะเลที่ปรุงรสไม่ได้ยากเย็น มีขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ใช้เวลาไม่นานจนเกินไปนัก แนะนำให้ลองนำ กุ้ง ทอด เกลือ ไปทำทานกับครอบครัวหรือคนที่คุณรัก ไม่ว่าใครก็ติดใจแน่นอน 

กุ้ง ทอด เกลือ ทำอย่างไรให้อร่อย เรามีเทคนิคเด็ดมาแนะนำ

กุ้ง ทอด เกลือ

สำหรับเมนูอาหารไทยแบบกุ้งทอดเกลือ หรือที่นิยมเรียกกันอีกชื่อว่ากุ้ง ทอด พริก เกลือ นั้น มีวิธีทำที่ค่อนข้างง่ายดาย แต่สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มทำอาหารรับประทานเอง หรือฝึกทำอาหาร อยากจะได้เทคนิคการทำเมนู อาหารไทยง่ายๆ แบบนี้ให้มีรสชาติถูกปากยิ่งขึ้น ก่อนอื่นต้องเลือกกุ้งที่มีขนาดกำลังพอดี ที่สำคัญต้องเป็นกุ้งสด เพื่อคงรสชาติและรสสัมผัสของเนื้อกุ้ง หากใช้เนยสดผัดกุ้งแทนน้ำมัน จะทำให้มีกลิ่นหอมน่ารับประทาน นอกจากนี้การปรุงรสชาติ กุ้งทอดเกลือ ควรชิมก่อนที่จะปรุงเพิ่มเติมแล้วจัดจานเสิร์ฟ 

อร่อยฟินไปกับเมนูกุ้ง ทอด เกลือ อาหารไทยรสเด็ด ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเผ็ด

กุ้ง ทอด เกลือ

ใครที่ชอบทานกุ้งเป็นพิเศษ จะพลาดกับเมนูนี้ไม่ได้เลย กุ้งทอดพริกเกลือ เรียกได้ว่าเป็นเมนูง่าย ๆ ที่ใครทำก็อร่อย เพียงแค่เลือกกุ้งสด ๆ แบบมีคุณภาพมาปรุงกับเกลือและส่วนผสมอื่น ๆ ก็เสร็จแล้ว ถือเป็นอาหารไทยที่ทำง่าย โดยมีวิธีการทำที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรนัก เชื่อว่าใครทำก็อร่อย เมื่อทำเสร็จแล้วก็นำมาทานคู่กันกับน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด และในวันนี้เราก็ขอนำเสนอสูตรการทำกุ้ง ทอด เกลือ รวมถึงสูตรการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดแซ่บ ๆ อร่อยถูกใจ ทานคู่กันแล้วต้องฟินอย่างแน่นอน ไปดูขั้นตอนการทำกันเลย 

วัตถุดิบสำหรับทำกุ้งทอดเกลือ 

  1. กุ้ง 500 กรัม
  2. กระเทียม 20 กรัม
  3. เนยสด 1 ช้อนโต๊ะ
  4. เกลือ 1/2 ช้อนชา
  5. ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  6. ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
  8. พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา 
กุ้ง ทอด เกลือ

วิธีการทำ เมนูกุ้งทอดเกลือ

  1. ขั้นตอนแรกนำกุ้งมาล้างให้สะอาดก่อนจะนำมาประกอบอาหาร เมื่อล้างจนสะอาดแล้วให้นำกุ้งสดมาแกะเปลือกออก รวมถึงผ่าเอาเส้นดำบริเวณด้านหลังของกุ้งออกไปด้วย เสร็จแล้วพักไว้
  2. สับหรือตำกระเทียมให้ละเอียด จากนั้นตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันร้อนจัด เมื่อความร้อนได้ที่แล้วก็ให้นำเอากุ้งใส่ลงไป 
  3. ทอดพอให้กุ้งสุกได้ที่เล็กน้อย ไม่ควรให้สุกมากจนเกินไป เพื่อให้เนื้อกุ้งและรสสัมผัสของกุ้งไม่แห้ง ต่อมาตั้งกระทะแล้วใส่เนยเค็มลงไป ตามด้วยกระเทียมสับ และกุ้งทอดที่พักไว้ ผัดให้เข้ากันดี 
  4. จากนั้นให้ปรุงรสด้วยซอสหอยนางรม เกลือป่น พริกไทยป่น ซอสปรุงรสและน้ำตาลทราย ชิมให้ได้รสชาติตามที่ต้องการ เสร็จแล้วนำมาจัดจานเสิร์ฟ เพิ่มข้าวสวยร้อน ๆ เพียงเท่านี้ก็จะได้มื้ออาหารที่แสนอร่อยแล้ว 

แจกสูตรน้ำจิ้มซีฟู้ดให้เข้ากับเมนู กุ้งทอดเกลือ ทานคู่กันแล้วอร่อยฟินถึงใจ

กุ้ง ทอด เกลือ

ถ้าพูดถึงน้ำจิ้มซีฟู้ดแล้ว ต้องบอกเลยว่ามีหลายสูตรมาก ๆ โดยแต่ละสูตรนั้นอาจไม่ได้มีวัตถุดิบที่แตกต่างกันมากนัก แต่ทว่าทุกสูตรของน้ำจิ้มซีฟู้ดก็ไม่ได้เหมือนกันไปทั้งหมด อย่างไรก็ตามหากจะปรุงรสน้ำจิ้มซีฟู้ดให้เข้ากับเมนู กุ้งทอดเกลือ ควรเลือกวัตถุดิบที่สดใหม่ โดยนำวัตถุดิบหลักอย่างพริก กระเทียม และใบสะระแหน่ไปล้างจนสะอาดก่อนนำมาปั่น และด้วยความที่เป็น เมนูอาหารไทย ที่มีรสเค็ม จะทานคู่กับน้ำจิ้มจึงต้องปรุงให้มีรสหวานเพื่อตัดเค็ม และเพิ่มน้ำส้มสายชูเพื่อให้มีรสเปรี้ยวแหลม จะตัดเค็มได้ดีเช่นกัน

วัตถุดิบสำหรับน้ำจิ้มซีฟู้ด

  1. พริก 20 เม็ด
  2. กระเทียม 3-4 กลีบ
  3. ใบสะระแหน่ 3 ยอด
  4. เกลือ 2 ช้อนชา
  5. น้ำตาลปี๊บ 1/2 ช้อนโต๊ะ
  6. น้ำมะนาวคั้นสด 3 ช้อนโต๊ะ
  7. น้ำส้มสายชู 2 ช้อนโต๊ะ 

วิธีการทำน้ำจิ้มซีฟู้ดทานคู่กุ้งทอดเกลือ

  1. ขั้นตอนแรกนำพริก กระเทียม และใบสะระแหน่มาล้างทำความสะอาด เมื่อล้างพริก กระเทียม และใบสะระแหน่แล้วให้นำเข้าเครื่องปั่น 
  2. โดยตักเกลือ น้ำตาลปี๊บ น้ำมะนาว และน้ำส้มสายชูลงไปด้วย จากนั้นปั่นให้เข้ากัน เมื่อปั่นจนเข้ากันดีแล้วให้ตักใส่ถ้วย พร้อมรับประทานคู่กับกุ้งทอดเกลือได้แล้ว

กุ้ง ทอด เกลือ เมนูอาหารไทยรสเด็ด ที่คุณไม่ควรพลาด

กุ้ง ทอด เกลือ

เมนูอาหารไทยอย่างกุ้งทอดเกลือนั้น เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่ทำได้ง่าย และยังใช้วัตถุดิบที่หาได้ไม่ยากอีกด้วย จึงทำให้คนที่เป็นมือใหม่สามารถเริ่มทำได้อย่างง่ายดายเลยทีเดียว สำหรับใครที่ต้องการฝึกทำเมนูกุ้งทอดเกลือน่าทานนี้ เราก็ได้แนะนำ สูตรกุ้งทอดเกลือ ที่เหมาะกับมือใหม่ให้คุณแล้ว บอกเลยว่าไม่ควรพลาด เพราะนอกจาก สูตรอาหารไทย นี้จะได้ความอร่อยฟินแล้ว กุ้งยังเป็นอาหารที่ให้ประโยชน์สูงอีกด้วย ไม่ว่าเป็นการช่วยชะลอวัย ช่วยเสริมสร้างกระดูก และอื่น ๆ และเป็นแหล่งอาหารทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ชวนทำเมนู พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า แสนอร่อย มือใหม่ทำตามได้ไม่ยาก

พาส ต้า

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทรนด์อาหารอิตาลีในช่วงนี้ถือเป็นสิ่งที่มาแรงจริง ๆ แถมการทานอาหารอิตาลียังช่วยสร้างความสุขให้กับผู้ทานได้เป็นอย่างดี ในวันนี้เราเลยจะพาทุกคนเข้าครัวไปทำเมนูอาหารแสนอร่อยสไตล์อิตาลีกับเมนู พาส ต้า ซอสคาโบนาร่ากัน โดยเมนูนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ทำทานได้ง่ายมาก ๆ และยังช่วยให้ทุกคนอิ่มท้องได้นานอีกด้วย ว่าแต่ว่าสูตรการทำพาสต้าด้วยซอสคาโบนาร่า จะมีความยากง่ายแค่ไหนบ้าง ตามเราไปดูกันเลยดีกว่า

เมนู พาส ต้า ทำทานง่าย หอมอร่อย น่าลิ้มลอง 

พาส ต้า

อยู่บ้านเบื่อ ๆ จะมีอะไรดีไปกว่าการได้เข้าครัวทำเมนูอาหารทานกันล่ะจริงไหม? โดยหนึ่งใน เมนูอาหารอิตาลี ที่ได้รับความนิยมและทำทานได้ไม่ยากนั้น ก็คงจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่เมนู พาส ต้า คา โบ นา ร่า ซึ่งจริง ๆ แล้วก็มีให้เลือกหลากหลายเส้นมาก ไม่ว่าจะเป็นสปาเก้ตตี้, เฟตตูชินี่, มักกะโรนี, เพนเน่, ริกาโตนีฟูชิลี่, ลาซานญ่า, พาเฟลเล่, ราวิโอลี, น็อคคี และแคปเปลลินี เป็นต้น ซึ่งเส้นพาส ต้า แต่ละแบบก็จะมีรสสัมผัสในการทานที่แตกต่างกันออกไป ทำทานได้ง่าย และมีเนื้อสัมผัสที่เหนียวนุ่มน่ารับประทาน

เคล็ดไม่ลับการทำ พาสต้า ซอสคาโบนาร่า สไตล์ต้นตำหรับ

พาส ต้า

ถึงแม้ว่าการทำ พาส ตา ซอสคาโบนาร่า จะดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและสร้างความกังวลใจให้กับใครหลาย คนไม่น้อย เพราะหากเราต้มเส้น พาสต้า จนสุกเกินไปก็อาจทำให้เนื้อสัมผัสของเส้นมีความเละหรืออาจจะแข็งกระด้างได้ ดังนั้นแล้วในวันนี้เราจึงได้รวบรวมเคล็ดลับการทำ อาหารอิตาลี ง่ายๆ กับเมนูพาสต้าซอสคาโบนาร่า มาให้ทุกคนได้ลองไปทำตามกันดู หากใครพร้อมจะสำรวจ วัฒนธรรมอาหารอิตาลี กันแล้ว ไปเข้าครัวกันได้เลย

วัตถุดิบสำหรับทำพาสต้าซอสคาโบนาร่า

พาส ต้า
  1. เส้นสปาเกตตี้ 500 กรัม
  2. น้ำมันมะกอก 200 กรัม
  3. เบคอนหั่นชิ้นเล็ก 100 กรัม
  4. เนย 2 ช้อนโต๊ะ
  5. หอมหัวใหญ่ 100 กรัม
  6. ไข่แดง 2 ฟอง
  7. พริกไทย 2 ช้อนชา
  8. ชีสพาร์เมซานขูดฝอย 100 กรัม
  9. กระเทียมสับ 4 กลีบ
  10. คุกกิ้งครีม 1 ถ้วยตวง

วิธีการทำ เมนูพาสต้า อิตาลี ซอสคาโบนาร่า

พาส ต้า
  1. ตั้งหม้อต้มน้ำให้เดือดด้วยไฟกลาง จากนั้นใส่เกลือลงไป 1 ช้อนชาแล้วใส่น้ำมะกอกตามลงไป ตามด้วยเส้นสปาเกตตี้ที่เราเตรียมไว้ จากนั้นต้มเส้นสปาเกตตี้ให้เปื่อยเป็นเวลา 5 นาที แล้วต้มต่ออีก 10 นาทีด้วยไฟอ่อน 
  2. เมื่อเส้นสปาเกตตี้เริ่มนิ่มดีแล้ว ให้ตักเส้นสปาเกตตี้ขึ้นมาพักไว้ในชามแล้วใส่น้ำแข็งหรือน้ำเย็นตามลงไป เพื่อเป็นการน็อคเส้นสปาเกตตี้เอาไว้ไม่ให้สุกจนเกินไป จากนั้นนำเส้นสปาเกตตี้ไปคลุกกับน้ำมันมะกอกแล้วพักทิ้งไว้
  3. ขั้นตอนต่อมาให้ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง จากนั้นหั่นเบคอนให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ พอดีคำ ตามด้วยการนำเบคอนลงไปทอดในกระทะให้เกรียมแล้วใส่เนยตามลงไป 
  4. จากนั้นคั่วเบคอนและเนยให้เข้ากันแล้วตามด้วยกระเทียมสับและหัวหอมใหญ่ แล้วคนส่วนผสมให้เข้ากันอีกครั้งจนกว่าจะได้กลิ่นหอมกรุ่น
  5. เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่ดีแล้วให้ใส่เส้นสปาเกตตี้ตามลงไป แล้วนำคุกกิ้งครีม พริกไทย และชีสพาร์เมซานฝอยผสมให้เข้ากัน ก่อนจะนำไปใส่ในเส้นสปาเกตตี้ 
  6. จากนั้นตามด้วยไข่แดง 2 ฟอง แล้วคนไข่แดงให้กระจายทั่วเส้นสปาเกตตี้จนกว่าสีของน้ำซอสจะกลายเป็นสีครีมนวล ๆ 
  7. เมื่อทุกอย่างสุกได้ที่แล้ว ให้ตักพาสต้าซอสคาโบนาร่าใส่จาน แล้วตกแต่งด้วยเบคอนทอดกรอบและใบพาร์สลีย์เป็นอันเสร็จสิ้น พร้อมรับประทาน อาหารอิตาเลี่ยนแท้ๆ ได้เลย

สามารถทำ พาส ต้า ซอสคาโบนาร่า ด้วยเส้นมักกะโรนีได้ไหม

พาส ต้า

สำหรับใครที่ไม่ชอบทานพาสต้าแบบเส้นสปาเกตตี้ คุณก็สามารถเปลี่ยนจากเส้นสปาเกตตี้มาเป็นเส้นมักกะโรนีได้เช่นกัน โดยวิธีการทำ pasta ซอสคาโบนาร่าด้วยเส้นมักกะโรนีนั้นก็มีความคล้ายคลึงกับเส้นสปาเกตตี้ แต่จากแตกต่างกันตรงที่เนื้อสัมผัสของเส้นมักกะโรนีจะมีความเหนียวนุ่มมากกว่าเส้นสปาเกตตี้ โดยระยะเวลาที่ใช้ในการต้มเส้นมักกะโรนีนั้นจะอยู่ที่ 10 นาที ถ้าเส้นมักกะโรนีเริ่มมีความนุ่มและพองตัวแล้วก็สามารถตักขึ้นมาน็อคน้ำเย็น แล้วผัดซอสคาโบนาร่าได้เหมือนกับสูตรพาส ต้า เส้นสปาเกตตี้ซอสคาโบนาร่า ที่เราแจกให้ข้างต้นได้เลย 

การทำพาสต้าซอสคาโบนาร่า ให้ได้ความหอมมันสไตล์อิตาลีแท้

พาส ต้า

จบกันไปแล้วสำหรับวิธีการทำพาสต้าซอสคาโบนาร่า อาหารอิตาลี ทำเอง ได้ง่าย ๆ ที่เรานำมาแบ่งปันทุกคนกันวันนี้ สำหรับใครที่อยากจะลองทำอาหารอิตาลีทานกันดูที่บ้าน เราเชื่อว่าสูตรพาสต้าเส้นสปาเกตตี้ซอสคาโบนาร่า ที่เรานำมาแบ่งปันกันวันนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนไม่น้อยเลยทีเดียว หากใครอยากได้ซอสคาโบนาร่าที่มีความหอมครีมข้น ๆ คุณก็สามารถเปลี่ยนจาการใช้คุกกิ้งครีมเป็นวิปปิ้งครีมแทนได้เช่นกัน รับรองว่าอร่อยหอมมันสไตล์ อาหารอิตาลี แท้แน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ข้าวหมกไก่ เมนูไทยรสเข้มข้น ทำง่าย อร่อยถึงเครื่อง

ข้าวหมกไก่

ถ้าพูดถึงเมนูข้าวที่มีเครื่องเข้มข้น หอมข้าวและไก่ที่ปรุงรสมาอย่างดี หลายคนก็คงจะรู้จักคุ้นเคยรวมถึงอาจจะมีโอกาสได้รับประทานมาบ้างแล้ว อย่างเมนูหมกไก่ เมนูนี้เป็นอาหารไทยที่เต็มไปด้วยสมุนไพรที่ใช้ปรุงรส รวมถึงยังให้สีออกเหลืองอีกด้วย มักจะใช้เนื้อไก่ส่วนของน่องมาทำ เมื่อรับประทานจะมีการเสิร์ฟน้ำจิ้มเพื่อทำให้รสของอาหารอร่อยมากยิ่งขึ้น ใครที่อยากทำเมนูนี้เพื่อรับประทานเองที่บ้าน วันนี้เรามีสูตร ข้าวหมกไก่ สูตรเด็ดมาแนะนำ แม้จะไม่เคยทำก็ไม่ต้องกังวล เพราะวิธีการและขั้นตอนไม่ยุ่งยากเลย 

ข้าวหมกไก่ เมนูน่าทาน มีกลิ่นหอม อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากเครื่องเทศ

ข้าวหมกไก่

หากกล่าวถึงเมนูอาหารที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศ หลายคนอาจนึกถึงประเทศอินเดีย เพราะประเทศนี้ขึ้นชื่อในเรื่องอาหารที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศ และแน่นอนว่าหัวใจหลักของอาหารอินเดียที่ขาดไม่ได้ก็คงหนีไม่พ้นเครื่องเทศเช่นเดียวกัน อย่างเมนูข้าวหมกไก่ นี้ก็ถือเป็นอาหารที่มีต้นตำรับมาจากประเทศแถบอาหรับ รวมถึงชาวมุสลิม เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ให้ประโยชน์และสรรพคุณสูงมาก หากใครชอบทานก็มาดูกันเลยว่าข้าวหมก ไก่ มีขั้นตอนการทำอย่างไรบ้าง

แนะนำเทคนิคการทำ ข้าว หมกไก่ สำหรับมือใหม่

ข้าวหมกไก่

เทคนิคหรือเคล็ดลับสำหรับการทำ อาหารไทยง่ายๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวอย่างข้าวหมกไก่ให้อร่อยนั้น สิ่งที่จะขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องปรุงรสและเครื่องเทศที่สดใหม่ เพราะส่วนผสมเหล่านี้ช่วยเพิ่มรสชาติและความหอมให้กับข้าวและไก่ได้ดีมากทีเดียว นอกจากนี้ควรระวังอุณหภูมิ ปริมาณน้ำ รวมถึงการเลือกข้าวที่ใช้ทำข้าวหมกด้วย เพราะปัจจัยเหล่านี้มีส่วนที่จะทำให้ข้าวออกมาสวยเรียงเม็ด ทำแล้วน่ารับประทาน เมื่อรู้เคล็ดลับกันแล้ว ก็มาดูสูตรและขั้นตอนทั้งหมดเพื่อเตรียมทำ ข้าว หมก ไก่ กันเลย 

ข้าวหมกไก่

วัตถุดิบสำหรับทำข้าวหมกไก่

  1. ผงทำข้าวหมกไก่ (25 กรัม) 1 ซอง
  2. ลูกผักชีและยี่หร่า 3 ช้อนโต๊ะ
  3. ผงกะหรี่ 3 ช้อนโต๊ะ
  4. ลูกผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ยี่หร่า 1 ช้อนโต๊ะ
  6. นมข้นจืด 5 ช้อนโต๊ะ
  7. โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย
  8. น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ 
  9. หอมแดงซอย 1 ถ้วย 
  10. เนยเค็ม 4 ช้อนโต๊ะ 
  11. ข้าวสาร 4 ถ้วยตวง
  12. น้ำเปล่า (สำหรับหุงข้าว) 
  13. เกลือ 1 ช้อนชา 
  14. อบเชย 1 ก้าน 
  15. ใบกระวาน 2 ใบ
  16. น้ำมันพืช 1 ถ้วย 

วิธีการทำ ข้าวหมกไก่สูตรโบราณ

ข้าวหมกไก่
  1. เริ่มต้นจากการหมักและปรุงรสไก่กันก่อนเลย ใช้ผงทำข้าวหมก ใส่ผงกะหรี่ ลูกผักชี และยี่หร่าที่คั่วให้หอม รวมถึงตำจนละเอียดเรียบร้อยแล้ว เติมนมข้นจืด น้ำตาลทราย โยเกิร์ต ผสมให้เข้าเป็นเนื้อเดียวกัน 
  2. จากนั้นนำเนื้อน่องไก่หรือเนื้อที่ชอบมาหมักในเครื่องที่เตรียมไว้ หมักอย่างน้อย 1 ชั่วโมง ทำหอมเจียว พักทิ้งไว้ จากนั้นนำเนยสดลงในกระทะ ใส่หอมเจียวลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากัน 
  3. นำไก่และข้าวมาปรุงรสด้วยการเติมผงกะหรี่ ลูกผักชีและยี่หร่า ขยำให้พอเข้ากัน ใช้เวลา 5 นาที นำส่วนผสมที่คลุกไว้ใส่หม้อหุงข้าว 
  4. นำไก่วางด้านบนข้าว เติมน้ำเล็กน้อยเพื่อไม่ให้ข้าวแห้ง เพิ่มอบเชยและใบกระวาน ให้ข้าวมีกลิ่นหอม จากนั้นหุงจนสุก ก็ได้ข้าวหมกที่หอมอร่อย เรียงเม็ดสวยแล้ว 

อีกรูปแบบของข้าวหมกไก่ที่ได้รับความนิยมมาก

ข้าวหมกไก่

นอกจากจะมี สูตรอาหารไทย เลิศรสอย่าง ข้าวหมก ไก่ ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังมีเมนูข้าวที่อร่อยแบบแตกต่าง โดยจะเลือกใช้ไก่ทอดเป็นส่วนผสม แทนการนำไก่ไปหมักในเครื่องเทศแล้วอบ ข้าวหมกไก่ทอด เรียกได้ว่าเพิ่มรสสัมผัสในการทานเมนูนี้ได้ดีเลยทีเดียว ถ้าหากคุณได้ชิม รับรองว่าต้องติดใจอย่างแน่นอน ใครที่อยากทราบว่าเมนูนี้จะอร่อยแค่ไหน บอกเลยว่าต้องลองทำทานกันดู

วัตถุดิบสำหรับทำข้าวหมกไก่ทอด 

  1. อกไก่ 700 กรัม
  2. ข้าวหอมมะลิ 300 กรัม
  3. ผงทำข้าวหมกไก่ 3 ช้อนโต๊ะ
  4. หอมเจียว 1 ถ้วยตวง
  5. แป้งข้าวเจ้า 1/2 ถ้วยตวง
  6. แป้งทอดกรอบ 1/2 ถ้วยตวง
  7. เม็ดผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  8. พริกไทย 1/2 ช้อนโต๊ะ
  9. ยี่หร่า 1 ช้อนชา
  10. กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
  11. รากผักชี 2 ราก
  12. ผงปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
  13. เกลือ 1 ช้อนชา
  14. น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  15. น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  16. น้ำเย็น 1/2 ถ้วยตวง
  17. น้ำปูนใส 1/2 ถ้วยตวง
  18. น้ำมัน (สำหรับทอด) 

วิธีการทำข้าวหมกไก่ทอด

ข้าวหมกไก่
  1. เริ่มจากการหุงข้าวเป็นอันดับแรก โดยนำข้าวหอมมะลิใส่ในหม้อหุงข้าว จากนั้นใส่น้ำเปล่าและผงทำข้าวหมกไก่ลงไป และคนให้ละลายเข้ากัน เสร็จแล้วนำไปหุงให้สุก
  2. เมื่อข้าวสุกแล้วให้เปิดฝาออกแล้วโรยหอมเจียวลงไป จากนั้นซุยข้าวให้เข้ากัน ใส่เม็ดผักชีลงในครก ตามด้วยพริกไทยเม็ด และเมล็ดยี่หร่า โขลกส่วนผสมให้ละเอียด ใส่รากผักชีและกระเทียมลงไป โขลกให้เข้ากัน
  3. นำส่วนผสมที่โขลกเสร็จแล้วมาหมักไก่ โดยเตรียมอกไก่ไว้ในถ้วยหรือภาชนะผสม จากนั้นเทส่วนผสมที่โขลกลงไป ตามด้วยเกลือ ผงปรุงรส น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน
  4. เทแป้งข้าวเจ้า แป้งทอดกรอบ น้ำปูนใส และน้ำเย็นลงไป คลุกเคล้าให้ส่วนผสมเข้ากัน ตั้งกระทะแล้วใส่น้ำมันลงไป เมื่อน้ำมันเดือดแล้วก็นำไก่ลงไปทอดได้เลย พยายามพลิกกลับด้านไปมาเพื่อให้ไก่สุกอย่างทั่วถึง
  5. เมื่อไก่สุกเหลืองได้ที่แล้วให้นำขึ้นมาสะเด็ดน้ำมัน จากนั้นตักข้าวหมกใส่จาน โรยหอมเจียวไว้ด้านบน พร้อมกับหั่นไก่ทอดเป็นชิ้น ๆ 

เคล็ดลับทำการทำ ข้าวหมกไก่ ให้อร่อยแบบไม่ต้องง้อร้านอาหาร

หากสังเกตจากวัตถุดิบของเมนู ข้าวหมก จะเห็นว่ามีค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว และมีเครื่องเทศหลายชนิด โดยการจะทำให้ได้รสชาติที่ดีนั้นจะต้องหุงข้าวหมกไม่ให้แฉะจนเกินไป เม็ดข้าวต้องเรียงตัวอย่างสวยงาม และมีกลิ่นหอมเครื่องเทศอยู่ด้วย ส่วนการจะทอดไก่ให้อร่อยและสุกกำลังดี แนะนำให้ใช้น้ำมันเยอะ ๆ หน่อย ควรเทน้ำมันให้เยอะจนท่วมไก่ทอด สำหรับวิธีการทาน เมนูข้าวหมกไก่ แนะนำให้ราดน้ำจิ้มข้าวหมกไก่ลงไปด้วย เพราะจะช่วยตัดเลี่ยนได้ดี เพียงเท่านี้ก็จะได้ เมนูอาหารไทย ทำทานง่าย อร่อย โดยไม่ต้องง้อร้านกันเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

โจ๊ก ไก่ เมนูอาหารเช้าแสนอร่อย ที่ใครได้ทานก็ต้องร้องว้าว

 โจ๊กไก่

เวลามีใครถามว่าเมนูอาหารเช้าทานอะไรดี? เชื่อว่าจะต้องมีคนที่นึกถึงเมนูโจ๊กไก่อย่างไม่ต้องสงสัยเลย เพราะเมนูนี้ถือเป็นหนึ่งในเมนูแสนอร่อย และสามารถหาทานได้ง่ายมาก ๆ แต่การจะทำเมนูโจ๊กไก่ให้ได้รสชาติที่กลมกล่อม และมีเนื้อสัมผัสที่ดีต่อใจนั้น ก็อาจจะทำได้ยากไปสักหน่อยสำหรับมือใหม่เข้าครัว แต่บอกเลยว่าถ้าใครได้ลองนำสูตร โจ๊ก ไก่ ที่เรานำมาแบ่งปันกันในวันนี้ไปลองทำตามกันดู เชื่อว่าทุกคนจะต้องหลงรักในรสชาติแสนอร่อย ใครได้ทานก็ต้องร้องว้าวกันอย่างแน่นอน

เปิดสูตรลับเมนู โจ๊ก ไก่ อาหารเช้ายอดนิยม ทำตามได้ง่าย

โจ๊กไก่สับ วิธีทํา

สำหรับใครที่อยากจะทำเมนูอาหารเช้าอร่อย ๆ ทานกันที่บ้าน ในวันนี้เราก็จะมาแนะนำสูตรการทำ โจ๊ก มาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดูถึง 3 สูตรด้วยกัน ซึ่งแต่ละสูตรที่เราเตรียมมานี้ก็มีทั้งโจ๊กไก่ โจ๊กไก่เห็ดหอม และโจ๊กโบราณ โดยโจ๊กแต่ละสูตรนั้นก็มีรสชาติและวิธีการทำที่แตกต่างกันออกไป หากใครอยากรู้กันแล้วว่าเมนู โจ๊กไก่ ที่เราเตรียมมาวันนี้จะมีทีเด็ดอย่างไรบ้าง งั้นตามเราไปดูวิธีการทำเมนู อาหารเช้า ยอดนิยมกันเลยดีกว่า

แนะนำ 3 เมนู โจ๊ก ไก่ เมนูเด็ด อาหารทำเองได้ง่าย 

สูตรที่ 1 การทำ โจ๊ก ไก่ ฉีก

โจ๊กไก่โบราณ

วัตถุดิบสำหรับทำ โจ๊ก ไก่

  1. เนื้ออกไก่ 300 กรัม
  2. ซี่โครงไก่ 2 โครง
  3. ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  4. พริกไทย 2 ช้อนชา
  5. ซองปรุงรส 2 ช้อนชา
  6. น้ำเปล่า 3 ลิตร
  7. ข้าวสาร 1 ถ้วยตวง
  8. เกลือ 1 ช้อนชา
  9. รากผักชีไทย 1 ช้อนชา
  10. กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  11. พริกไทย 2 ช้อนชา
  12. ขิงซอย 2 ช้อนชา

วิธีการทำโจ๊กไก่

  1. นำข้าวสารมาแช่ไว้ในน้ำอุ่นเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นตั้งหม้อแล้วต้มน้ำให้เดือดด้วยไฟกลาง แล้วใส่โครงไก่และเนื้ออกไก่ตามลงไปต้มต่อเป็นเวลา 10 นาที
  2. จากนั้นให้ใส่กระเทียม รากผักชี และพริกไทยตามลงไป ปรุงรสชาติด้วยเกลือและพริกไทย แล้วต้มทุกอย่างจนกว่าจะเปื่อยเป็นเวลา 1 ชั่วโมง
  3. หลังจากที่ได้น้ำซุปไก่ออกมาแล้ว ให้นำอกไก่มาฉีกเป็นชิ้น ๆ แล้วเร่งด้วยไฟกลาง จากนั้นตั้งหม้อต้มอีกครั้งหนึ่งแล้วนำข้าวสารที่ผ่านการแช่ในน้ำอุ่นมาต้มต่อเป็นเวลา 45 นาที
  4. โดยในระหว่างที่ต้มให้พยายามคนข้าวสารเรื่อย ๆ จนกว่าข้าวจะเปื่อยได้ที่ หลังจากที่ข้าวต้มเริ่มมีเนื้อเละเป็นโจ๊กแล้วให้ตักขึ้นมาพักไว้ในถ้วยได้เลย
  5. หลังจากที่ตักขึ้นมาใส่ถ้วยไว้แล้วก็ให้ใส่ขิงซอย กระเทียม และต้นหอมซอยตามลงไปได้เลย

สูตรที่ 2 การทำ โจ๊กเห็ดหอม

โจ๊กไก่ฉีกรสเด็ด

วัตถุดิบสำหรับทำ โจ๊กไก่เห็ดหอม

  1. ข้าวเหนียว 200 กรัม
  2. ข้าวสาร 200 กรัม
  3. เห็ดหอมแห้งแช่น้ำ 200 กรัม
  4. ผงปรุงรสเห็ดหอม 1 ช้อนโต๊ะ
  5. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  6. คื่นฉ่ายซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  7. ขิงอ่อนซอย 2 ช้อนโต๊ะ
  8. พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
  9. เนื้อไก่สับ 300 กรัม

วิธีการทำทำโจ๊กไก่เห็ดหอม เมนูอาหารจีนโบราณ

  1. นำข้าวสารและข้าวเหนียวมาผสมรวมกัน แล้วนำไปต้มในน้ำเดือดเป็นเวลา 1 ชั่วโมง จากนั้นนำเห็ดหอมมาล้างทำความสะอาดแล้วแช่เห็ดหอมทิ้งไว้น้ำเป็นเวลา 10 นาที 
  2. ก่อนจะนำเห็ดหอมมาหั่นเป็นชิ้นบาง ๆ ให้แบ่งเห็ดหอมไว้เป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกให้เตรียมไว้สำหรับต้มในหม้อข้าว ส่วนที่สองให้เตรียมไว้สำหรับใช้ในการทำกระเทียมเจียว
  3. ปรุงรสชาติ โจ๊ก ไก่สับ เห็ดหอมด้วยซีอิ๊วขาวและผงปรุงรสเห็ดหอม จากนั้นเคี่ยวโจ๊กจนกว่าจะได้เนื้อเนียนละเอียด แล้วให้ใส่ขิงอ่อนสดซอยตามลงไป จากนั้นปิดแก๊สแล้วพักโจ๊กทิ้งไว้
  4. ต่อมาให้ตั้งกระทะแล้วเปิดไฟกลาง จากนั้นนำให้เรานำเห็ดหอมลงไปทอดในกระทะแล้วปรุงรสชาติด้วยผงปรุงรสและซอสฝาเขียว จากนั้นทอดเห็ดหอมจนกว่าจะเหลืองกรอบได้ที่ ก็พร้อมตักโจ๊กเสิร์ฟลงถ้วยกันได้เลย

สูตรที่ 3 การทำ โจ๊กไก่โบราณ

โจ๊กไก่อิสลาม

วัตถุดิบสำหรับทำโจ๊กไก่ อาหารจีนพื้นบ้าน

  1. ข้าวหอมมะลิ 200 กรัม
  2. ไก่บด 300 กรัม
  3. กระเทียม 3 ช้อนโต๊ะ
  4. หัวหอม 50 กรัม
  5. ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ
  6. ต้นหอมซอย 2 ช้อนชา
  7. ผักชีซอย 3 ช้อนชา
  8. เกลือ 2 ช้อนชา
  9. กระเทียม 3 กลีบ

วิธีการทำ โจ๊กไก่สูตรโบราณ 

  1. เริ่มแรกให้นำข้าวสารมาตำให้เป็นเนื้อเนียนละเอียด จากนั้นตั้งหม้อต้มด้วยไฟกลางแล้วใส่น้ำซุปไก่ลงไปตามด้วยข้าวสารที่เราเตรียมไว้ จากนั้นปรุงรสชาติด้วยพริกไทย กระเทียม และหัวหอมใหญ่
  2. นำเนื้อไก่บดมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆ แล้วนำลงไปต้มในหม้อต้มจนกว่าเนื้อจะเดือด แล้วปรุงรสชาติด้วยเกลือและซีอิ๊วดำ แล้วคนข้าวจนกว่าจะเป็นเนื้อเละ ๆ
  3. เมื่อโจ๊กเริ่มมีเนื้อที่เหนียวข้นขึ้นแล้ว ก็ปิดแก๊สตักใส่ถ้วย พร้อมกับโรยต้นหอมซอย ผักชีซอย กระเทียม และหัวหอมซอยได้เลย

เคล็ดลับความอร่อยของโจ๊กไก่ เมนูอาหารเช้าที่ใครก็ชื่นชอบ

โจ๊กไก่ วิธีทํา

จบกันไปแล้วสำหรับวิธีการทำเมนู อาหารจีน ยอดนิยมอย่างโจ๊กไก่ ที่เราพาทุกคนไปทำกันในวันนี้ เห็นไหมว่าวิธีการทำโจ๊กไก่นั้นไม่ได้ยากอย่างที่คิดเลย แถมเรายังได้ทักษะในการทำ เมนูอาหารจีนง่ายๆ เพิ่มขึ้นด้วย หากใครเบื่อ ๆ และไม่รู้ว่าเช้านี้จะทานเมนูไหนกันดี ก็อย่าลืมนำสูตรโจ๊ก ไก่ ไปลองทำตามกันดูนะ เชื่อว่ารสชาติอร่อยเด็ดไม่แพ้ร้านอาหารแน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

เคล็ดไม่ลับทำ ลาบ อีสาน ให้รสอร่อยนัว เหมือนไปทานที่ร้าน

ลาบ อีสาน

วันหยุดสุดสัปดาห์นี้หากใครยังไม่รู้ว่าจะทำเมนูอะไรทานกันดี วันนี้เราก็ได้รวบรวมเมนูอาหารแสนอร่อยที่ทานบ่อยแค่ไหนก็ไม่มีเบื่อ กับเมนูที่ชื่อว่า ลาบ อีสาน มาแบ่งปันทุกคนกัน ด้วยเอกลักษณ์ของเมนูนี้ที่มีความหอมอร่อยและรสชาติแซ่บนัว ไม่ว่าจะนำมาทานคู่กับข้าวเหนียวหรือขนมจีน ก็อร่อยเลิศได้แบบไม่ซ้ำใคร แต่การจะปรุงเมนูนี้ให้ได้รสชาติอร่อยแท้เหมือนต้นตำหรับนั้น ก็อาจจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญไปสักหน่อยสำหรับมือใหม่หัดเข้าครัว วันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปลองทำเมนูอีสานแซ่บ ๆ นี้แบบง่าย ๆ กัน

เปิดสูตรลับเมนู ลาบ อีสาน เมนูที่ใครได้ทาน ก็ต้องร้องว้าว

ลาบ อีสาน

สำหรับใครที่ชอบทาน อาหารอีสาน เป็นชีวิตจิตใจ แน่นอนว่าวันนี้เราก็ได้ลิสต์วิธีการทำเมนูอาหารอร่อย ๆ อย่าง ลาบ หมู อีสานและ ลาบหมูลาว มาฝากทุกคนกัน โดยแต่ละเมนูที่เราจะพาทุกคนไปทำกันวันนี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูที่ทำง่ายใช้วัตถุดิบไม่เยอะมาก แถมยังเป็นเมนูที่มีขั้นตอนไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่นัก ต่อให้อยู่หอพักหรือคอนโดที่ค่อนข้างมีพื้นที่จำกัดก็ทำได้แน่นอน ว่าแล้วก็อย่ารอช้ากันเลย ตามเราไปดูวิธีการทำ ลาบอีสาน ฉบับง่าย ๆ กันเลย

แจกสูตรลาบ อีสาน อาหารแซ่บ ทำทานง่าย

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหนึ่งในเมนูอาหารอีสาน ที่อัดแน่นไปด้วยโปรตีนจากเนื้อสัตว์ก็คงจะหนีไม่พ้นเมนูลาบ อีสาน โดยเมนูนี้จัดเป็นหนึ่งในเมนูอีสานที่ทำได้ง่ายและใช้เวลาไม่นานมากนัก ซึ่งถ้าใครมีโอกาสได้ลองเข้าครัวและอยากลองทำ เมนูอาหารแซ่บๆ กันดู ต้องลองเข้าครัวไปทำ สูตรอาหารไทย ที่เรานำมาฝากกันดู ว่าแต่ว่า เมนูอาหารไทย อย่างลาบหมูจะมีทีเด็ดและเคล็ดลับการทำอย่างไรบ้าง ตามมาชมกันเลย

ลาบ อีสาน

วัตถุดิบสำหรับการทำ ลาบ หมู อีสาน

  1. หมูสับ 500 กรัม
  2. ตับหมูต้ม 200 กรัม
  3. หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลา 3 ช้อนโต๊ะ
  5. น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกป่น 2 ช้อนชา
  7. ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
  8. ใบสะระแหน่ 1 ถ้วยตวง
  9. ใบมะกรูดซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  10. มะเขือเทศราชินี ½ ถ้วยตวง
  11. น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา
  12. ผักชีฝรั่งซอย 3 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลาบหมูอีสาน

ลาบ อีสาน
  1. นำเนื้อหมูที่เตรียมไว้มาลวนในหม้อจนกว่าเนื้อหมูจะสุกได้ที่ จากนั้นปรุงรสชาติด้วยน้ำมะนาว น้ำตาลทราย น้ำปลา ข้าวคั่ว พริกป่น แล้วคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เป็นเนื้อเดียวกัน
  2. หลังจากที่เนื้อหมูได้รสชาติที่ต้องการแล้ว ให้นำหัวหอมแดงซอย ผักชีฝรั่ง ใบมะกรูดซอยใส่ตามลงไปแล้วทำการคลุกเคล้าส่วนผสมให้เข้ากันอีกรอบหนึ่ง
  3. ตักส่วนผสมทุกอย่างใส่จานแล้วทำการโรยใบมะกรูดซอยและใบสะระแหน่ตามลงไปเป็นอันเสร็จสิ้นพร้อมรับประทานได้เลย

แจกสูตร ลาบ อีสาน ฉบับลาบหมูลาว รสแซ่บ สุดนัวน้ำปลาร้า

สำหรับใครที่สงสัยว่าลาบหมูลาวนั้นมีความแตกต่างจากลาบหมูไทยอย่างไร จริง ๆ แล้วเมนูนี้แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลย แต่จุดเด่นของเมนูลาบหมูลาวนั้นจะมีการใส่น้ำปลาร้าและปลีกล้วยซอยลงไปในเมนูนี้ ด้วยทำให้รสชาติที่ได้นั้นมีความแตกต่างจากเมนูลาบอีสานทั่วไปที่เราเคยทานกัน สำหรับใครที่อยากจะลิ้มลองรสชาติของลาบหมูลาวกันดู งั้นตามเรามาสำรวจวิธีการทำเมนู อาหารไทยง่ายๆ เลย

ลาบ อีสาน

วัตถุดิบสำหรับการทำลาบหมูลาว

  1. หมูสับละเอียด 500 กรัม
  2. ปลีกล้วย 1 ถ้วยตวง
  3. หอมแดง 1 ถ้วยตวง
  4. ต้นหอมซอย 3 ช้อนโต๊ะ
  5. สาระแหน่ 2 ช้อนโต๊ะ
  6. พริกขี้หนูป่น 2 ช้อนโต๊ะ
  7. พริกป่น 3 ช้อนโต๊ะ
  8. น้ำปลาร้า 3 ช้อนโต๊ะ
  9. มะนาว 3 ช้อนโต๊ะ
  10. ข้าวคั่ว 3 ช้อนโต๊ะ
  11. กระเทียม 2 ช้อนโต๊ะ
  12. ข่า 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำลาบหมูลาว

ลาบ อีสาน
  1. 1 .ขั้นตอนแรกให้นำกระเทียม หอมแดง ข่า ต้นหอมซอย ผักไผ่ พริกขี้หนู และเครื่องลาบมาซอยให้ละเอียด นำปลาร้าไปต้มไฟอ่อนจนกว่าเนื้อปลาร้าจะเละได้ที่ แล้วนำน้ำปลาร้าที่ได้เก็บใส่ถ้วยแล้วพักไว้
  2. ตั้งกระทะด้วยไฟกลาง จากนั้นนำกระเทียมลงไปผัดให้พอหอมกรุ่น แล้วตามด้วยการใส่หมูสับลงไปรวนให้สุกแล้วตักเนื้อหมูที่สุกแล้วใส่จานให้เรียบร้อย
  3. นำเครื่องปรุงที่เตรียมไว้เมื่อครู่ใส่ลงไปในถ้วย แล้วตามด้วยพริกป่น น้ำปลาร้า และน้ำมะนาว จากนั้นใส่เนื้อหมูต้มสุกตามลงไปแล้วคลุกเคล้าส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากัน
  4. นำหัวปลีที่เตรียมไว้มาคลุกกับลาบหมูแล้วคนส่วนผสมทุกอย่างให้เข้ากันอีกรอบ เพียงเท่านี้ก็พร้อมรับประทานลาบหมูลาวได้เลย

เคล็ดลับการทำลาบอีสานให้อร่อยเด็ดเผ็ดซี๊ด เหมือนต้นตำหรับ

ลาบ อีสาน

จบกันไปแล้วสำหรับวิธีการทำ ลาบ หมู บ้านๆ ที่เรานำมาแบ่งปันกันวันนี้ หากใครที่อยากจะเปิดประสบการณ์การทำลาบอีสานด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ ต้องอย่าลืมนำสูตรอาหารที่เรานำมาแบ่งปันกันวันนี้ไปลองทำตามกันดู เชื่อว่ารสชาติที่ได้ออกมาจะมีความกลมกล่อมครบเครื่อง อร่อยเด็ดเผ็ดซี๊ด เหมือนต้นตำหรับแท้แน่นอน

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

ลาบ เหนือ เมนูอาหารสุดฮิต รสแซ่บที่ต้องลอง

ลาบ เหนือ

ถ้าจะนึกถึงเมนูอาหารภาคเหนือที่เรียกได้ว่ามีรสชาติแสนแซ่บ ถูกปากถูกใจชาวเหนือเป็นอย่างมาก อีกเมนูหนึ่งที่คนมักจะนึกถึงก็คือ เมนู ลาบ เหนือ นั่นเอง โดยลักษณะของเมนูนี้ เป็นเมนูที่มักจะใช้เนื้อหมูสับมาปรุงให้สุกแล้วผสมกับเครื่องต่าง ๆ ซึ่งแน่นอนว่ามีลักษณะคล้ายคลึงกับลาบของทางภาคอีสาน แต่มักจะมีการปรับเปลี่ยนหรือเพิ่มเติมส่วนผสมอื่นลงไปเพื่อให้เข้ากับสไตล์การรับประทานอาหารของคนทางภาคเหนือ จึงได้อาหารที่รสชาติกลมกล่อม มีรสชาติแซ่บถึงใจ ต้องลองกันให้ได้ 

ชวนรู้จัก ลาบ เหนือ พร้อมที่มาของอาหารสุดจัดจ้าน

ลาบ เหนือ

รู้จักที่มาของอาหารประเภทนี้กันเรียบร้อยแล้ว ก็มาดูกันว่า ที่มาของ อาหารเหนืออร่อยๆ อย่างเมนูนี้มีที่มาอย่างไรบ้าง เมนูนี้มีอีกชื่อหนึ่งว่า “ลาบเมือง” เป็นเมนูท้องถิ่นในภาคเหนือ โดยที่ในสมัยก่อนนั้นมักจะทำรับประทานกันในช่วงที่มีเทศกาลหรืองานประเพณีสำคัญต่าง ๆ เท่านั้น ไม่ได้หารับประทานได้บ่อยมากนัก แต่ในปัจจุบัน ลาบเหนือ นั้นกลายเป็น อาหารเหนือ ที่ได้รับความนิยม เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากยิ่งขึ้น จึงสามารถหารับประทานได้อย่างง่ายดาย

ลาบเหนือ กับเคล็ดลับปรุงรสให้เด็ด ตามแบบฉบับชาวเหนือ

สำหรับใครที่ต้องการทำเมนู ลาบ หมู เหนือ ให้อร่อย รสเด็ด เรามีเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณทำได้อร่อยมากยิ่งขึ้น แนะนำให้ทำ ลาบ คั่ว เหนือ โดยเพิ่มหนังหมูลงไปในลาบ เพื่อให้เมนูนี้มีรสสัมผัสยิ่งขึ้น รับประทานแล้วติดใจ พร้อมทั้งใส่หอมเจียว กระเทียมเจียว เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้ลาบอร่อยมากยิ่งขึ้น ใครที่ชื่นชอบเมนูลาบ เหนือแสนอร่อย ก็สามารถนำเอาเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ปรุงอาหารได้เลย รับรองว่าไม่ว่าจะทำกี่ครั้งก็ได้รสเด็ดแน่นอน

ลาบ เหนือ

วัตถุดิบ ลาบเหนือ ใส่อะไรบ้าง 

  1. หมูสับ 400 กรัม
  2. หนังหมูติดมัน 100 กรัม
  3. ดับหมู 100 กรัม
  4. ไส้หมู 100 กรัม
  5. เลือดหมู 150 มิลลิลิตร
  6. พริกลาบเหนือ 10 ช้อนโต๊ะ
  7. ผักแพ้ว 1 กำเล็ก
  8. ต้นหอม 4-5 ต้น
  9. ผักชี 4-5 ต้น
  10. หอมเจียว 5 ช้อนโต๊ะ
  11. กระเทียมเจียว 5 ช้อนโต๊ะ
  12. พริกป่น ตามชอบ
  13. น้ำปลา ตามชอบ
  14. น้ำตาล ตามชอบ
  15. ผงปรุงรส ตามชอบ

วิธีการทำลาบภาคเหนือ

ลาบ เหนือ
  1. สำหรับการทำลาบหมูของภาคเหนือ ขั้นตอนแรกให้เริ่มจากการผสมหมูสับกับเครื่อง แล้วนำไปผสมกับเลือดหมูให้เข้ากัน 
  2. จากนั้นนำกระทะตั้งไฟ ใส่หนังหมู เพื่อใช้แทนน้ำมัน ซึ่งการใช้น้ำมันจากหนังหมูนั้นจะทำให้กลิ่นหอม น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น 
  3. ใส่พริกลาบลงไป ผัดให้พอมีกลิ่นหอม จากนั้นใส่เนื้อหมูที่ผสมเลือด ตับหมู และใส่หมูลงไป ผัดให้เข้ากัน ปรุงรสชาติ ลาบ หมู ด้วยการใส่พริกป่น น้ำปลา น้ำตาล และผงปรุงรส เพิ่มกลิ่นหอมด้วยผักแพ้วและผักชี 
  4. ปิดไฟ ยกลงจากเตา จัดจาน ก่อนเสิร์ฟโรยหน้าด้วยหอมเจียวและกระเทียมเจียว ก็จะได้ลาบอร่อย ๆ ไว้รับประทานแล้ว

วัตถุดิบการทำสูตร พริกลาบเหนือ

  1. พริกแห้งจินดา 20 บาท
  2. มะแขว่น 50 กรัม
  3. เมล็ดผักชี 50 กรัม
  4. กระเทียมไทย 150 กรัม
  5. ข่า 170 กรัม
  6. ตะไคร้ 4 ต้น
  7. เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
  8. ผงชูรส 2 ช้อนโต๊ะ
  9. กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
ลาบ เหนือ

วิธี ทํา พริก ลาบเหนือ สไตล์ภาคเหนือ

  1. นำมะแขว่น เมล็ดผักชีและพริกแห้งจินดา มาคั่วให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น โดยใช้ไฟอ่อน เพื่อไม่ให้ไหม้ ขณะที่คั่วพริกจินดา นำเกลือใส่ลงไปด้วย คั่วให้พอหอมและกรอบ ตักขึ้นใส่จานพักไว้
  2. หั่นข่าและตะไคร้ให้เป็นแว่น จากนั้นนำมะแขว่นและเมล็ดผักชีที่พักไว้ มาโขลกให้ละเอียดในครก จากนั้นนำมาพักแยกไว้ 
  3. ตามด้วยการนำกระเทียมและตะไคร้มาโขลกแบบหยาบ ๆ ใส่ข่าและเกลือลงไป โขลกทุกอย่างให้พอแหลก ใส่พริกที่คั่วไว้ลงไปในครก โขลกทุกอย่างให้ละเอียด ตามด้วยมะแขว่น และกะปิ 
  4. เมื่อผสมให้เนื้อน้ำพริกเข้ากันแล้ว ก็เติมผงชูรสลงไปได้ เพื่อให้สามารถเก็บได้ยาวนานมากขึ้น อาจเพิ่มเกลือเพื่อให้ได้รสชาติตามชอบได้ เป็น สูตรอาหารไทย ที่มีความอร่อยเฉพาะตัวไม่น้อยเลย

อยากทำ ลาบ เหนือ ปรุงพริกลาบอย่างไร ให้ถึงเครื่อง

ลาบ เหนือ

หากต้องการปรุงพริกหรือเครื่องของลาบให้ได้รสชาติที่ลงตัว สิ่งที่สำคัญคือ การใส่มะแขว่นลงไป เพราะมะแขว่นเป็นพืชพื้นบ้านของทางภาคเหนือที่มีกลิ่นหอมแบบเอกลักษณ์ เรียกได้ว่าเป็นตัวชูรสและชูกลิ่นของ เมนูอาหารเหนือ อย่างลาบเหนือ ได้เป็นอย่างดี เป็นวัตถุดิบที่เรียกได้ว่าอยู่ในอาหารเหนือหลากหลายอย่างเลยทีเดียว ดังนั้นจะขาดมะแขว่นในการปรุงพริกสำหรับลาบไปไม่ได้อย่างแน่นอน นอกจากนี้การใส่พริกแห้งและกะปิ ก็ช่วยให้รสชาติจัดจ้านยิ่งขึ้นด้วย

รับประทานกับอะไรได้บ้าง

ลาบ เหนือ

อาหารไทยง่ายๆ อย่างลาบ เหนือนั้น ถึงแม้จะมีวิธีการทำที่ง่ายดาย รวมถึงในปัจจุบันอาจมีเครื่องปรุงอย่างพริกลาบสำเร็จรูปวางขาย ทำให้ปรุงลาบสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น แต่คนภาคเหนือก็ยังคงแสดงวัฒนธรรมการรับประทานอาหารผ่าน เมนูอาหารไทย ได้เป็นอย่างดี เพราะมักจะทานเคียงกับผักพื้นบ้านในท้องถิ่น เช่น ผักแพว ผักคาวตอง ผักชีฝรั่ง ยอดมะยม เป็นต้น ซึ่งนอกจากจะเอร็ดอร่อยตามแบบคนภาคเหนือแล้ว ยังช่วยบำรุงร่างกายได้ด้วย เป็นอีกหนึ่งเมนูที่รับประทานแล้วไม่ต้องกังวลเรื่องสุขภาพเลย

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

น้ำปู ทำเอง อร่อย เหมือนกินที่ภาคเหนือ

น้ำปู

วันนี้เราจะพาทุกท่านไปรู้จักกับ น้ำปู เครื่องปรุงรสภาคเหนือสูตรเด็ดพร้อมบอก วิธีเก็บรักษาน้ำปู อย่างไรให้หอมอร่อยไม่เปลี่ยน มาดูกันเลย

ส่วนผสมในการทำ น้ำปู

น้ำปู

น้ำปูอาหารถิ่นของทางภาคเหนือ หรือ น้ำปูเชียงใหม่ การเรียกชื่อ แล้วแต่ว่า เกิดและโตที่จังหวัดไหน ? ซึ่งอาหารชนิดนี้ มีความคล้ายกับ น้ำปลาร้า ของทางภาคอีสาน และ น้ำบูดูของทางภาคใต้ พูดง่าย ๆ คือ เป็นเครื่องปรุงของแต่ละภาค นำมาแต่งกลิ่นและรสให้กับอาหารเมนูนั้น

น้ำปู

น้ำปู๋ สำเนียงเหนือ เกิดจากการนำปูนา มาล้างให้สะอาด ว่ากันว่า ใช้ปูนาถึง 1 กิโลกรัม กว่าจะได้น้ำปู๋ 1 ถ้วยเล็ก ๆ ให้พี่น้องชาวเหนือได้รับประทาน โดยใช้วิธีนำปูนาที่ล้างสะอาดแล้ว มาตำในครกให้ละเอียด ตำกับตะไคร้ เพื่อลดกลิ่นคาว หรือเพิ่มในส่วนของใบขมิ้น ใบมะกอกหรือใบฝรั่งก็จะดับกลิ่นคาวจากตัวปูได้ จากนั้นเตรียมผ้าขาว กรองเอากากออก นำส่วนผสมที่กรองแล้วมาเคี่ยวในหม้อ เติมเกลือและน้ำมะกรูด เคี่ยวต่อจนเป็นสีดำและข้นถึงขนาดที่ว่า เมื่อนำมาหยดลงบนใบมะม่วง น้ำปู๋ไม่ไหล โดย จังหวัดน่าน จะเรียกเครื่องปรุงนี้ว่า น้ำปู๋พริก เกิดจากการผสมพริกป่นกับกระเทียม แล้วนำน้ำปูมาเคี่ยวจนเกือบแห้ง ซึ่งทางภาคเหนือ จะใช้น้ำปู๋แทนกะปิ น้ำปลา และเกลือ

วัตถุดิบน้ำปู

น้ำปูหรือน้ำปู๋ เป็นอาหารพื้นเมืองของทางภาคเหนือ เหมือนกับทางภาคใต้ ที่จะเป็นน้ำบูดู โดย มีวัตถุดิบที่ต้องเตรียมดังต่อไปนี้

  1. พริกหนุ่มเผา 7 เม็ด
  2. กระเทียมไทยเผา2-3 หัว
  3. น้ำปู 1-2 ช้อนโต๊ะ
  4. น้ำปลาตามชอบ
  5. ไข่ต้ม1-2 ฟอง
  6. ผักลวก ผักสด ต่างๆตามชอบ 
น้ำปู

วิธีทำ

ขั้นตอนที่ 1 นำพริกหนุ่มและกระเทียมไปเผาจากนั้นลอกเอาเฉพาะผิวออก อันเป็นจุดเริ่มต้นของการทำน้ำปู

ขั้นตอนที่ 2 นำพริกหนุ่มกับกระเทียมที่เผาและลอกเปลือกออกแล้ว ไปตำในครกให้ละเอียด รับประกัน จะได้รสชาติหอม แต่เผ็ดพอประมาณ เหมือน น้ำปูปักษ์ใต้

ขั้นตอนที่ 3 ใส่น้ำปูที่เตรียมไว้ มาคลุกกับส่วนผสมน้ำพริกหนุ่มและกระเทียมที่ตำละเอียดแล้ว เคล้าให้เข้ากัน หรือใครที่ยังนึกภาพไม่ออก ดูตัวอย่างวิธีการทำ น้ำปูpantip จากนั้นชิมรส ถ้ายังรู้สึกว่า ขาดรสเค็ม เติมน้ำปลาลงไปได้เลย

ขั้นตอนที่ 4 วิธีรับประทานน้ำปู เหมือนกินกับน้ำพริก กินคู่กับไข่ต้ม ข้าวสวย ผักลวก แล้วแต่เรา จะเป็นบล็อคโคลี แครอท กะหล่ำปลี ผักบุ้ง มะระขี้นก หรืออื่น ๆ 

น้ำปู

น้ำปูถือว่าเป็นอาหารเรียกน้ำย่อยๆ ที่ได้ผลค่อนข้างดี เป็นอีกหนึ่งเมนูสำหรับผู้ที่ต้องการจะควบคุมน้ำหนักหรือลดความอ้วน อีกทั้ง ยังนำมาราดกินกับขนมจีนไปพร้อมกับแหนม ก็อร่อยและเข้ากันมาก ๆ จะเลือกกินแบบไหน อยู่ที่ความชอบ ทำให้น้ำปู เป็นอีกหนึ่งเมนูที่น่าสนใจและใครก็ทำได้ การเก็บรักษา เก็บในที่อากาศถ่ายเทสะดวก ไม่ร้อนจนเกินไป หรือ ถ้าปรุงแล้ว เก็บในตู้เย็น กินได้หลายมือ

อ่านบทความอื่นๆ:

Categories
สูตรอาหาร

อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ อาหารลาวสไตล์บ้าน ๆ รสอร่อยหอมนัวแซ่บสะใจ 

อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ

พอนึกถึง แกงอ่อม อาหารลาวนัว ๆ หอมแซ่บเครื่องแกงทีไร น้ำลายไหลทุกทีเลย เพื่อน ๆ ว่าไหม แถมวันนี้ลงตลาดเจอวัตถุดิบอร่อย ๆ อย่างเอ็นวัวด้วยแล้ว ต้องจัดเมนูนี้เลยจ้า อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ สูตรนัว ๆ เครื่องแกงแน่น ๆ แซ่บ ๆ ซี้ดเผ็ดเค็ม กลิ่นปลาร้าหอม ๆ กับข้าวเหนียวร้อน ๆ เครื่องดื่มเย็น ๆ บอกเลยจัดเสิร์ฟที่ไรเกลี้ยงหม้อทุกที อิ่มอร่อยท้องไปตาม ๆ กัน ว่าแล้วก็น้ำลายไหลเราไปลงครัวกันเลยดีกว่า

อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ อาหารลาวสุดแซ่บ ครบเครื่องสมุนไพรแน่น ๆ

อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ

อาหารลาวอร่อย ๆ อย่างอ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ เด็ดที่น้ำซุปปลาร้านัว ๆ เผ็ด ๆ ที่ซดได้คล่องคอ ดังนั้นเครื่องพริกแกงต้องแน่นนั่นเอง วัตถุดิบและส่วนผสมที่ให้ไว้เพื่อน ๆ สามารถปรับเพิ่มหรือลดปริมาณตามชอบได้เลยนะ ใครชอบเผ็ดเพิ่มพริก ใครชอบรสอ่อนก็ลดพริกกันไป และใครที่ชอบผักเยอะ ๆ ก็เพิ่มผักกันไปได้เลย ในที่นี้เราเพิ่มรสอร่อยของอ่อมเอ็นวัวด้วยผักนางเลิศหรือใบชะพลูหอม ๆ นะเพราะชอบโดยส่วนตัว ว่าแล้วไปดูสูตรกันเลยจ้า

วัตถุดิบและส่วนผสม

  1. เอ็นวัว ½ กิโลกรัม
  2. กระดูกหางวัว ½ กิโลกรัม
  3. ต้นหอม ผักชี 1-2 กำมือ
  4. พริกกระเหรี่ยง ตามชอบ
  5. น้ำปลาร้า
  6. น้ำปลา
  7. ผงปรุงรส 1 ช้อนชา
  8. ใบมะกรูด 3-4 ใบ
  9. ใบนางเลิส 1 กำ
  10. น้ำเปล่า
อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ

ส่วนผสมเครื่องแกง

  1. พริกจินดาแดง 10 เม็ด
  2. กระเทียม 10 กลีบ
  3. หอมแดง 4-5 หัว
  4. ตะไคร้ 2-3 ต้น
  5. ข่า 3 แว่น
  6. เกลือ เล็กน้อย

ขั้นตอนและวิธีทำ

  1. นำเอ็นวัวและกระดูกหางวัวมาหั่นเป็นชิ้น ๆ พอดีคำ พักไว้ 
  2. โขลกเครื่องพริก พริกจินดาแดง กระเทียม หอมแดง ตะไคร้ ข่า ใส่เกลือเล็กน้อย โขลกพอหยาบ พักไว้
  3. ตั้งหม้อต้มน้ำเปล่าให้เดือด จากนั้นใส่เครื่องพริกลงไปต้มต่อสัก 5 นาทีให้หอมกลิ่นสมุนไพร (ต้มเครื่องพริกก่อนจะทำให้กลิ่นสมุนไพรลดความคาวของเอ็นวัวได้ดี) จากนั้นใส่เอ็นวัวและกระดูกหางวัวลงไป ปรุงรสด้วยผงนัว น้ำปลาร้า น้ำปลา ชิมรสตามชอบแล้วตั้งไฟต้มตุ๋นต่อไปเรื่อย ๆ ระหว่างต้มให้ช้อนฟองอากาศทิ้งด้วยเพื่อให้น้ำแกงใสน่าทานยิ่งขึ้น
  4. จัดการเด็ดใบนางเลิศหรือใบชะพลูเตรียมไว้ หากใบใหญ่เกินก็หั่นซอยให้เล็กลงได้ หั่นต้นหอม ผักชี และฉีกใบมะกรูดเตรียมไว้
  5. รอจนน้ำงวดสักสองรอบและเอ็นวัวเปื่อยได้ที่ ใส่ผักนางเลิศ ใบมะกรูดฉีก ลงไปคนให้ทั่ว ใครมักเผ็ดใส่พริกกระเหรี่ยงสดเพิ่มลงไปได้เลย ชิมรสอีกรอบ โรยต้นหอมผักชี ปิดเตาตักเสิร์ฟพร้อมข้าวเหนียวร้อน ๆ หรือเครื่องดื่มเย็น ๆ อร่อยแซ่บอย่าบอกใครเลยทีเดียว 
อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ

เห็นไหม อาการลาวรสอร่อยเมนูนี้ทำไม่ยากเลย แถมยังแซ่บซี้ดเผ็ดเค็มนัวลิ้นมาก ๆ อีกด้วย อ่อมเอ็นวัว ใส่ใบนางเลิศ จะกินคู่กับข้าวเหนียวร้อน ๆ เครื่องเคียงผักสดอย่างแตงกวากรอบ ๆ ตัดรสเผ็ดของน้ำซุปร้อน ๆ หรือเครื่องดื่มเย็นๆ ตามชอบยังไงก็อร่อยเหาะ ซดได้คล่องคอหลายเด้อ และใครที่ไม่ชอบเอ็นวัวเพราะเหนียวไป ก็อาจเปลี่ยนเป็นเอ็นแก้วได้อันนี้ก็แซ่บหลายเหมือนกัน ว่าแล้วอย่าลืมเข้าครัวโชว์ฝีมือกันน่ะ 

ผักนางเลิศ หรือ ใบชะพลู สรรพคุณดี ๆ ต่อร่างกาย

รู้ไหมว่าผักนางเลิศหรือใบชะพลูที่เราเห็นกันตามรั้วบ้านนอกหรือตามตลาดสดนั้นจัดว่าเป็นพืชสมุนไพรพื้นบ้านที่มากด้วยประโยชน์ดี ๆ ต่อร่างกาย เขามีสรรพคุณทางยาช่วยให้เจริญอาหาร และต่อต้านอนุมูลอิสระได้ดี แถมยังมีเบต้าแคโรทีนที่สูงช่วยบำรุงและรักษาสายตาแก้โรคตาฟางได้ ตลอดจนยังมีสารที่ช่วยยับยั้งและชะลอการขยายตัวของเซล์มะเร็ง ใครเจอวัตถุดิบปรุงอาหารอร่อย ๆ ชนิดนี้อย่าพลาดกันเลยทีเดียว แต่ก็ไม่ควรกินมากเกินไปหรือบ่อยจนเกินไปด้วยนะ เพราะอาจทำให้เวียนหัวและเกิดนิ่วในไตได้ นั่นเอง

อ่อมเอ็นวัวใส่ผักนางเลิศ

สรุป 

อ่อมเอ็นวัว ใส่ใบนางเลิศ เป็นอีกหนึ่งอาการลาวเพื่อสุขภาพที่นอกจากจะได้คุณค่าทางโภชนการดี ๆ จากเอ็นวัวและเครื่องพริกสมุนไพรแล้ว ยังได้ประโยชน์ดี ๆ จากใบนางเลิศอีกด้วย แถมเมนูอาหารอร่อย ๆ นี้ยังทานแล้วไม่อ้วนซึ่งถูกใจสาวกคนรักสุขภาพแน่ ๆ ว่าแล้วมื้อนี้ลงครัวไปทำสูตรนี้กันเลยจ้า

อ่านบทความอื่นๆ: